11.11 ชอปอย่างมีสติ รู้ให้ทันป้องกันโดนหลอก

11.11 วนกลับมาอีกครั้ง นักชอปออนไลน์จะพลาดได้อย่างไร เทศกาลที่ร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ ออกโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม รวมถึงโปรโมชันส่งฟรีที่ขนกันมาโฆษณา แต่แม้ว่าจะมีสิ่งเหล่านั้นล่อตาล่อใจขนาดไหน ผู้บริโภคควรสังเกตและระมัดระวังในการเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์

สภาผู้บริโภคจะขอแนะนำ 5 วิธีป้องกันการโดนหลอกจากการซื้อของออนไลน์ ดังนี้

  1. ระวังสินค้าหลอกติดป้ายลดราคา การแปะป้ายโฆษณาว่าสินค้าที่จำหน่ายนั้นมีการลดราคาเป็นพิเศษจากปกติ เช่น พัดลมลดราคาพิเศษจาก 2,990 เหลือเพียง 1,990 บาท เป็นอีกวิธีที่ร้านค้าส่วนมากนิยมใช้ในการดึงดูดลูกค้า ซึ่งอาจจะมีร้านค้าที่ลดราคาจริงแต่ในขณะเดียวกันก็มีบางร้านค้าที่แอบตั้งราคาก่อนลดสูงเกินจริงและนำมาขายราคาปกติแต่กลับใช้คำว่าลดราคาพิเศษ ดังนั้นก่อนซื้อสินค้า ผู้บริโภคควรตรวจสอบราคาสินค้าชิ้นนั้นจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้ค้าออนไลน์ที่ติดป้ายลดราคา หลอกลวงผู้บริโภค
  2. โค้ดส่วนลดเป็นจำนวนมาก และแม้จะเขียนแจ้งว่าโค้ดส่วนลด โดยคิดส่วนลดเป็น % ของราคาสินค้า แต่โค้ดเหล่านี้มักแฝงเงื่อนไขต่าง ๆ แนะนำให้ผู้บริโภคควรตรวจสอบเงื่อนไขการใช้โค้ดส่วนลดอย่างถี่ถ้วนก่อน เนื่องจากอาจมีเงื่อนไขอื่น ๆ ระบุ เช่น ต้องซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาทหรือลดสูงสุดแค่จำนวนกี่บาท เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและได้รับสินค้ามาในราคาที่ไม่ตรงกับความเข้าใจแรกของผู้บริโภค
  3. ราคาถูกใจแต่ของข้างในไม่ตรงปก อีกหนึ่งปัญหาของการซื้อของออนไลน์ที่พบกันบ่อยคือการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์แล้วได้สินค้าที่ไม่ตรงปก ดังนั้นก่อนซื้อผู้บริโภคควรตรวจเช็กรีวิวหรือเลือกร้านค้าที่ไว้ใจได้ก่อนโอนเงิน โดยผู้บริโภคสามารถเข้าตรวจสอบรายชื่อร้านค้าหรือผู้ขายที่ถูกได้ทางแบนจากกรณีการโกง ได้ที่ www.blacklistseller.com และสามารถตรวจสอบการลงทะเบียนร้านค้าออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการ www.dbd.go.th เพื่อลดความเสี่ยงในการซื้อสินค้าจากช่องทางออนไลน์และหากพบปัญหาสามารถยื่นคำฟ้องต่อศาลแพ่งแผนกคดีออนไลน์ได้ที่ https://efiling3.coj.go.th/
  4. ระวังลิงก์โค้ดส่วนลดปลอม หากมีลิงก์โค้ดส่วนลดส่งมาในโทรศัพท์หรือแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาก่อนกดลิงก์ อาจเป็นกลลวงแก๊งคอลเซนเตอร์เข้ามาดูดเงินจากบัญชีธนาคาร
  5. หลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก เนื่องจากสถิติเรื่องร้องเรียนของสภาผู้บริโภคพบว่า ร้อยละ 90 ของผู้ร้องเรียนปัญหาซื้อของออนไลน์ส่วนใหญ่มาจากการซื้อสินค้าออนไลน์บนเฟซบุ๊กที่ยังไม่มีระบบตรวจสอบหรือลงทะเบียนผู้ขาย ผู้ซื้อมักเจอปัญหาหลอกลวงซื้อของแต่ไม่ได้ของ ติดต่อผู้ขายไม่ได้ ของไม่ตรงปก ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบผู้ขายได้โดยง่าย แนะนำว่าควรซื้อผ่านตลาดออนไลน์ เพราะมีระบบตรวจสอบร้านค้าและยืนยันตัวตน หากมีปัญหาสามารถเรียกร้องให้ตลาดออนไลน์รับผิดชอบได้

ทั้งนี้ หากผู้บริโภคท่านใดได้รับความเสียหายจากการซื้อสินค้าออนไลน์ แจ้งธนาคารให้อายัดบัญชีผู้ขาย และรวบรวมหลักฐาน เช่น หลักฐานโอนเงิน ข้อความแชท ภาพเพจร้านค้าและสินค้า ‘แจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด’ ที่สถานีตำรวจในพื้นที่โดยเร็วที่สุดหรือแจ้งความออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com  หรือโทร 1441 หรือสามารถแจ้งเบาะแสมาที่สภาองค์กรของผู้บริโภคได้ตามช่องทางด้านล่างดังต่อไปนี้

ร้องเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ tcc.or.th คลิกลิงก์ https://crm.tcc.or.th/portal/public   

ไลน์ออฟฟิเชียล (Line Official) : @tccthailand คลิกลิงก์ https://lin.ee/uhDyO1U

โทรศัพท์ : 02 239 1839 กด 1

อีเมล : [email protected]

อินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก (Facebook Inbox) : สภาองค์กรของผู้บริโภค

#สภาองค์กรของผู้บริโภค #สภาผู้บริโภค #ผู้บริโภค