ถ้าอยากซื้อประกันภัยอย่างคุ้มค่า ลดความเสี่ยง ทำตาม 6 ข้อนี้ได้เลย

  1. พิจารณาความเสี่ยงภัยของตัวเอง ควบคู่ไปกับประกันภัย สิทธิ และสวัสดิการที่มีอยู่พิจารณาว่าเราเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือภัยต่าง ๆ มากแค่ไหน อย่าลืมดูว่ามีประกันภัย สิทธิหรือสวัสดิการอะไรอยู่บ้าง ถ้ามีอยู่แล้ว ความคุ้มครองและสวัสดิการต่าง ๆ ที่มีอยู่นั้นเพียงพอกับความต้องการไหม เช่น สมมติเรามีสิทธิประกันสังคมอยู่แล้ว แต่ต้องการดูแลค่ารักษาเพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม ก็สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการประกันภัยสุขภาพเพิ่มเติมได้

  2. เปรียบเทียบความคุ้มครอง รวมถึงเงื่อนไขและข้อยกเว้นการให้ความคุ้มครองผลิตภัณฑ์ประกันภัย โดยแต่ละแบบจะมีความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นที่แตกต่างกัน เช่น การประกันภัยสุขภาพบางฉบับจะกำหนดระยะเวลาไม่คุ้มครอง บางฉบับคุ้มครองถึงอายุ 80 ปี ในขณะที่บางฉบับคุ้มครองตลอดชีพ ดังนั้น ผู้ที่สนใจทำประกันภัย ควรเปรียบเทียบความคุ้มครองที่สนใจว่าแตกต่างกันอย่างไร และการประกันภัยฉบับไหน หรือประเภทไหน ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

  3. พิจารณารูปแบบการชำระ รวมถึงความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยของตัวเองผลิตภัณฑ์ประกันภัยในแต่ละรูปแบบจะมีค่าเบี้ยประกันภัยแตกต่างกันออกไปตามความคุ้มครองที่กำหนดไว้ ซึ่งการประกันภัยในปัจจุบันมีตั้งแต่หลักสิบบาทไปจนถึง ราคาหลายหมื่นบาทหรือสูงกว่านั้น เราจึงควรพิจารณารูปแบบ ข้อกำหนด และความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยควบคู่ไปกับความต้องการของตัวเองด้วย เพื่อไม่ให้การทำประกันภัยเป็นภาระทางการเงินในอนาคต อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการชำระเบี้ยประกันภัยมีอยู่หลากหลายรูปแบบ เช่น ชำระเบี้ยประกันภัยแบบรายปี รายเดือน ราย 3 เดือน หรือราย 6 เดือน เป็นต้น ซึ่งทำให้เรามีความยืดหยุ่นในการเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยมากยิ่งขึ้น

  4. ต้องให้ข้อมูลตามจริงกับบริษัทประกันภัยเวลากรอกข้อมูลในใบคำขอเอาประกันภัย เพื่อให้บริษัทพิจารณารับประกันภัยได้ตรงกับความเป็นจริง และเมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น ทำให้ไม่มีข้อโต้แย้งหรือข้อพิพาทในเรื่องข้อเท็จจริงสำหรับการให้ความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยต่าง ๆ

  5. ศึกษาช่องทางการจำหน่าย ช่องทางการให้บริการ และช่องทางการติดต่อของบริษัทประกันภัย ทุกวันนี้ช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น เราสามารถเลือกซื้อประกันภัยได้ตามความสะดวก รวมถึงควรเปรียบเทียบและพิจารณาผลิตภัณฑ์ประกันภัยในแต่ละช่องทางที่อาจมีความแตกต่างกัน เนื่องจากการตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละกลุ่มคนที่แตกต่างกันด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจทำประกันภัยควรสำรวจ และพิจารณาช่องทางการให้บริการของบริษัทประกันภัยแต่ละราย เพื่อความสะดวกในการติดต่อธุรกรรมต่าง ๆ ภายหลังการทำประกันภัยด้วย

  6. หาข้อมูลเรื่องการบริการหลังการขายและข้อมูลความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัย บริษัทประกันภัยแต่ละแห่งให้บริการหลังการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่แตกต่างกัน เราจึงควรเปรียบเทียบและหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลลูกค้าและการให้บริการหลังการขายของแต่ละรายด้วย นอกจากนี้ ควรศึกษาข้อมูลความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยที่สนใจ โดยสามารถศึกษาข้อมูลดังกล่าวได้จากหลายช่องทาง รวมถึงเว็บไซต์ของบริษัทประกันภัยนั้น ๆ และเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

#สภาองค์กรของผู้บริโภค#ประกันภัย#ประกันสุขภาพ#ประกันโควิด19#ประกันชีวิต#ผู้บริโภค