Getting your Trinity Audio player ready... |

ในยุคที่ทุกอย่างสามารถทำผ่านมือถือได้ในไม่กี่คลิก การทำงาน การซื้อขาย และแม้แต่ความรัก ก็สามารถเกิดขึ้นบนหน้าจอ แต่ความสะดวกสบายเหล่านี้ก็มาพร้อม “ด่านทดสอบความไม่ประมาท” เพราะเพียงคลิกเดียวที่ผิดพลาด อาจแลกมาด้วยความเสียหายถึงขั้นหมดตัว เรื่องเล่าจากพื้นที่วันนี้ขอพาไปเจาะลึก 5 เรื่องจริงจากผู้เสียหายทั่วประเทศ เพื่อถอดบทเรียนจากประสบการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นซ้ำกับใครอีก!
หลอกเป็นตัวแทนจองไฟลท์บิน เริ่มจากร้อย สูญเงินกว่าหนึ่งแสน!
นายเอ (นามสมมติ) เล่าว่า ตนเองถูกล่อด้วยโอกาสทำเงินจากงาน “จองไฟลท์บินออนไลน์” ผ่านบริษัทแห่งนึงที่ยืนยันว่าตัวเองเป็นตัวจริงด้วยการส่ง ใบ ภ.พ. 20, หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล, โชว์ชื่อผู้บริษัทที่แสดงบนเว็บไซต์ dataforthai ทำให้นายเอหลงเชื่อ โดยเริ่มจากการพูดคุยผ่านช่องทาง Messenger เฟซบุ๊กกับหญิงสาวรายนึงมีรูปโปรไฟล์เป็นนักศึกษา ซึ่งอ้างว่าบริษัทกำลังเปิดรับตัวแทน พร้อมมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเทรนงานให้แบบมืออาชีพ
การลงทุนเริ่มต้นเพียง 100 บาท ซึ่งนายเอสามารถถอนเงินได้จริงในช่วงแรก เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้เหยื่อเชื่อใจและเริ่มลงทุนมากขึ้น จนถึงขั้นโอนครั้งละหลายหมื่น สุดท้ายยอดเงินที่ลงทุนไปรวมแล้วราว 160,000 บาท กลับไม่สามารถถอนเงินได้ โดยอ้างว่า “โอนผิดขั้นตอน” หรือ “ไม่ได้บันทึกรายละเอียด” ทำให้ผิดเงื่อนไขถอนเงิน
เมื่อพยายามขอคำชี้แจง ก็ถูกต่อว่ากลับว่า “ทำไมไม่ถามก่อน” จนสุดท้ายต้องหันมาขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี สภาองค์กรของผู้บริโภค นับเป็นหนึ่งในเคสที่แสดงให้เห็นว่ามิจฉาชีพไม่ได้มาเดี่ยว แต่มาเป็น “ระบบ” พร้อมกลยุทธ์หลอกลวงแบบขั้นเทพ
รับซื้อภาพถ่าย? หรือกับดักลงทุนบิทคอยน์
ยังคงอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้เสียหายรายนี้เริ่มจากเข้าเพจเฟซบุ๊กที่อ้างว่า “รับซื้อภาพถ่ายจากบุคคลทั่วไป” พอลงทะเบียนก็ถูกเชิญเข้ากลุ่มไลน์ พร้อมชวนให้ร่วม “กิจกรรมกดไลก์ภาพผู้อื่น” เพื่อสร้างรายได้ระหว่างรอประเมินภาพของตนเอง ดูเหมือนไม่มีอะไรเสียหาย จนกระทั่งมีการพูดคุยชักชวนลงทุนลักษณะคล้ายบิทคอยน์ จากนั้นสมาชิกในกลุ่ม (ที่ภายหลังรู้ว่าเป็นหน้าม้า) โชว์รายได้หลักหมื่นเพื่อดึงดูดผู้เสียหายให้ลงทุนตาม ขั้นแรกให้ลงทุนหลักร้อยเพียง 497 บาท แต่กลับไม่ได้เงินคืน อ้างว่า “ทำผิดขั้นตอน” และขอให้เติมเงินเพิ่มเรื่อย ๆ เพื่อ “ปลดล็อกระบบ” ถ้าทำถูกต้องจะได้รับเงินคืน จนสุดท้ายผู้เสียหายโอนเงินรวมกว่า 23,000 บาท โดยไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว
นี่คือกับดักที่แนบเนียนมาก โดยอาศัยความไว้ใจใน “งานอดิเรก” ของคนทั่วไปที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ และหลอกให้ร่วมลงทุนโดยใช้จิตวิทยาและแรงกดดันจาก “เพื่อนร่วมกลุ่มปลอม ๆ”
หนุ่มรักดีบนแอป HelloTalk กลายเป็นเทรดเดอร์หลอกโลก
ใครจะคิดว่าแอปพลิเคชันฝึกภาษาอย่าง HelloTalk จะกลายเป็นประตูสู่การหลอกลวงขั้นซับซ้อน นางสาวบี (นามสมมติ) เล่าให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนหน่วยงานประจำจังหวัดเชียงใหม่ ฟังว่า เธอใช้แอปฝึกภาษาทุกวัน และวันนึงเริ่มต้นบทสนทนากับชายชื่อ “นายพิช” ที่ดูจริงใจและสุภาพ คุยไปคุยมาจนกลายเป็นความสนิทสนมในรูปแบบความรัก เขามักส่งแคปยอดเงินจากการเทรดหุ้นให้ดูว่าได้เงินวันละหลายหมื่น จนเรารู้สึกสนใจและบอกว่าอยากช่วยให้แฟน (เรียกแทนนางสาวบี) มีเงินใช้บ้าง
นายพิชชักชวนให้ติดตั้งแอปเทรดหุ้นผ่านลิงก์ และแนะนำให้ถ่ายบัตรประชาชนหน้า-หลังเพื่อยืนยันตัวตน แต่นางสาวบีบอกว่าไม่ได้มีเงินเก็บเยอะขนาดจะเอามาลงทุนได้ ทางนายพิชจึงยื่นข้อเสนอว่า “จะช่วยออกครึ่งหนึ่ง” ทางนางสาวบีจึงเริ่มลงทุนด้วยเงิน 5,000 บาท ซึ่งครั้งแรกถอนออกมาได้จริงพร้อมกำไร ทำให้หลงเชื่อและลงทุนเพิ่มอีกหลายรอบ จนมียอดในพอร์ตเกือบ 200,000 บาท
แต่หลังจากนั้นเมื่อจะถอน กลับถูกเรียกเก็บ “ค่านำเทรด” และ “ค่าภาษี 35%” รวมกว่า 67,000 บาท หลังจากโอนเงินรอบสุดท้ายไป มิจฉาชีพก็เงียบ พร้อมลบแอป VPN ที่แฝงการเข้าถึงมือถือไว้อย่างแนบเนียนและหายไปในที่สุด
รับสมัครงานออนไลน์ สุดท้ายกลายเป็นหลอกลงทุนซื้อของ
มาดูเคสจากหน่วยงานประจำจังหวัดร้อยเอ็ดกันบ้าง จากผู้บริโภคที่กำลังหางานทำ มาพบเพจ Facebook ลงโฆษณารับสมัครงาน โดยสามารถทำงานจากที่บ้านได้ (Work From Home) รายได้อยู่ที่ 13,500-15,500 บาท ซึ่งภาพโปรโมทบนเพจดูน่าเชื่อถือ และเห็นว่าเป็นบริษัทมีชื่อเสียง จึงคลิกเข้าไปสมัครงาน แต่กลับก็ถูกเชิญเข้ากลุ่มไลน์ที่ชื่อว่า “Alibaba Shop Thailand” ซึ่งอ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มบริหารออเดอร์สินค้า จึงได้เข้ากลุ่มไปเพราะคิดว่าอาจเป็นธุรกิจนึงของบริษัทดังกล่าว
แต่งานนี้ต้อง “ลงทุนซื้อสินค้า” ก่อน เพื่อให้ระบบเห็นว่าเราทำงานจริง จากนั้นจะได้กำไรกลับมา แต่ทุกครั้งที่โอนเงิน กลับถูกบอกว่าทำผิดขั้นตอน เช่น โอนผิดเวลา หรือไม่แนบสลิป ทำให้ต้องโอนใหม่เรื่อย ๆ ที่สำคัญ สมาชิกในกลุ่มที่ดูเหมือนพนักงานร่วมงาน กลับทำทีว่าโดนหลอกเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็พบว่า “ทุกคนในกลุ่มเป็นหน้าม้า” มีเพียงเราเท่านั้นที่เป็นเหยื่อตัวจริง
หลังจากนั้นผู้เสียหายได้สอบถามไปยัง บริษัทสำนักงานใหญ่เรื่องการรับสมัครงาน ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าตอนนี้มีโพสต์ปลอมระบาดอยู่ ให้ระมัดระวังอย่าหลงเชื่อ กรณีต้องการสมัครงานให้ติดต่อกับทางบริษัทโดยตรงจะดีที่สุด
เพื่อนชวนลงทุนขายของ สุดท้ายหายทั้งเงิน หายทั้งเพื่อน
ล่าสุดศูนย์คุ้มครองผู้บริโภค อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา รับแจ้งเคสเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดในกรณีนี้ ผู้เสียหายถูกเพื่อนสนิททักมาชวนขายของออนไลน์ผ่านระบบ E-commerce ที่ทำแอปออกมาดูคุ้นตา ลักษณะคล้ายแอปสีส้มที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนเร็ว และคืนทุนไว เมื่อหลงเชื่อ ก็ถูกสอนให้สมัครสมาชิกและลงทุนในการซื้อสินค้าให้ลูกค้า โดยจะได้เงินคืนพร้อมค่าคอมมิชชั่น
ครั้งแรกโอนไป 3,575 บาท จากนั้นโอนอีก 24,209 บาท และสุดท้ายโอน 145,600 บาท รวมเป็น 173,384 บาท แต่กลับไม่ได้เงินคืนตามที่ตกลง และไม่สามารถติดต่อเพื่อนได้อีก กรณีนี้จึงเป็นบทเรียนสำคัญว่า แม้ผู้ที่ชักชวนจะเป็นคนใกล้ตัวแค่ไหน ก็ไม่ควรโอนเงินหรือให้ข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน
จากเรื่องทั้งหมดนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ “ทุกการหลอกลวงเริ่มต้นด้วยความน่าเชื่อถือ” ไม่ว่าจะผ่านเพื่อน แอป ความเป็นมืออาชีพ หรือระบบที่ดูดีมีทีมงาน ทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อ “ขอเงินคุณให้ได้” โดยไม่ต้องลงแรง
ถ้ามีคำว่า “โอนก่อน” ต้องสงสัยไว้ก่อนเสมอ!
- ถ้ามีใครชวนลงทุนแล้วต้อง “โอนเงินก่อน” นั่นคือสัญญาณเตือน
- ถ้าถอนเงินไม่ได้แล้วต้องโอนเพิ่ม แปลว่า คุณกำลังโดนหลอก
- ถ้าใครใช้วิธีอ้างอิงกฎหมาย ภาษี ระบบถอน ฯลฯ เพื่อให้คุณจ่ายเพิ่ม ขอให้ “หยุดทันที” และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
หากตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์โทรปรึกษาตำรวจไซเบอร์ได้ที่ สายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือร้องเรียนได้ที่หน่วยงานประจำจังหวัด สภาองค์กรของผู้บริโภคในพื้นที่
- หน่วยงานประจำจังหวัดเชียงใหม่ โทร. 089-633-1638
- หน่วยงานประจำจังหวัดเชียงราย โทร. 063-481-4665
- หน่วยงานประจำจังหวัดพะเยา โทร. 084-804-6444
- หน่วยงานประจำจังหวัดลำพูน โทร. 084-274-0118
- หน่วยงานประจำจังหวัดร้อยเอ็ด โทร. 080-015-9440
- หน่วยงานประจำจังหวัดกรุงเทพฯ โทร. 02-248-3737
- หน่วยงานประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทร. 032-902-288
- หน่วยงานประจำจังหวัดสงขลา โทร. 089-734-2298
- หน่วยงานประจำจังหวัดสตูล โทร. 074-740-209
- หน่วยงานประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี โทร. 080-522-3222
- หน่วยงานประจำจังหวัดกาญจนบุรี โทร. 080-437-3337
- หน่วยงานประจำจังหวัดสมุทรสงคราม โทร. 098-824-9485
- หน่วยงานประจำจังหวัดขอนแก่น โทร. 098-903-3388
- หน่วยงานประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทร. 093-090-2333
- หน่วยงานประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ โทร. 061-065-8927
- หน่วยงานประจำจังหวัดปัตตานี โทร. 073-414476
- หน่วยงานประจำจังหวัดสุรินทร์ โทร. 081-065-8457
- หน่วยงานประจำจังหวัดน่าน โทร. 094-038-8881
- หน่วยงานประจำจังหวัดนครปฐม โทร. 094-556-2059
- หน่วยงานประจำจังหวัดลำปาง โทร. 054-012274
ข่าวที่เกี่ยวข้อง