นมเป็นแหล่งสารอาหารที่ดี แต่หากเลือกไม่ถูก อาจได้ของหมดอายุหรือคุณภาพไม่ดี มาดู “4 จุดสำคัญ” ที่ผู้บริโภคควรรู้ก่อนซื้อนมกัน

เช็กฉลากให้ครบ
- ต้องมีชื่อผู้ผลิต ปริมาณสุทธิ วันผลิต–วันหมดอายุ
- หากไม่มีข้อมูลครบ อาจเข้าข่ายสินค้าผิดมาตรฐาน
ดูข้อมูลโภชนาการ
- เช็กปริมาณสารอาหารต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
- เปรียบเทียบได้ว่านมชนิดไหนให้คุณค่าที่เหมาะกับร่างกายของคุณ
อ่าน “ฉลากหวาน มัน เค็ม (GDA)”
- บอกปริมาณพลังงาน น้ำตาล ไขมัน และโซเดียม
- ช่วยให้เลือกนมที่ดีต่อสุขภาพ ลดความเสี่ยงโรคอ้วนและเบาหวาน
ตรวจบรรจุภัณฑ์
- ไม่รั่ว ไม่บวม ไม่บุบ ไม่ฉีกขาด
- หากกล่องนมบุบ บวม อาจเกิดจากการปนเปื้อนของจุลินทรีย์
รู้ไหม? นมแต่ละแบบต่างกันยังไง
- นมพาสเจอไรซ์ คือ นมที่ผ่านการให้ความร้อนต่ำแต่ใช้เวลานาน คือทำให้ร้อนที่อุณหภูมิ 72 องศาเซลเซียส เป็นเวลาอย่างน้อย 15-20 วินาที หรือ ผ่านความร้อนอุณหภูมิ 63-65 องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน 30 นาที เมื่อผ่านความร้อนครบตามเวลาที่กำหนดไว้แล้ว ก็ทำให้เย็นลงทันที ที่อุณหภูมิไม่เกิน 5 องศาเซลเซียส กรรมวิธีการพาสเจอร์ไรซ์นั้นสามารถทำลายจุลินทรีย์ได้เพียงแค่บางชนิด เช่นจุลินทรีย์ที่เป็นโทษต่อร่างกาย แต่ไม่สามารถกำจัดจุลินทรีย์ที่ทำให้นมเน่าเสียได้ ดังนั้นจึงเก็บได้ไม่เกิน 10 วัน โดยต้องแช่เย็น มีรสชาติ และสารอาหารใกล้เคียงนมโคสดมากที่สุด
- นมสเตอริไลซ์ คือ นมที่ผ่านการให้ความร้อนสูง ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 118 องศาเซลเชียส โดยใช้เวลานาน 12 นาที ความร้อนสูงของระบบสเตอริไลซ์จะสามารถทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคและจุลินทรีย์ที่ทำให้นมเน่าเสีย นมชนิดนี้จึงสามารถเก็บได้นานกว่า 1 ปีโดยไม่ต้องแช่เย็น คุณภาพของน้ำนมเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก แต่ปริมาณวิตามินบีต่าง ๆ อาจจะลดลง
- นม UHT คือ นมที่ผ่านการให้ความร้อนสูงมากในระยะเวลาสั้นมาก ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 140-150 องศาเซลเชียส เป็นเวลานาน 2-3 วินาที แล้วนำมาบรรจุด้วยขบวนการปลอดเชื้อ ระบบยูเอชทีจะใช้อุณหภูมิสูงแต่ระยะเวลาการฆ่าเชื้อที่สั้นมากเพื่อไม่ให้คุณภาพของน้ำนมเปลี่ยนแปลงไป เป็นระบบที่สามารถกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ได้เกือบทั้งหมด เก็บได้ 5-6 เดือน โดยไม่ต้องแช่เย็น สารอาหารและรสชาติเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย
อย่างไรก็ตามควรเก็บนมตามคำแนะนำบนฉลากทุกครั้ง และอย่าลืมสังเกต “กลิ่น–รส–สี” ก่อนดื่ม เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง
ทั้งนี้ หากผู้บริโภคพบปัญหาความบกพร่องของผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับฉลาก เช่น ทำฉลากใหม่ทับฉลากเก่า ไม่แสดงฉลากภาษาไทย แสดงฉลากไม่ครบถ้วนหรือแสดงฉลากอย่างไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ผ่านสายด่วน อย. 1556 หรือสามารถร้องเรียนมายังสภาผู้บริโภค ช่องทางออนไลน์ https://www.tcc.or.th/ โทร 1502 ในวันเวลาทำการ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 17.00 น.



