
สภาผู้บริโภคห่วงวิกฤติอุทกภัยอาจกลายเป็นตัวเร่งให้เด็กไทย “หลุดจากระบบการศึกษา” ได้ง่ายขึ้น วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ
ภาพน้ำท่วมสูง จนเกือบแตะพัดลมเพดานของโรงเรียนวัดบางกะทิง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สะท้อนถึงวิกฤตอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดช่วงนี้ ส่งผลกระทบต่อสถานศึกษาในวงกว้าง อุปกรณ์การเรียน หนังสือ และพื้นที่เรียนได้รับความเสียหาย ทำให้การสอนต้องหยุดชะงักและเด็กบางส่วนเดินทางมาไม่ได้เป็นเวลานาน สภาผู้บริโภควอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ ห่วงทำให้เกิดช่องว่างการเรียนรู้และความเสี่ยงที่เด็กจะไม่กลับมาเรียน และหลุดจากระบบการศึกษา
เชษฐา มั่นคง อนุกรรมการด้านการศึกษา สภาผู้บริโภค เผยว่า โรงเรียนวัดบางกะทิง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็น 1 ใน 85 โรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างยาวนานในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พบว่า มีโรงเรียนอย่างน้อยใน 11 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในปี 2567 ที่ผ่านมา มีโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 487 แห่ง ใน 60 สำนักงานเขตพื้นที่ (รวม 34 จังหวัด) โดยมีนักเรียนที่ประสบเหตุอุทกภัยประมาณ 16,979 ราย และบุคลากร (ครู/บุคลากรทางการศึกษา) ประมาณ 1,601 ราย
ตัวเลขเหล่านี้ ยังไม่ใช่ตัวเลขของโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดของทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แต่นับสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงที่ “เด็กหลุดระบบการศึกษา” เมื่อสถานศึกษาโดนน้ำท่วมสูง จำนวนนักเรียนที่ต้องหยุดเรียนและครัวเรือนที่สูญเสียทรัพย์สิน และหากไม่มีมาตรการติดตาม เยียวยาอย่างมีประสิทธิภาพ เด็กกลุ่มเปราะบางมีความเสี่ยง “หลุดจากระบบการศึกษา” ในระยะยาว
สภาผู้บริโภคขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตาม เยียวยาเด็กไทยในพื้นที่ประสบภัยได้รับการช่วยเหลือและไม่หลุดออกจากระบบ โดยมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ดังนี้
- ต้องมี งบฉุกเฉินฟื้นฟูสถานศึกษา ในทุกเขตพื้นที่ เพื่อให้ซ่อมแซมอาคารและคืนสภาพการเรียนการสอนอย่างรวดเร็ว
- จัดทีมโรงเรียนเคลื่อนที่ (Mobile School) หรือการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ ที่ผสานครู หน่วยงานท้องถิ่น และหน่วยงานพัฒนาการศึกษา ให้ลงพื้นที่สอนชดเชยความรู้แก่เด็กกลุ่มเปราะบาง
- ขยายระบบ ติดตามเด็กหลุดระบบ ให้เป็นมาตรฐานระดับชาติ มีฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงระหว่างโรงเรียน เขต และหน่วยงานช่วยเหลือ เพื่อเร่งนำเด็กกลับเข้าเรียน
- ให้ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์การเรียน (หนังสือ แบบเรียน ชุดนักเรียน) แก่ครัวเรือนที่สูญเสียทรัพย์สินจากน้ำท่วม เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการกลับมาโรงเรียน
สภาผู้บริโภคย้ำจุดยืนว่า “เด็กไทยทุกคนต้องได้รับโอกาสเข้าสู่การศึกษาอย่างต่อเนื่อง” และขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการดูแล ไม่ว่าเด็กอยู่ในพื้นที่ที่ประสบภัยหรือไม่ ก็ต้องได้รับ “สิทธิการศึกษาฟรี 15 ปี” อย่างแท้จริง ไม่ถูกขัดขวางหรือทอดทิ้ง และต้องมีระบบติดตาม ประเมินผล “เด็กในพื้นที่ประสบภัย” ว่าได้กลับเข้าเรียนหรือได้รับการชดเชยการเรียนรู้แล้วหรือไม่ เพื่อป้องกันการหลุดระบบอย่างถาวร
ทั้งนี้ สภาผู้บริโภค พร้อมเป็น “ช่องทาง” ให้เด็ก/ครอบครัว/โรงเรียนแจ้งความเดือดร้อนผ่านเว็บไซต์ tcc.co.th หรือโทร. 1502 ซึ่งจะถูกประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือทันเหตุการณ์



