Ribbon

หลังน้ำท่วมรถพัง คนหาดใหญ่ร้อง รถเมล์ไฟฟ้า อย่าหยุดวิ่ง

Getting your Trinity Audio player ready...
หลังน้ำท่วมรถพัง คนหาดใหญ่ร้อง รถเมล์ไฟฟ้า อย่าหยุดวิ่ง

มหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหาดใหญ่ เมื่อปลายปี 2568 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะระบบการคมนาคมที่ถูกทำลายอย่างหนัก ภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันนำรถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการฟรีเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเดินทาง สภาผู้บริโภคสงขลา สนับสนุนจังหวัด ผู้ประกอบการนำรถเมล์ไฟฟ้าวิ่งให้บริการต่อเนื่อง เพื่อสร้างทางเลือกการเดินทางที่สะดวก ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้จริง

มหาอุทกภัยที่หาดใหญ่ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากมีรถยนต์ส่วนบุคคลได้รับความเสียหายอย่างน้อยกว่า 30,000 คัน และรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถสองแถวหลังคาสูง เสียหายมากกว่า 50 คัน ส่งผลให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างยากลำบากหลังจากน้ำลดลงมาแล้ว ในสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ ขนส่งจังหวัดสงขลา ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม และบริษัท ไทยสมายบัส และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หาดใหญ่ นำรถเมล์ไฟฟ้า (EV Bus) เข้ามาให้บริการฟรีแก่ประชาชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเดินทางขาดแคลน โดยจะสิ้นสุด วันที่ 25 ธันวาคม 2568

อย่างไรก็ตาม เสียงจากผู้บริโภคในพื้นที่ สะท้อนว่า ต้องการให้หน่วยงานในพื้นที่ขยายระยะเวลาให้บริการออกไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์นำท่วม นอกจากนี้ ยังคาดหวังให้นำรถเมล์ไฟฟ้ามาเป็นขนส่งสาธารณะที่ถูกใช้งานประจำในพื้นที่ เพื่อให้บริการประชาชนในระยะยาว

เสียงสะท้อนชาวหาดใหญ่ อยากเห็น “EV Bus” อยู่ต่อ

หลังน้ำท่วมรถพัง คนหาดใหญ่ร้อง รถเมล์ไฟฟ้า อย่าหยุดวิ่ง : สุชาดา ชัยเดช

สุชาดา ชัยเดช จากสมาคมผู้บริโภคสงขลา กล่าวถึงเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้บริการในหาดใหญ่ที่สะท้อนว่า การมีรถเมล์ไฟฟ้าวิ่งในเส้นทางดังกล่าว ช่วยให้ชาวหาดใหญ่เดินทางได้สะดวก ทั้งยังช่วยลดภาระการเดินทาง เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมทำให้รถยนต์ส่วนบุคคลและรถประจำทางเสียหายจำนวนมาก และหากระบบนี้ให้บริการต่อ แม้จะคิดค่าบริการตามจริง ก็ยังมีประชาชนยอมจ่าย เพราะเส้นทางของรถเมล์ไฟฟ้า ผ่านชุมชน สถานที่สำคัญ รวมถึงโรงเรียน 3 – 4 แห่งในตัวเมืองหาดใหญ่

แม้สมาคมผู้บริโภคสงขลาจะทำหนังสือไปยัง ขนส่งจังหวัด กรมการขนส่งทางบก  และ อบจ. สงขลา  เพื่อให้ขยายระยะเวลา แต่ยังไม่มีการตอบกลับ ด้วยเหตุผลว่ารถเมล์ไฟฟ้าที่มาให้บริการเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือช่วยเหลือในช่วงวิกฤตเพราะปกติรถรถเมล์ไฟฟ้าคันดังกล่าวเป็นของผู้ประกอบการไทยสมายล์บัส (Thai Smile Bus) จากกรุงเทพฯ ที่ถูกขนส่งไปที่หาดใหญ่เฉพาะกิจเพื่อช่วยเฉพาะช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น และหลัง 25 ธันวาคม 2568 รถจะกลับไปรับส่งผู้โดยสารตามเส้นทางปกติในกรุงเทพฯ

นอกจากความจำเป็นในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ผู้บริโภคอยากให้ “รถเมล์ไฟฟ้ารอบเมืองหาดใหญ่” กลายเป็นหนึ่งในระบบขนส่งสาธารณะของหาดใหญ่จริง ๆ ไม่ใช่วิ่งเพียงชั่วคราว

“คาดหวังให้หน่วยงานท้องถิ่นหรือผู้ประกอบการในจังหวัดเข้ามาลงทุนและร่วมมือกันทำให้เกิดระบบขนส่งสาธารณะ ในรูปแบบรถเมล์ไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับแผนของ อบจ. สงขลาเองที่เคยประกาศแผนจะพัฒนาระบบรถเมล์ไฟฟ้าอยู่แล้ว แต่ยังรอผลการศึกษาจาก สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ทั้งนี้ อยากให้ อบจ. เริ่มดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็ว ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเมือง” สุชาดา ระบุ

รถเมล์ไฟฟ้า : ทางเลือกใหม่ของท้องถิ่น

ปัจจุบันการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะของหลายจังหวัดในประเทศไทย ชี้ให้เห็นว่าการนำรถเมล์ไฟฟ้าไปให้บริการในเขตเมืองเป็นเรื่องที่ทำได้จริง เพียงแต่ต้องอาศัยการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ เช่น

ภูเก็ต

องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ภูเก็ตได้เริ่มให้บริการรถเมล์ไฟฟ้าในหลายเส้นทาง เพื่อรองรับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว โดยค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 15 บาทตลอดสาย และมีการยกเว้นค่าโดยสารให้กลุ่มพิเศษ เช่น นักเรียน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงระบบเดินทางอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และลดมลพิษในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ

ลำพูน

อบจ. ลำพูนทดลองวิ่งรถเมล์ไฟฟ้ารอบเมือง พร้อมจำลองเส้นทางจริงและร่วมทดสอบกับผู้พิการ เพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนให้บริการจริง แสดงให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมก่อนขยายระบบ เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ไปพร้อม ๆ กับความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในจังหวัดลำพูน

เชียงใหม่

อบจ. เชียงใหม่ เปิดตัวโครงการรถเมล์ไฟฟ้า จำนวน 40 คัน กำหนดค่าโดยสารไม่เกิน 20 บาทตลอดสาย โดยออกแบบเป็นรถชานต่ำรองรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มเปราะบาง พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยครบถ้วน ทั้งกล้องวงจรปิด ระบบติดตามรถแบบเรียลไทม์ เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจร ลดมลพิษ PM2.5 และรองรับกลุ่มผู้ใช้บริการที่หลากหลาย โดยมีการทดลองในเส้นทางหลักหลายสาย

กาญจนบุรี

          อบจ.กาญจนบุรี นำรถเมล์แอร์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นรถชานต่ำ และมีทางลาดรองรับรถเข็นวีลแชร์มาทดลองให้บริการในตัวเมืองกาญจนบุรี เส้นทางระหว่างตลาดลาดหญ้า – ท่าม่วง แสดงถึงความสนใจในการเปลี่ยนผ่านระบบขนส่งเดิมสู่พลังงานสะอาด

รถเมล์ไฟฟ้ากับเมืองทั่วโลก

รถเมล์ไฟฟ้าไม่ได้ตอบโจทย์เฉพาะเมืองในไทยเท่านั้น แต่ในเมืองใหญ่ระดับโลก ก็นำรถเมล์ไฟฟ้ามาใช้ในระบบขนส่งสาธารณะสำคัญเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น

ยุโรป

หลายเมืองใหญ่ในยุโรป เช่น กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ กำหนดเป้าหมายชัดเจนในการเปลี่ยนรถเมล์ดีเซลเป็นรถเมล์ไฟฟ้าและรถพลังงานสะอาด โดยลอนดอนมีการนำรถเมล์ไฟฟ้ามาใช้ในเส้นทางหลักจำนวนมาก ควบคู่กับนโยบาย “จำกัดยานพาหนะปล่อยมลพิษสูง” หรือ “Low Emission Zone” ส่วนกรุงปารีสตั้งเป้าเปลี่ยนรถเมล์ทั้งระบบเป็นพลังงานไฟฟ้าและก๊าซชีวภาพ เพื่อรองรับเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) สำหรับเมืองออสโล ข้อมูลเมื่อปี 2567 พบว่ามีรถโดยสารไฟฟ้าครอบคลุม ประมาณ 85% ของระยะทางที่รถโดยสารทั่วไปวิ่งในเมือง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับเริ่มต้นในปี 2561 ที่แทบไม่มีรถเมล์ไฟฟ้าเลย

สหรัฐอเมริกา

หลายเมืองในสหรัฐฯ เช่น ลอสแอนเจลิส นิวยอร์ก และซีแอตเทิล เริ่มนำรถเมล์ไฟฟ้ามาใช้โดยเน้นพื้นที่ชุมชนรายได้น้อยและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษสูง หน่วยงานขนส่งมองว่าประโยชน์ของรถเมล์ไฟฟ้าไม่ใช่เพียงการลดควันพิษ แต่เป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขในระยะยาว และช่วยให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางเข้าถึงระบบขนส่งที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ

เอเชีย

ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ นำรถเมล์ไฟฟ้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด “เมืองอัจฉริยะ” หรือ “Smart City” โดยญี่ปุ่นทดลองใช้รถเมล์ไฟฟ้าในเมืองท่องเที่ยวและเมืองขนาดกลาง เพื่อแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุ ขณะที่เกาหลีใต้สนับสนุนให้ท้องถิ่นลงทุนรถเมล์ไฟฟ้าผ่านเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลาง พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศควบคู่ไปด้วย ส่วนเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีนเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่น เพราะสามารถเปลี่ยนรถประจำทางทั้งหมดเป็น รถเมล์ไฟฟ้า จำนวนกว่า 16,000 คัน ส่งผลให้การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญและลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาว

จาก “รถเมล์ไฟฟ้าช่วยน้ำท่วม”สู่การขยายระบบอย่างยั่งยืน

กรณีรสบัสไฟฟ้าในหาดใหญ่ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการ เปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาส ทั้งในการบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า และการเปิดประตูสู่การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นในจังหวัดหาดใหญ่หรือภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศ

หากสามารถนำเสียงสะท้อนจากผู้ใช้บริการมาขับเคลื่อนเชิงนโยบายให้เกิดเป็น ระบบขนส่งสาธารณะที่ต่อเนื่องและมั่นคง จะช่วยเสริมศักยภาพเมืองไทยให้ไปสู่ระบบขนส่งที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคได้ในที่สุด


เปิด 7 พื้นที่ต้นแบบ “ขนส่งสาธารณะ” ทำได้จริงและยั่งยืน

นายก อบจ. ลำพูน พร้อทีมยุทธศาสตร์ ทดสอบวิ่งรถเมล์ไฟฟ้ารอบเมือง

พุ่งเป้า “เชียงใหม่ น่าอยู่” ด้วยแผน EV Bus เชียงใหม่ 20 บาท ลดฝุ่น / จราจร ทุกคนเข้าถึง

ความหวังใหม่เมืองกาญจน์? พาชมรถเมล์ไฟฟ้าทดลองวิ่งโฉมใหม่ ในเส้นทาง ตลาดลาดหญ้า-ท่าม่วง

How Oslo is powering a zero-emission future

How Shenzhen turned all its 16,000 buses fully electric