
ไม่ว่าจะใช้วิธี ว่าจ้างสถาปนิกมาออกแบบบ้าน ว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน หรือ ซื้อบ้านจัดสรรที่สร้างเสร็จก็ตาม ผู้บริโภคมีสิทธิได้รับ “แบบก่อสร้างจริง” เพื่อเป็นกรรมสิทธิ์ และนำไปอ้างอิง ใช้งานต่อไปได้
ทำไมต้องได้ “แบบก่อสร้างจริง”
เพราะ หากเราต้องการตกแต่ง ต่อเติม ซ่อมแซม หรือแก้ไขบ้าน ก็จำเป็นต้องอ้างอิงจากแบบก่อสร้างที่ตรง หรือใกล้เคียง กับสภาพความเป็นจริงที่สร้างแล้วเสร็จเป็นหลัก
กรณีตกแต่งหรือต่อเติมบ้าน : ผู้ออกแบบ / ผู้รับเหมา / ผู้มารับช่วงทำงานต่อ สามารถทำงานได้ถูกต้องแม่นยำ และปลอดภัย ไม่กระทบต่อโครงสร้าง งานระบบประปา และไฟฟ้าหลักที่ติดตั้งไว้แล้ว
กรณีซ่อมแซมหรือแก้ไข : จำเป็นต้องรู้ตำแหน่งของโครงสร้าง ระบบน้ำ ไฟ เพื่อป้องกันความเสียหายเมื่อเจาะหรือรื้อ
นอกจากนี้ยังสามารถนำไปอ้างอิงและตรวจสอบ “คุณภาพ” และ “คุณสมบัติ (Spec) วัสดุ” วัสดุ” ที่ผู้ขายสร้างมาได้
“แบบบ้าน” มีกี่แบบ?
แบบบ้านที่ผู้บริโภคต้องรู้จักมี 3 แบบ ได้แก่ แบบชุดขออนุญาต, แบบก่อสร้าง และ แบบก่อสร้างที่ตรงตามสภาพจริงเมื่อแล้วเสร็จ
1. แบบชุดขออนุญาต (Construction Permission Drawings)
- เป้าหมายหลัก : ยื่นต่อราชการ ให้ตรวจสอบว่าอาคารสร้างได้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
- ความละเอียด : เน้นเค้าโครง ระยะ และ รายละเอียดหลัก ที่ต้องถูกต้องตามข้อกำหนดทางกฎหมาย มีรายละเอียดค่อนข้างน้อย
2. แบบก่อสร้าง (Construction Drawings)
- เป้าหมายหลัก : นำแบบขออนุญาตมาเพิ่มรายละเอียดเพื่อนำไปใช้สร้างอาคาร และ ใช้ในการประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างได้จริง
- ความละเอียด : มีการระบุรายละเอียดเพื่อการก่อสร้างจริงได้ทั้งหมด เช่น รายละเอียดผนัง พื้น หลังคา งานระบบต่างๆ เพื่อใช้ในการถอดแบบเพื่อคิดราคา สั่งซื้อวัสดุ รวมถึงการวางแผนงานก่อสร้างสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างที่จะเข้ามาร่วมประมูล และทำการก่อสร้างต่อไป
3. แบบก่อสร้างที่ตรงตามสภาพจริงเมื่อแล้วเสร็จ (Asbuilt Drawings)
- เป้าหมายหลัก : นำแบบก่อสร้างมาแก้ไขรายละเอียดให้ตรงกับความเป็นจริง เพราะระหว่างก่อสร้างจะมีการแก้ไขปรับเปลี่ยนเสมอหน้างาน ดังนั้น บ้านที่สร้างเสร็จจึงอาจจะมีรายละเอียดบางอย่างที่ไม่ตรงกับแบบก่อสร้างตามข้อ 2.
- ความละเอียด : มีรายละเอียดสุดท้ายที่ตรงกับสภาพการก่อสร้างที่แล้วเสร็จ และ ส่งมอบให้ทางเจ้าของบ้าน
การมี “แบบก่อสร้าง” หรือ “แบบก่อสร้างที่ตรงตามสภาพจริงเมื่อแล้วเสร็จ” จะทำให้ผู้บริโภคได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับบ้านทั้งหมด ทั้งวิธีการก่อสร้าง คุณสมบัติวัสดุ และรายละเอียดที่ใช้ในการคำนวณต้นทุน จึงสามารถตรวจสอบและตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณภาพและราคาขายได้ง่ายขึ้น ดังนั้น อย่าลืมขอแบบทั้ง 2 อย่าง หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง จากทางโครงการที่เราซื้อ บริษัทรับสร้างบ้าน หรือ ผู้รับเหมาที่รับจ้างก่อสร้างบ้าน



