ฟ้องคดีกลุ่มเนต้า จี้ชดเชย-เรียกคืน คาดผู้เสียหายกว่า 2 หมื่นราย

ฟ้องคดีกลุ่มเนต้า จี้ชดเชย-เรียกคืน คาดผู้เสียหายกว่า 2 หมื่นราย

วันนี้ (29 กันยายน 2568) ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ สภาผู้บริโภคพร้อมด้วยผู้เสียหายกว่า 20 ราย ได้ยื่นฟ้องบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเนต้า (NETA) ต่อศาลในรูปแบบคดีผู้บริโภคแบบกลุ่ม (Class Action) เพื่อคุ้มครองสิทธิและเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายที่เกิดจากความชำรุดบกพร่องของเครื่องยนต์ และอะไหล่ขาดแคลน

ว่าที่ร้อยตรีสมชาย อามีน ทนายความผู้รับผิดชอบคดี เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ตรวจสอบมีผู้ซื้อและจดทะเบียนรถยนต์เนต้าแล้วกว่า 20,000 ราย ทำให้สภาผู้บริโภคได้ดำเนินการฟ้องในรูปแบบคดีผู้บริโภคแบบกลุ่ม ที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีและเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคจำนวนมากสามารถใช้สิทธิร่วมกันได้ โดยในคดีนี้มีโจทก์รวม 6 คน ได้แก่ สภาผู้บริโภคและตัวแทนผู้เสียหาย 5 คน ซึ่งสะท้อนปัญหาการใช้รถในหลายลักษณะ เพื่อให้ครอบคลุมมิติความเสียหายที่แตกต่างกัน

ว่าที่ร้อยตรีสมชาย กล่าวต่อว่า ในการฟ้องครั้งนี้มีการยื่นฟ้องบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งในฐานะผู้นำเข้า ผู้ผลิต และผู้จำหน่าย รวมถึงกรรมการที่มีอำนาจกำกับควบคุมให้ร่วมรับผิดด้วย โดยศาลจะนัดไต่สวนคำร้องเพื่อพิจารณารับคดีเป็นแบบกลุ่มในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. ซึ่งหากศาลอนุญาตจะมีการประกาศทางหนังสือพิมพ์และส่งหนังสือถึงสมาชิกกลุ่ม ทำให้ผู้บริโภคที่เข้าเงื่อนไขแต่ไม่แสดงเจตนาออกจากกลุ่มจะถือว่าเป็นสมาชิกโดยอัตโนมัติ และหากมีคำพิพากษาชนะ ผู้เสียหายสามารถนำหลักฐานความเสียหายมายื่นต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อขอรับสิทธิได้

สำหรับข้อเรียกร้องทนายความได้แจกแจงว่าแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1) ค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน เช่น ค่าอะไหล่และค่าซ่อมจากความชำรุดบกพร่องของรถยนต์ 2) ค่าเสียหายจากการขาดประโยชน์ในการใช้รถ เช่น ค่าเช่ารถในระหว่างเข้าศูนย์ซ่อม 3) ค่าเสียหายจากการซื้อสินค้าที่ไม่มีคุณภาพและไม่ปลอดภัย ครอบคลุมเงินดาวน์ ค่าป้าย และค่างวดที่ผู้บริโภคต้องชำระ 4) ค่าเสียหายทางจิตใจ จากความเครียดและความไม่มั่นใจในการใช้รถ และ 5) ค่าเสียหายเชิงลงโทษ เพื่อสะท้อนการประกอบธุรกิจที่เอาเปรียบผู้บริโภค

“รถยนต์ที่จำหน่ายไปแล้วกว่า 23,000 คัน ควรถูกเรียกมาตรวจสอบหรือเรียกคืนตามกฎหมาย เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค และเป็นมาตรการที่ผู้ประกอบการควรดำเนินการโดยทันที” ว่าที่ร้อยตรีสมชาย กล่าวย้ำ

หนึ่งในตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเนต้า มาเมื่อปี 2566 และใช้งานได้ราวหนึ่งปีกว่าและพบปัญหาหม้อลมเบรกชำรุด ทำให้รถไม่สามารถขับเคลื่อนได้ ทั้งที่ต้องใช้รถเป็นประจำเพื่อรับส่งมารดาไปฟอกไตสัปดาห์ละสามครั้ง รวมถึงใช้ประกอบอาชีพ จึงได้นำรถเข้าศูนย์บริการแต่กลับไม่มีอะไหล่ ต้องรอนานกว่า 2 เดือน ส่งผลให้ครอบครัวต้องเช่ารถหรือใช้บริการแท็กซี่แทนวันละกว่า 1,500 บาท และแม้จะซื้ออะไหล่มือสองมาเปลี่ยนชั่วคราว ยังพบปัญหาพวงมาลัยที่ไม่ปลอดภัย ศูนย์บริการปฏิเสธการเคลม ทำให้รถไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ

ผู้เสียหายระบุว่าการซ่อมล่าช้าและการขาดอะไหล่ทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมาก พร้อมทั้งสะท้อนว่าการฟ้องคดีนี้ไม่ใช่เพียงการเรียกร้องสิทธิส่วนบุคคล แต่หวังให้เป็นบรรทัดฐานเพื่อยกระดับคุณภาพรถยนต์ไฟฟ้าและบริการหลังการขายในประเทศไทย

“รถไฟฟ้าเป็นเทคโนโลยีที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่หากสินค้าไม่มีคุณภาพและบริการหลังการขายไม่ได้มาตรฐาน สร้างความเดือดร้อนให้ผู้บริโภคจำนวนมาก เราอยากให้คดีนี้เป็นตัวอย่าง เพื่อให้ผู้บริโภคกล้าใช้สิทธิ และเพื่อพัฒนามาตรฐานของอุตสาหกรรมนี้” ผู้เสียหายกล่าว

ขณะที่ โสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่ผ่านมาสภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ใช้รถยนต์เนต้า จำนวนกว่า 200 ราย โดยพบปัญหาทั้งด้านบริการหลังการขาย การขาดอะไหล่ รวมถึงความชำรุดบกพร่องของตัวรถ โดยมีการพยายามหาทางออก แต่บริษัทไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหา จึงนำมาสู่การฟ้องร้องเป็นคดีแบบกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันสภาผู้บริโภคดำเนินการในฐานะผู้แทนเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคทุกคน

“คดีนี้ถือเป็นตัวอย่างในการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ที่สะท้อนถึงความจำเป็นของการมีกฎหมายว่าด้วยความรับผิดในความชำรุดบกพร่องของสินค้า หรือกฎหมายเลมอน ลอว์ (Lemon Law) ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หากกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและความรับผิดชอบของผู้ประกอบการต่อผู้บริโภคได้มากขึ้น” โสภณ กล่าว

ทั้งนี้ สภาผู้บริโภคได้เชิญชวนผู้บริโภคที่ใช้รถยนต์เนต้า ที่กำลังพบปัญหาในการใช้งาน สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1502 หรือผ่านเว็บไซต์สภาผู้บริโภค เพื่อให้สภาผู้บริโภครวบรวมข้อมูลและนำไปประกอบการดำเนินการต่อไปในกระบวนการยุติธรรม

อย่างไรก็ตาม คดีในเรื่องรถยนต์เนต้า เกิดขึ้นมาจากการที่สภาผู้บริโภคได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้ใช้งานรถยนต์เนต้าในช่วงเดือน มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งประสบปัญหาทั้งเรื่องรถเสียและไม่มีอะไหล่ซ่อม รวมถึงเกิดปัญหาศูนย์บริการปิดตัวและปฏิเสธการเคลม ตลอดจนปัญหาจดทะเบียนป้ายขาวไม่ได้ เป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง