สรรหาเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภคคึกคัก 6 ผู้สมัครร่วมโชว์วิสัยทัศน์ ประธานสรรหาฯ เชื่อมั่นคณะกรรมการรอบคอบ – หลากหลาย เฟ้นหาผู้นำองค์กรลุยงานคุ้มครองผู้บริโภค
จากการที่สภาผู้บริโภคเปิดรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเพื่อคัดเลือกและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค หลังจากเลขาธิการฯ คนปัจจุบันได้ดำรงตำแหน่งครบวาระ 4 ปีตามที่กฎหมายกำหนด โดยกระบวนการสรรหาครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเฟ้นหาผู้มีความรู้ ความสามารถ และวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนงานคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค
วันนี้ (5 มิถุนายน 2568) นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร ประธานคณะอนุกรรมการดำเนินการสรรหาเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสรรหาเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค โดยได้เชิญผู้สมัคร ทั้ง 6 ราย มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ประกอบด้วย 1. ว่าที่ร้อยโทธนกร สันบุกา 2. พันเอก (พิเศษ) ดร.ธนัทเมศร์ ภัทรณรงค์รัศม์ 3. นางสาวนิภาพรรณ ไชยมงคล 4. นางสาวสารี อ๋องสมหวัง 5. นายอนิสิต อุบลชาติ และ 6. นายเอกรัฐ อิทธิไกวัล
สำหรับเกณฑ์ในการสรรหา พิจารณาความเหมาะสมจากใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัคร โดยคำนึกถึงประวัติ ผลงาน ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินกิจการของสภาผู้บริโภคและสำนักงานสภาผู้บริโภค โดยมีการออกแบบการพิจารณาอย่างรอบคอบ และมีผู้ทรงคุณวุฒิที่หลากหลายเข้าร่วมการพิจารณา
“กระบวนการสรรหาในปีนี้มีการออกแบบให้รอบคอบและหลากหลายมากขึ้น โดยคณะอนุกรรมการประกอบด้วยตัวแทนจากคณะกรรมการบริหาร ตัวแทนจากพื้นที่ และผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกที่มีประสบการณ์ ซึ่งช่วยเพิ่มมุมมองที่หลากหลาย โดยส่วนที่สำคัญที่สุด คือการคัดเลือก ซึ่งจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติ ตรวจสอบประวัติ ความน่าเชื่อถือ และความเหมาะสมของผู้สมัคร ก่อนเข้าสู่การแสดงวิสัยทัศน์และการสัมภาษณ์ ก่อนคัดเลือกเข้าสู่รอบสุดท้าย” นพ.อนุชา กล่าว
สำหรับการให้คะแนนจะให้ความสำคัญใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) ผู้สมัครมีแนวทางในการนำพาองค์กรไปข้างหน้าอย่างไรในระยะเวลา 4 ปี และจะใช้กลไกใดบ้าง 2) ความเข้าใจในบริบทในการจัดตั้งองค์กร และจะขับเคลื่อนองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร และ 3) ความสามารถในการเชื่อมโยงเครือข่าย ทั้งองค์กรผู้บริโภคภายในประเทศ หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคที่เกี่ยวข้อง รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อเสริมพลังให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค
นพ.อนุชา กล่าวว่า นอกจากนี้ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เลขาธิการสภาผู้บริโภคควรมีความเข้าใจและสามารถประยุกต์ใช้เครื่องมือใหม่ ๆ เช่น AI, Big Data, ระบบสารสนเทศ และงานวิจัยเชิงประจักษ์ เพื่อพัฒนาองค์กรให้ตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ มีข้อมูลสนับสนุนชัดเจน ทั้งในเชิงป้องกันและเชิงรุกเพื่อแก้ปัญหาให้ผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ และสิ่งสำคัญผู้นำองค์กรของสภาผู้บริโภคควรมีจิตวิญญาณแห่งการเฝ้าระวังและปกป้องผู้บริโภคอย่างแท้จริง มีวิสัยทัศน์และความชัดเจนในการสร้างระบบหลักประกันที่ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าจะได้รับการคุ้มครองอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ กระบวนการสรรหาเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค จะประกาศรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการแสดงวิสัยทัศน์เข้าสู่การพิจารณารอบสุดท้าย ภายในวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบาย สภาผู้บริโภคต่อไป
