เปิด 7 พื้นที่ต้นแบบ “ขนส่งสาธารณะ” ทำได้จริงและยั่งยืน

Getting your Trinity Audio player ready...
เปิด 7 พื้นที่ต้นแบบ “ขนส่งสาธารณะ” ทำได้จริงและยั่งยืน

ในขณะที่ระบบขนส่งสาธารณะในเมืองใหญ่เติบโตอย่างต่อเนื่อง หลายจังหวัดทั่วไทยยังต้องเผชิญกับความเหลื่อมล้ำในการเดินทาง ทั้งที่ “สิทธิในการเดินทางอย่างปลอดภัยและเท่าเทียม” คือพื้นฐานของคุณภาพชีวิตที่ดี สภาผู้บริโภคและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงชวนหน่วยงานท้องถิ่น มาร่วมพลิกโฉมระบบขนส่งในภูมิภาคให้เป็นจริงได้ ผ่านพลังความร่วมมือของคนในพื้นที่ เผยผลสำเร็จ 7 พื้นที่ต้นแบบ “ขนส่งสาธารณะ” ต่างจังหวัด ช่วยแก้ปัญหารถติด บริการฟรีได้ เชื่อมโยงประชาชนทุกพื้นที่อย่างไร้รอยต่อ พิสูจน์ระบบขนส่งที่ดีไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่ทำได้จริงและยั่งยืนในทุกจังหวัดของประเทศไทย

สภาผู้บริโภค ชวนดู 7 พื้นที่ต้นแบบ “ขนส่งสาธารณะ” ในต่างจังหวัด ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือและการผลักดันของสภาผู้บริโภค สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ รวมถึงพลังจากผู้บริโภคในจังหวัดนั้นๆ ด้วย เป้าหมายของโครงการไม่ใช่แค่ “เพิ่มจำนวนรถโดยสาร” แต่คือการสร้างระบบขนส่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ ปลอดภัย เป็นธรรม และยั่งยืน ผ่านการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่

7 พื้นที่ต้นแบบ “ขนส่งสาธารณะ” ในต่างจังหวัด

ภูเก็ต – “โพถ้อง” สู่ยุครถบัสไฟฟ้าปลอดภัย ไร้รอยต่อ

จากเมืองท่องเที่ยวสุดฮอตที่รถติดไม่แพ้กรุงเทพฯ วันนี้ภูเก็ตกำลังเปลี่ยนหน้าใหม่ของระบบขนส่งสาธารณะ จาก “รถโพถ้อง” สองแถวสีสดใสในอดีต สู่รถบัสไฟฟ้า (EV Bus) ที่ทันสมัยและให้บริการครอบคลุมชุมชนสำคัญ ๆ ในภูเก็ต

อบจ.ภูเก็ตประกาศนโยบายชัดเจนในการให้บริการรถบัสไฟฟ้า 24 คัน ในคิดอัตราค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย และให้นักเรียน ผู้สูงอายุ พระสงฆ์ และผู้พิการขึ้นฟรี เป้าหมายไม่ใช่แค่แก้ปัญหาจราจร แต่คือการสร้างระบบเดินทางที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

เบื้องหลังความเปลี่ยนแปลงนี้ คือการมีส่วนร่วมของ เครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดภูเก็ต ที่เสนอแนวคิด “รถโดยสารสาธารณะปลอดภัย ไร้รอยต่อ” จนนำไปสู่การวางเส้นทางใหม่ ๆ เช่น ดราก้อนไลน์“Dragon Line” เพื่อเชื่อมพื้นที่เมืองเก่าภูเก็ตกับจุดสำคัญในเมือง อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว และคนในพื้นที่ได้เดินทางไปยังจุดสำคัญของตัวเมืองภูเก็ต

หาดใหญ่ (สงขลา) – ป้ายข้อมูลเดินทางเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนทั้งระบบ

เมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ ที่มีระบบขนส่งหลายรูปแบบ แต่ขาด “การเชื่อมโยงและข้อมูล” ที่ชัดเจน ผู้โดยสารจำนวนมากไม่รู้ว่าจะเดินทางเชื่อมต่ออย่างไรจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง

เพื่อแก้ปัญหานี้ เครือข่ายผู้บริโภคภาคใต้ร่วมกับเทศบาลนครหาดใหญ่ และภาคเอกชน ได้ร่วมกันพัฒนา “ป้ายข้อมูลเดินทาง ณ จุดจอดรถโดยสารสาธารณะ” โดยใช้เทคโนโลยี เพื่อระบุข้อมูลรถ เส้นทางการเดินทาง และเวลาในการเดินรถอัตราค่าโดยสาร แจ้งข้อมูลที่ผู้โดยสารจำเป็นต้องรู้ โดยเริ่มต้นที่ 3 จุดสำคัญ ได้แก่ หน้าเทศบาลนครหาดใหญ่ โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์

ป้ายที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ นี้ กลับช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้โดยสาร ลดความไม่แน่นอน และทำให้ระบบขนส่งเชื่อมโยงกันมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

ลำปาง – “สองแถวเขียวเหลือง” เมืองต้องห้าม…พลาด

“สองแถวสีเขียวเหลือง” คือตำนานของเมืองลำปาง แต่ตำนานนี้จะอยู่ได้อย่างยั่งยืน ต้อง “เปลี่ยน” เพื่อให้เท่าทันยุคใหม่

ภายใต้ความร่วมมือระหว่างเครือข่ายผู้บริโภค สหกรณ์เดินรถ และหน่วยงานท้องถิ่น ลำปางจึงเริ่ม “ยกระดับระบบขนส่งเดิม” โดยอบรมคนขับ ตรวจสุขภาพประจำปี ปรับตารางเดินรถให้ถี่ขึ้น และพัฒนาจุดจอด 3 แห่ง (สถานีขนส่ง, สถานีรถไฟ, ห้าแยกประตูชัย) ให้ได้มาตรฐาน

นี่คือตัวอย่างของเมืองที่ “ไม่ทิ้งอัตลักษณ์” แต่ปรับให้ทันยุค เพื่อให้ทุกคนขึ้นรถได้อย่างปลอดภัย เป็นธรรม และสะดวกขึ้นจริง

เชียงใหม่ – “รถเมล์ไฟฟ้า” เส้นทางใหม่ของเมืองเก่า

เชียงใหม่เคยมีรถเมล์ขาวให้บริการ ก่อนจะหายไปเพราะขาดทุนและจำนวนผู้โดยสารลดลงในช่วงวิกฤตโควิด – 19 แต่วันนี้ เมืองเชียงใหม่กลับมาเดินหน้าพัฒนาอีกครั้ง โดยอบจ.เชียงใหม่อนุมัติใบอนุญาตเดินรถเมล์ไฟฟ้า (EV Bus) 2 เส้นทางแรก และเตรียมพัฒนาสถานีอัจฉริยะ (Smart Station) ซึ่งเป็นสถานีรอรถโดยสาร ที่ใช้เทคโนโลยีแจ้งรายละเอียดข้อมูลการเดินทางที่ระบุข้อมูลรถ เส้นทาง แจ้งอัตราค่าโดยสาร ที่รองรับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้พิการหรือผู้สูงอายุ เพราะระบบขนส่งที่ดี ต้อง “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” และจะมีจุดชาร์จรถไฟฟ้าในอนาคต

อยุธยา – เมืองมรดกโลกที่ฝันถึงระบบขนส่งที่เชื่อมถึงกัน

แม้จะเป็นเมืองมรดกโลก แต่พระนครศรีอยุธยาไม่มีสถานีขนส่งผู้โดยสารและระบบเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างรถไฟกับระบบขนส่งอื่นอย่างชัดเจน

จากการศึกษาวิจัยของเครือข่ายผู้บริโภคร่วมกับนักวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงเกิด “4 ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเกาะเมืองมรดกโลก” ที่ผลักดันให้ อบจ.อยุธยานำไปบรรจุในแผนพัฒนาท้องถิ่น เพื่อให้เมืองเก่าแห่งนี้มีระบบขนส่งที่สะท้อนทั้งเอกลักษณ์ท้องถิ่นและความทันสมัยควบคู่กัน โดยอยู่ระหว่างการศึกษา และออกแบบระบบขนส่งให้สอดรับกับความเป็นเมืองมรดกโลก ที่เน้นความงามของเมืองร่วมด้วย

ประจวบคีรีขันธ์ – ประตูสู่ภาคใต้ กับคำถามสำคัญ “ทำไมไม่มีสถานีขนส่ง?”

แม้จะเป็นจังหวัดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภาคใต้ แต่ประจวบคีรีขันธ์กลับไม่มีสถานีขนส่งผู้โดยสารประจำจังหวัด ระบบการเดินทางจึงเต็มไปด้วยช่องโหว่ โดยเฉพาะกรณีรถตู้โดยสารที่หมดอายุใช้งานและเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก

เครือข่ายผู้บริโภคจึงผลักดันให้เกิด สถานีขนส่งบริเวณสี่แยกประจวบฯ และสนับสนุนการปรับเปลี่ยนรถตู้หมดอายุเป็นมินิบัสที่ปลอดภัยกว่า ควบคู่กับการจัดระบบจุดตรวจสอบ (Check Point) เพื่อยกระดับความปลอดภัยของผู้โดยสาร

ขอนแก่น – ตั้งจุดตรวจสอบถาวร เพิ่มความปลอดภัยรถทางไกล

ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางคมนาคมภาคอีสาน แต่จุดจอดรถสองแถวกว่า 100 จุดในเมืองกลับอยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งาน และรถทางไกลส่วนใหญ่มีสภาพเก่าทรุดโทรม

เพื่อแก้ปัญหานี้ สมาคมผู้บริโภคจังหวัดขอนแก่นจึงร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัด ผลักดันให้เกิด “จุดตรวจสอบ (Check Point) ถาวร” สำหรับตรวจสอบสภาพรถและความพร้อมของคนขับ ก่อนออกเดินทางจากสถานีขนส่งแห่งที่ 2 พร้อมเสนอให้ท้องถิ่นปรับปรุงจุดจอดรถสองแถวให้ปลอดภัยและสะดวกขึ้น

ขนส่งที่ดี ไม่ควรเป็น “สิทธิพิเศษ” ของคนเมือง

สำหรับ 7 พื้นที่ขนส่งสาธารณะต้นแบบเหล่านี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของภาครัฐ หากแต่เกิดจากเสียงของประชาชนที่ต้องการระบบขนส่งที่ดีกว่า ปลอดภัยกว่า และเท่าเทียมกว่า

นี่เป็นเพียง “จุดเริ่มต้น” ของการขับเคลื่อนภายใต้ โครงการแผนงานร่วมทุนสนับสนุนองค์กรผู้บริโภค เพื่อการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นธรรม ของสภาผู้บริโภค และ สสส.

ปัจจุบันโครงการนี้กำลังขยายผลเรื่องระบบขนส่งสาธารณะสู่ 12 จังหวัด ภายใต้โครงการ “สานพลังท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาขนส่งสาธารณะไร้รอยต่อที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทุกคนขึ้นได้” เพื่อสร้างระบบขนส่งไร้รอยต่อที่ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน เพราะ “การเดินทางที่ดี” ไม่ควรจำกัดอยู่เพียงในกรุงเทพฯ หรือคนบางกลุ่มเท่านั้น แต่ต้องเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชนทุกคน

อ่านข้อมูลฉบับเต็มได้ที่ : 7 พื้นที่ต้นแบบขับเคลื่อน ระบบขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นธรรม


พลิกฟื้นรถเมล์ท้องถิ่นแก้ปัญหา รถน้อย คอยนานสู่ ระบบขนส่งสาธารณะ ที่ตรงเวลา คุ้มค่า

“ล้อหมุน” มุ่งหน้า ขนส่งสาธารณะ ไร้รอยต่อ 12 จังหวัด