กติกาใหม่เช่าซื้อรถ – ลีสซิ่ง มีผล 2 ธ.ค. 68 เปลี่ยนมาตรฐานทั้งระบบ ดอกเบี้ยโปร่งใสขึ้น สัญญาเป็นธรรมขึ้น และผู้บริโภคมีสิทธิร้องเรียนตรงกับ ธปท. ได้ทันที
ตั้งแต่ 2 ธันวาคม 2568 เป็นต้นมา การเช่าซื้อรถยนต์และธุรกิจลีสซิ่ง ในประเทศไทยจะมีมาตรฐานการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มแข็งขึ้น หลังจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้ามากำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อรถและลิสซิ่งโดยตรง เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้รถจำนวนมากเคยเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยสูงเกินควร สัญญาที่ไม่เป็นธรรม เงื่อนไขซ่อนเร้น หรือการทวงหนี้ที่ไม่เหมาะสม การยกระดับครั้งนี้ทำให้ผู้บริโภคได้รับสิทธิและความปลอดภัยทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
กติกาใหม่เช่าซื้อรถ – ลีสซิ่งนี้ กำหนดให้สัญญาเช่าซื้อต้องโปร่งใส เข้าใจง่าย และเป็นธรรมมากกว่าเดิม พร้อมบังคับให้เปิดเผยค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนเซ็นสัญญา ช่วยลดปัญหาค่าบริการแฝงต่าง ๆ ที่มักสร้างความเดือดร้อนให้ผู้เช่าซื้อ นอกจากนี้ ธปท. ยังมีอำนาจกำหนดเพดานดอกเบี้ยอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้บริโภคสามารถคาดหวังอัตราดอกเบี้ยที่ยุติธรรมขึ้นได้
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือสิทธิในการปิดบัญชีก่อนกำหนด ที่ต้องคำนวณอย่างเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งระบบ พร้อมคืนดอกเบี้ยส่วนที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันกฎใหม่ยังเข้มงวดเรื่องการทวงถามหนี้ เพื่อป้องกันพฤติกรรมคุกคาม ข่มขู่ หรือเข้าหาผู้บริโภคด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม
ในกรณีที่ผู้บริโภคมีปัญหากับบริษัทเช่าซื้อ สามารถร้องเรียนได้โดยตรงผ่าน ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ของ ธปท. ซึ่งเป็นช่องทางเฉพาะด้านการเงิน ทำให้การแก้ไขปัญหามีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงกำหนดให้บริษัทต้องมีมาตรการช่วยเหลือหรือปรับโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้ที่กำลังเดือดร้อน
การเปลี่ยนผ่านให้ธุรกิจเช่าซื้ออยู่ภายใต้การกำกับของ ธปท. ไม่เพียงเพิ่มความมั่นคงให้ระบบสินเชื่อรถยนต์ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้บริโภคต้องเผชิญจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรมในอดีต หากผู้บริโภคพบว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ที่ ธปท. โทร. 1213 หรือผ่านเว็บไซต์สภาผู้บริโภค
ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ไทยรัฐมันนี่
