ยื่นหนังสือด่วน ขอ ประธาน กสทช.หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทันที

ยื่นหนังสือด่วน ขอ ประธาน กสทช. หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทันที

สืบเนื่องจากการมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับสถานะความเป็น “พนักงานหรือลูกจ้าง” มหาวิทยาลัยมหิดล ของ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ รักษาการประธาน กสทช. ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 8 (2) ของ พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 นอกจากนี้มีประเด็นเรื่องระยะเวลาของการลาออก ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรา 18 ของ พ.ร.บ. ฉบับเดียวกัน

วันนี้ (6 สิงหาคม 2568) อิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค ระบุว่า สำนักงานสภาผู้บริโภคได้ยื่นหนังสือด่วนถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรียกร้องให้ ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. หยุดปฏิบัติหน้าที่ ในตำแหน่งประธานกรรมการ กสทช. โดยให้เหตุผลว่า มีลักษณะต้องห้ามและขาดคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งการดำรงตำแหน่งในสภาพที่ขาดคุณสมบัติ ย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งขอให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการ กสทช. ด้วยเช่นกัน ระหว่างที่อยู่ในกระบวนการเสนอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่ง

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาเคยมีกรณีที่กรรมการ กสทช. มีลักษณะต้องห้าม และได้แจ้งยุติการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอขั้นตอนการดำเนินการให้พ้นจากตำแหน่งมาก่อนแล้ว และเพื่อไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์และการดำเนินงานขององค์กร รวมทั้งไม่ให้เป็นการฉวยโอกาสใช้อำนาจหน้าที่ซึ่งตัวเองไม่มีแล้วพิจารณาในสิ่งที่กระทบต่อสิทธิของผู้บริโภค

“การพิจารณาใด ๆ ของ กสทช. ที่อาจมีผลกระทบต่อสิทธิของผู้บริโภค หากดำเนินการโดยบุคคลที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม ย่อมไม่ชอบธรรม โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคซึ่งถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและสำคัญ” อิฐบูรณ์ ระบุ

รวมถึงยังมีการพิจารณาจาก คณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา ที่มีมติยืนยันว่า นพ.สรณ มีลักษณะขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช. ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม

นอกจากนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินยังได้มีหนังสือหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อขอความชัดเจนในขั้นตอนการดำเนินการให้พ้นจากตำแหน่ง โดยไม่ได้ตั้งประเด็นว่าขาดคุณสมบัติหรือไม่ เนื่องจากตามกฎหมายการพ้นจากตำแหน่งจะมีผลย้อนหลังไปยังวันที่ที่บุคคลนั้นขาดคุณสมบัติและเข้าลักษณะต้องห้าม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง