Getting your Trinity Audio player ready... |

สภาผู้บริโภค หารือ ‘Whoscall’ ผนึกกำลังเสริมเกราะผู้บริโภคไทยให้รู้เท่าทันกลโกงและเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ
วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ผู้แทนจากบริษัท โกโกลุก ประเทศไทย ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันฮูส์คอลล์ (Whoscall) เดินทางมาที่ สำนักงานสภาผู้บริโภค เพื่อร่วมประชุมหารือและแลกเปลี่ยนปัญหาผู้บริโภค ในเรื่องเกี่ยวกับการหลอกลวงทางโทรศัพท์ ออนไลน์ รวมถึงหลอกลวงในรูปแบบอื่น ๆ โดยตั้งเป้าให้ผู้บริโภคไทย ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ และการหลอกลวงต่าง ๆ

กชศร ใจแจ่ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกโกลุก ประเทศไทย กล่าวว่า นบริษัท โกโกลุก เป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชันฮูส์คอลล์ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้แอปฯ ฮูส์คอลล์สามารถเข้าถึงคนไทยได้มากขึ้น และมีฟีเจอร์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญได้มากขึ้น เพราะในแต่ละพื้นที่มีปัญหาที่แตกต่างกัน
ปัจจุบันมีแอปฯ ฮูส์คอลล์ฟีเจอร์ที่มากขึ้น เพื่อจะช่วยให้ผู้บริโภครู้ทันและปลอดภัยจากมิจฉาชีพ ยกตัวอย่าง เช่น การตรวจสอบเนื้อหา “All in one check” ที่ผู้บริโภคสามารถแคปหน้าจอที่คอนเทนต์ หรือโฆษณาต่าง ๆ ที่ไม่น่าไว้ใจ ส่งมาให้ฮูส์คอลล์ช่วยตรวจสอบ ฟีเจอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในประเทศไทยเท่านั้น เช่น ฟีเจอร์เอสโอเอส (SOS) ที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถกดปุ่มเพียงปุ่มเดียวและเลือกเบอร์ของธนาคารที่ต้องการติดต่อ ซึ่งจะเป็นสายตรงไปถึงเบอร์ของธนาคาร ฝ่ายที่ดูเลเรื่องภัยทุจริตทางการเงินโดยเฉพาะ ซึ่งจะทำให้สามารถระงับเหตุได้เร็วขั้น และมีโอกาสได้เงินคืนมากขึ้นด้วย
กชศร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาฮูส์คอลล์เคยมีฟีเจอร์ที่พัฒนาร่วมกับสภาผู้บริโภค คือฟีเจอร์เตือนภัย (Scam Alert) ที่จะมีการส่งแจ้งเตือนกัยเรื่องต่าง ๆ ให้กับผู้บริโภค เช่น เพจปลอม วิธีการหลอกลวงต่าง ๆ ของมิจฉาชีพ ทั้งนี้ ในอนาคตมองว่าอาจจะมีการพัฒนาแอปฯ ให้ครอบคลุมความต้องการของคนกลุ่มต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเรื่องการหลอกลวง เช่น เกิดอุบัติเหตุด้านสุขภาพ ต้องโทรเบอร์ไหน ติดต่อหน่วยงานใด เป็นต้น

สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า ภารกิจเรื่องการเตือนภัยและการจัดการปัญหาเรื่องมิจฉาชีพเป็นเรื่องหนึ่งที่สภาผู้บริโภคให้ความสำคัญ ดังนั้น สภาผู้บริโภคยินดีให้ความร่วมมือกับฮูส์คอลล์ทั้งในแง่ของการเตือนภัยผู้บริโภค และความร่วมมืออื่น ๆ ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับรู้ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ และสามารถคุ้มครองตัวเองได้ เช่น การจัดอบรมให้ความรู้ในเรื่องการหลอกลวงของมิจฉาชีพ หรือการพัฒนาร่วมกันเพื่อยกระดับการเตือนภัยผู้บริโภค จากปัจจุบันที่เป็นเรื่องการหลอกลวงส่งเพื่อเตือนภัยผู้บริโภคแบบด่วน ขยายไปสู่การเตือนเรื่องผู้บริโภคอื่น ๆ เช่น รถยนต์ชำรุดบกพร่อง อาหารอันตราย และพัฒนาความร่วมมือในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป ทั้งนี้ ต้องพูดคุยรายละเอียดกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะสามารถร่วมมือกันอย่างไรได้บ้าง

