Ribbon

เปิดขั้นตอน ขอเงินคืนผู้เสียหายภัยออนไลน์ ก่อนใช้ร่างกฎกระทรวงคืนเงินฯ

เมื่อภัยออนไลน์เพิ่มจำนวนขึ้นทุกวัน ผู้เสียหายจำนวนมากต้องสูญเสียเงินไปในเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่กลับต้องใช้เวลานานกว่าจะได้รับความคืบหน้าของคดี ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์การคืนเงินให้ผู้เสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้วภายใต้พระราชกำหนดว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฉบับปรับปรุง ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างระบบเยียวยาที่ชัดเจนเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ช่วงที่หน่วยงานพบพฤติการณ์ต้องสงสัย การประกาศรายชื่อบัญชีเสี่ยงในราชกิจจานุเบกษา ไปจนถึงขั้นตอนที่ผู้เสียหายหรือครอบครัวสามารถยื่นขอเงินคืนได้โดยตรงภายใน 90 วันหลังประกาศรายชื่อ

เมื่อผู้เสียหายยื่นคำร้อง เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูล ส่งให้คณะกรรมการพิจารณาว่าจะอนุมัติคืนเงินหรือไม่ หากอนุมัติ สถาบันการเงินจะโอนเงินเข้าบัญชีผู้เสียหายโดยตรง หรือโอนไปยังบัญชีอื่นของผู้เสียหายหากช่องทางแรกไม่สำเร็จ ส่วนกรณีที่ไม่มีใครมายื่นขอเงินคืน เงินหรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกอายัดจะถูกเก็บรักษาไว้ไม่เกิน 10 ปี ก่อนส่งเข้ากองทุนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แต่เจ้าของที่แท้จริงยังสามารถยื่นขอรับคืนได้ หากมีเหตุผลและหลักฐานพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ

ระบบนี้ตั้งอยู่บนแนวคิดว่าจะช่วยอุดช่องว่างการจัดการเงินที่ถูกโอนไปยังบัญชีต้องสงสัย ทำให้เงินไม่หลุดออกจากระบบ และเปิดช่องให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาที่ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม แม้จะยังไม่บังคับใช้ในตอนนี้ แต่เป็นกติกาใหม่ที่ทุกฝ่ายกำลังจับตา เพราะอาจกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความเสียหายจากอาชญากรรมออนไลน์ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม แม้ร่างกฎกระทรวงคืนเงินฯ จะเป็นพัฒนาการสำคัญ แต่หากต้องบังคับใช้จริง อาจพบข้อจำกัดหลายประการ โดยเฉพาะการให้ผู้เสียหายต้องติดตามรายชื่อจากราชกิจจานุเบกษาหรือช่องทางของ ปปง. ด้วยตนเอง ซึ่งผู้บริโภคจำนวนมากไม่ได้เข้าตรวจสอบเป็นประจำ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะไปยื่นขอเยียวยาไม่ทันเวลา แม้ตนเองควรได้รับการคืนเงิน

นอกจากนี้ยังมีกรอบเวลาเพียง 90 วันในการยื่นคำร้อง ซึ่งอาจสั้นเกินไปสำหรับผู้ที่เข้าถึงข้อมูลช้า หรือไม่ถนัดใช้เทคโนโลยี ข้อจำกัดเหล่านี้สะท้อนสิ่งที่สภาผู้บริโภคได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า รัฐยังสื่อสารเชิงรับมากเกินไป และควรมีระบบแจ้งเตือนผู้เสียหายโดยตรงเพื่อไม่ให้ประชาชนต้องวิ่งตามสิทธิของตัวเอง

ท้ายที่สุด แม้ระบบคืนเงินใหม่นี้จะช่วยวางโครงในการเยียวยา แต่ความล่าช้าและความไม่ชัดเจนยังส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง พร้อมสะท้อนว่าการแก้ปัญหาภัยออนไลน์ต้องถูกยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้กฎหมายและกลไกต่าง ๆ ทำงานทันต่อพัฒนาการของมิจฉาชีพ ไม่ใช่กลายเป็นภาระของผู้เสียหายที่ต้องรับมือโดยลำพัง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง