| Getting your Trinity Audio player ready... |
อบจ.ประจวบ จับมือภาคีเครือข่ายผู้บริโภค เดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เตรียมพัฒนาเส้นทางรถสองแถวไฟฟ้า (EV Bus) เล็งจัดตั้งกองทุนสนับสนุน ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
สภาผู้บริโภค และหน่วยงานประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดเวทีประชุมภาคีเครือข่าย “ประจวบพัฒนาเมือง” เพื่อสานพลังความร่วมมือพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายก อบจ.ประจวบ คีรีขันธ์ เป็นประธาน พร้อมภาคีเครือข่ายผู้บริโภคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
สุรัติ มัจฉา ผู้รับผิดชอบโครงการประจวบพัฒนาเมือง ระบบขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีศักยภาพด้านท่องเที่ยว แต่ยังขาดระบบขนส่งสาธารณะที่ได้มาตรฐาน ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน โครงการฯ จึงมีการผลักดันให้เกิดระบบขนส่งสาธารณะปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นส่งเสริมบทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน
สำหรับเส้นทางที่มีศักยภาพในการพัฒนารถสองแถวไฟฟ้า (EV Bus) มี 2 เส้นทาง ที่ตอนนี้ยังไม่มีผู้ถือครองใบอนุญาต ได้แก่ สาย 8555 (ประจวบฯ – อุทยานฯ หว้ากอ) และ 8361 (ประจวบฯ – บ้านไร่เครา) โดยทั้งสองเส้นทางจะมีสำรวจความต้องการ ความพึงพอใจ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้กับผู้บริโภคร่วมกับ อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ และผู้ประกอบการภาคเอกชนต่อไป
ขณะที่สำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้เดินหน้าโครงการก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารใหม่ โดยทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการขอใช้พื้นที่บริเวณกิโลเมตรที่ 300 เพื่อก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสาร โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนรถตู้โดยสารกรุงเทพฯ – ประจวบฯ ที่หมดอายุ 10 ปีขึ้นไป ให้เป็นรถมินิบัส
ด้านนายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า การขับเคลื่อนระบบขนส่งสาธารณะของจังหวัดเป็นกระบวนการเชิงนโยบายที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้เกิดผลเป็นรูปธรรม มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยในการเดินทางอย่างยั่งยืน
ขณะนี้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังขาดโครงสร้างพื้นฐานของระบบขนส่งสาธารณะภายในเมือง ไม่มีสถานีขนส่งผู้โดยสาร แม้จะมีเส้นทางรถไฟผ่านแต่เป็นระบบรางระหว่างจังหวัด ทำให้ประชาชนต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนตัว ขณะที่ถนนสายหลักมีรถบรรทุกใช้เส้นทางจำนวนมากก่อให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ส่วนถนนสายรองไม่มีรถโดยสารประจำทาง ส่งผลให้ผู้ไม่มีรถส่วนตัวประสบความเหลื่อมล้ำในการเดินทาง
สำหรับแนวทางแก้ไขตามที่หลายฝ่ายเสนอการจัดตั้ง “กองทุนอุดหนุนผู้ประกอบการรถโดยสาร” เพื่อสนับสนุนให้เกิดรถโดยสารประจำทางภายในเมือง นายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ ยอมรับว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับท้องถิ่น แต่พร้อมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางดำเนินการให้เหมาะสมและยั่งยืนต่อไป
อดิศักดิ์ สายประเสริฐ อนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาองค์กรของผู้บริโภค เปิดเผยว่า สภาผู้บริโภคกำลังผลักดันให้ อปท. จัดตั้งกองทุนรถโดยสารประจำทาง เพื่อยกระดับระบบรถโดยสารให้ปลอดภัยและทันสมัย เช่น EV Bus มีการลดค่าโดยสาร และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เนื่องจากธุรกิจรถโดยสารมีความเสียงสูงและมีกำไรต่ำ โดยใช้งบประมาณจากรัฐบาลกลาง เงินสะสม และรายได้ของ อบจ. ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับกรมการขนส่งทางบกและกระทรวงมหาดไทย
อดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากกระทรวงมหาดไทยมีการออกกฎกระทรวง ฉบับที่ 64 (พ.ศ.2567) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 เปิดทางให้ อบจ. และเทศบาลถือใบอนุญาตเดินรถโดยสารสาธารณะได้สอดคล้องกับ พรบ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 หลายพื้นที่เริ่มสนใจขอรับใบอนุญาต เพื่อแก้ปัญหาเส้นทางไม่ครอบคลุมและบริการไม่ได้มาตรฐาน
“เสนอให้มีใบอนุญาตเดินรถโดยสารแบบยืดหยุ่น วิ่งประจำทางช่วงเช้า–เย็น และระหว่างวันให้บริการตามความต้องการ (On-Demand) เช่น จองล่วงหน้า หรือบริการถึงพื้นที่ชุมชน โดยจำเป็นต้องปรับแก้ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 เพื่อรองรับระบบใหม่นี้ ซึ่งเตรียมเสนอหารือกับอธิบดีกรมการขนส่งทางบกเร็วๆ นี้ “ อดิศักดิ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อบจ.กาญจนบุรีเดินหน้า เมืองต้นแบบขนส่งสาธารณะ คาด EV Bus เริ่มบริการปีใหม่นี้
ชงเปิดเส้นทาง รถเมล์ใหม่ เชื่อม 4 เขตชานเมือง แก้ปัญหารถช้า – รอนาน – แพง
