| Getting your Trinity Audio player ready... |

สภาผู้บริโภค ร่วมกับ 60 ภาคีเครือข่ายอากาศสะอาด ประกาศจุดยืนร่วมเร่งสว.พิจารณาร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด เพื่อปกป้องสุขภาพคนไทยและแก้ปัญหาฝุ่นพิษอย่างยั่งยืน
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 สภาผู้บริโภค แถลงข่าวร่วมกับเครือข่ายอากาศสะอาด ประเทศไทย (Thailand CAN) และเครือข่ายภาคประชาชนรวม 60 องค์กร เรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาเร่งพิจารณาและผลักดันให้ “ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …” ให้ประกาศใช้ได้ทันในรัฐบาลปัจจุบัน เพื่อปกป้องสุขภาพของคนไทย หลังคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ขอให้มีการทบทวนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะกังวลว่าจะสร้างต้นทุนซ้ำซ้อนให้ภาคธุรกิจ
รศ.ดร.วิษณุ อรรถวานิช ผู้แทนสมาคมเครือข่ายอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ หนึ่งในผู้ร่างเสนอร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฉบับภาคประชาชน ระบุว่า หากร่าง พ.ร.บ. ถูกตัดเนื้อหาสำคัญตามข้อเสนอของภาคธุรกิจบางส่วน จะทำให้กฎหมาย “ไร้เขี้ยวเล็บ” และทำให้ประเทศไทยไม่สามารถแก้ปัญหามลพิษทางอากาศเชิงโครงสร้างได้จริง
“นี่คือกฎหมายเพื่อชีวิต สุขภาพ และอนาคตของคนไทย 65 ล้านคน หากกฎหมายอ่อนแอ ประเทศไทยก็จะพลาดโอกาสสำคัญในการยกระดับคุณภาพอากาศและความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน” รศ.ดร.วิษณุ กล่าว

นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) กล่าวว่า อากาศสะอาดคือสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน แต่ที่ผ่านมา ประชาชนต้องเผชิญ PM2.5 ต่อเนื่องทุกปีโดยไม่มีมาตรการที่ชัดเจน ทำให้ภาคประชาชนต้องลุกขึ้นรวมรายชื่อเสนอร่างกฎหมายเองกว่า 22,251 รายชื่อ
“กฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาผู้แทนฯ ด้วยเอกฉันท์ ใช้เวลาพิจารณากว่า 2 ปี ฝ่าทั้งอุปสรรคในสภาและนอกสภา แต่วันนี้กลับถูกภาคธุรกิจบางส่วนเคลื่อนไหวต่อต้าน ทั้งที่กฎหมายนี้ไม่ใช่อุปสรรคต่อการทำธุรกิจ หากแต่เป็นการคุ้มครองชีวิตคนไทย” นายสาวิทย์กล่าว

นอกจากนี้ สราวุธ สราญวงศ์ รองเลขาธิการฝ่ายวิชาการของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และรศ.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม นายกสมาคมเครือข่ายอากาศสะอาด และ รองประธานคณะกรรมาธิการ ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ คนที่ 4 วุฒิสภา ได้ร่วมกันอธิบายประเด็นสำคัญ 3 เรื่อง ที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แถลงเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งอาจทำให้สังคมเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ได้แก่
1) พ.ร.บ.อากาศสะอาด ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่น
ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดถูกออกแบบเพื่ออุดช่องว่าง และ บูรณาการกฎหมายสิ่งแวดล้อมเดิมที่กระจัดกระจาย ทำให้การแก้ปัญหามลพิษทางอากาศเป็นระบบมากขึ้น โดยมาตราในกฎหมายเดิมที่ไม่ขัดกับร่างใหม่ยังคงใช้งานได้ตามปกติ
2) กฎหมายระบุชัด ให้มีตัวแทนภาคเอกชน อยู่ในคณะกรรมการระดับชาติและจังหวัด
ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาดกำหนดให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในคณะกรรมการทั้งระดับชาติและจังหวัดอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้ระบุชื่อองค์กรอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น สภาหอการค้าฯ หรือสภาอุตสาหกรรมฯ เนื่องจากต้องการ “เปิดกว้าง” ให้ผู้ประกอบการหลากหลายขนาดสามารถมีส่วนร่วม ไม่ใช่ผูกขาดให้เฉพาะองค์กรใหญ่
3) ความเข้าใจเรื่องต้นทุนที่คลาดเคลื่อน
ร่างกฎหมายไม่ได้เก็บ “ค่าธรรมเนียมอากาศสะอาดตั้งแต่หน่วยแรก” และไม่ได้สร้างภาระทันทีต่อผู้ประกอบการ ตรงกันข้าม ร่างกฎหมายกำหนดมาตรการสนับสนุนด้านการเงิน ดอกเบี้ยต่ำ เงินอุดหนุน และมาตรการจูงใจ เพื่อช่วยผู้ประกอบการปรับปรุงเทคโนโลยี ลดมลพิษ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
“นี่ไม่ใช่กฎหมายของใครคนหนึ่ง แต่เป็นกฎหมายของประชาชนทั้งประเทศ เพื่ออากาศที่เราต้องหายใจร่วมกันทุกวัน” ตัวแทนภาคีเครือข่ายอากาศสะอาด ระบุ


สำหรับจุดยืนของสภาผู้บริโภคที่มีต่อร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อประชาชน พ.ศ. … นั้น สภาผู้บริโภคมองว่ากฎหมายดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่งต่อการคุ้มครอง “สิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภค” ในการอยู่อาศัยในสิ่งแวดล้อมที่ดีและปลอดภัย (Rights to Healthy Environment) ซึ่งเป็นหลักสิทธิผู้บริโภคสากลที่ประเทศไทยให้การรับรองต่อสหประชาชาติแล้ว ดังนั้น รัฐมีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อทำให้สิทธินี้เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวันของประชาชนทุกคน
ปัญหามลพิษทางอากาศไม่ใช่ประเด็นเชิงสุขภาพเท่านั้น แต่เป็น “สิทธิทางกฎหมาย” ที่ประชาชนสามารถใช้เพื่อปกป้องตนเองได้ ดังเช่นกรณีผู้บริโภคในจังหวัดเชียงใหม่ที่ยื่นฟ้องร้องรัฐบาลจากสถานการณ์ PM2.5 จนศาลมีคำพิพากษาให้รัฐต้องจัดทำแผนแก้ไขภายใน 90 วัน ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการใช้สิทธิผู้บริโภคด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ทั้งนี้ สภาผู้บริโภคยังเสนอให้บรรจุหลักการ “ผู้ก่อมลพิษต้องจ่าย (Polluter Pays Principle)” ลงในร่างกฎหมาย เพื่อให้ผู้ที่สร้างผลกระทบ ต้องมีความรับผิดชอบทั้งในด้านค่าใช้จ่ายและการเยียวยาความเสียหายทางสุขภาพของประชาชน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสภาผู้บริโภคได้ผลักดันให้มีการปรับปรุง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคเพื่อให้เท่าทันกับยุคสมัยมากขึ้นโดยเสนอให้เพิ่ม “สิทธิในการบริโภคที่ยั่งยืนและการดำรงชีวิตในสิ่งแวดล้อมที่ดีและปลอดภัย” ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 สิทธิผู้บริโภคใหม่ที่จะบรรจุในร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฉบับปรับปรุงใหม่ เพื่อทำให้สิทธิด้านสิ่งแวดล้อมถูกระบุในกฎหมายแม่บทอย่างชัดเจน และเปิดทางให้ประชาชนสามารถร้องเรียน ฟ้องร้อง หรือใช้กลไกกฎหมายคุ้มครองตนเองได้มากขึ้น
สภาผู้บริโภคเชื่อว่า การมีร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดที่เข้มแข็งไม่ใช่การลงโทษภาคธุรกิจ แต่คือการสร้าง “ความรับผิดร่วม” อย่างเป็นธรรม เพื่อทำให้ประชาชนมีอากาศสะอาดหายใจ และทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืนควบคู่กันไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุน พ.ร.บ.อากาศสะอาด “ใครก่อมลพิษต้องจ่าย” คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค
รายชื่อองค์กรที่ร่วมแสดงพลัง
1. เครือข่ายอากาศสะอาด ประเทศไทย (Thailand CAN)
2. สมาคมเครือข่ายอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ (CANHA)
3. สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)
4. สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.)
5. เครือข่ายเยาวชนเพื่ออากาศสะอาด (Youth for Clean Air Network)
6. สภาองค์กรของผู้บริโภค (Thai Consumers Council)
7. มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน (Community Resource Centre: CRC)
8. มูลนิธิการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม (Civicnet Foundation)
9. มูลนิธิรักษ์ไม้ใหญ่ (Big Trees Foundation)
10. เครือข่ายพ่อแม่ตื่นรู้สู้ภัยฝุ่น
11. สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (Human Rights Lawyers Association)
12. สถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย, มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ
13. Thai Climate Justice for All, สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา
14. เครือข่ายผู้เดือดร้อนจากฝุ่น
15. มูลนิธิโกมลคีมทอง
16. เครือข่ายอากาศสะอาดเพื่อคนขอนแก่น
17. สถาบันนโยบายศึกษา
18. เครือข่ายสหภาพไรเดอร์
19. SOS Earth
20. สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.)
21. มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.)
22. ศูนย์ผู้หญิงเพื่อสันติภาพและความเป็นธรรม
23. สถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคม
24. มูลนิธิโลกสีเขียว (Green World Foundation)
25. เครือข่ายประชาชนขจัดการเลือกปฏิบัติ (MovED)
26. มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (Foundation for Consumers)
27. มูลนิธิคนเห็นคน
28. ไบโอไทย (BIOTHAI)
29. ไทยแพน (Thai-PAN)
30. สมาคมควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคมภาคใต้
31. เครือข่ายอากาศสะอาดภาคเหนือตอนล่าง
32. เครือข่ายอากาศสะอาดจังหวัดพิษณุโลก
33. เครือข่ายอากาศสะอาดจังหวัดอุตรดิตถ์
34. เครือข่ายอากาศสะอาดจังหวัดสุโขทัย
35. เครือข่ายอากาศสะอาดจังหวัดเพชรบูรณ์
36. เครือข่ายอากาศสะอาดจังหวัดพิจิตร
37. เครือข่ายอากาศสะอาดจังหวัดกำแพงเพชร
38. เครือข่ายอากาศสะอาดจังหวัดนครสวรรค์
39. เครือข่ายอากาศสะอาดจังหวัดอุทัยธานี
40. สภาลมหายใจจังหวัดตาก
41. มูลนิธิชุมชนไท
42. เครือข่ายทอม ผู้ชายข้ามเพศ นอนไบนารี่ เพื่อความเท่าเทียม (TransEqual)
43. มูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม
44. มูลนิธิกระจกเงา (The Mirror Foundation)
45. สภาลมหายใจภาคอีสาน (7จังหวัด)
46. เพจ Doctor กล้วย
47. มูลนิธิพัฒนาประชาสังคม
48. ชมรมสิ่งแวดล้อมสมุทรปราการ
49. สมาคมอุทยานแห่งชาติ
50. คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
51. คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์
52. คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
53. มูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์
54. อรุณอินสยาม
55. มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม
56. มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
57. กลุ่มวาฬพ่นน้ำ สมุทรสาคร
58. ภาคีจักรยานเมืองกรุงเทพฯ (Bangkok Urban Cycling Alliance)
59. กลุ่มสมดุลเชียงใหม่
60. Precious Plastic Bangkok



