เสนอ ครม. ไม่อนุมัติต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว พร้อมแนะแนวทางจัดการหนี้สินกับ BTS

คณะทำงานศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะแก้ไขปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่อนุมัติต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว พร้อมแนะแนวทางจัดการหนี้สินกับ BTS

5 กรกฎาคม 2564 คณะทำงานศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะแก้ไขปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ภายใต้คณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ได้รับฟังข้อมูลจากกรุงเทพมหานคร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร กรมขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS จากการประชุมได้มีแนวทางการจัดทำข้อเสนอในการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาการต่อสัญญาสัมปทานและการขึ้นราคารถไฟฟ้าสายสีเขียว ดังนี้

1. กรุงเทพมหานครต้องจัดทำการศึกษาราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับคนกรุงเทพฯ เพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงบริการรถไฟฟ้าอย่างแท้จริง เพราะการกำหนดราคา 65 บาท ของ กทม. โดยบริษัทที่ปรึกษานั้น ดำเนินการโดยไม่มีหลักฐาน ไม่มีเหตุผลทางวิชาการรองรับ และไม่มีที่มาที่ไป เป็นเพียงผลประโยชน์ของ กทม. โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบของผู้บริโภค

2. ขอให้นายกรัฐมนตรีและ ครม. มีมติไม่อนุมัติต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เนื่องจากยังมีเวลานานถึง 8 ปี เพื่อให้มีโอกาสพิจารณาแนวทางหรือทางเลือกที่ดีที่สุดในการจัดการเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายดังกล่าว โดยมี 2 แนวทางในการดำเนินการ ได้แก่
แนวทางที่ 1 ปรับปรุงระบบการเก็บอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าทุกสาย ให้ใช้ตารางราคาเดียวกัน โดยให้รัฐเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด และให้เอกชนดำเนินการเดินรถในระบบ เพื่อให้สามารถควบคุมราคาค่าโดยสารได้

แนวทางที่ 2 ในระหว่างที่สัญญาสัมปทานยังมีผลอยู่อีก 8 ปี ควรดำเนินการเปิดประมูลสัมปทานการเดินรถตั้งแต่ปี พ.ศ.2573 เป็นต้นไป เป็นระยะเวลา 30 ปี แทนการต่อสัมปทานกับบริษัทเดิม เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันและมีความโปร่งใสมากขึ้น โดยบริษัทที่จะเข้าร่วมประมูลต้องสามารถเดินรถได้ตามมาตรฐานสากล และให้กรุงเทพมหานครกำหนดเงื่อนไขเดียวที่เป็นสาระสำคัญให้ผู้เข้าร่วมประมูลต้องให้บริการได้ในอัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 25 บาทตลอดสาย และมี 2 เงื่อนไขย่อย ได้แก่

1) ต้องเจรจาหรือมอบให้บริษัท BTS เดินรถได้จนถึงปี พ.ศ. 2585

2) ต้องใช้ตารางค่าโดยสารเดียวกันทั้งระบบ โดยจัดเก็บค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียวทั้งระบบรถไฟฟ้าหลากสี หรือจัดสรรค่าโดยสารร่วมกันทั้งระบบ รวมทั้งต้องแยกสัญญาสัมปทานการเก็บผลประโยชน์จากการพัฒนาสถานีต่าง ๆ และการโฆษณาออกจากสัญญาสัมปทานการเดินรถ

3. แนวทางการบริหารจัดการหนี้สินของ กทม. กับ BTS มีดังนี้
3.1 จัดเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยาย โดยใช้ตารางค่าโดยสารเดียวกันกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่เกิน 44 บาทตลอดสาย
3.2 จัดให้มีการหารายได้จากสถานีส่วนต่อขยาย อาทิ ค่าเช่าพื้นที่สถานี ค่าเชื่อมต่อสถานี ค่าโฆษณาในสถานี
3.3 รัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันการจ่ายคืนหนี้และให้ กทม. กู้ หรือนำเงินของ กทม. มาทยอยชำระหนี้ โดยใช้รายได้จากค่าโดยสารและผลประโยชน์ตอบแทนอื่นที่เก็บได้จากสถานีส่วนต่อขยาย
3.4 หลังปี 2572 กทม. จะมีรายได้เต็มจากการเก็บค่าโฆษณา ค่าเช่าพื้นที่ในสถานี ค่าเชื่อมต่อสถานีกับอาคารเอกชนของทุกสถานีในระบบสายสีเขียว และสามารถนำมาชำระหนี้ทั้งหมดได้

#สภาองค์กรของผู้บริโภค #ผู้บริโภค