ส่องนโยบายผู้บริโภค ด้านการเงินและการธนาคาร ประจำเดือนสิงหาคม 2566

ในการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการเงินและการธนาคาร ครั้งที่ 8/2566 โดยมีนายกมล กมลตระกูล กรรมการนโยบาย และประธานอนุกรรมการฯ เป็นประธานในที่ประชุม ได้มีการพิจารณาติดตามผลการประชุมความร่วมมือแก้ไขปัญหาสินเชื่อที่มีโฉนดที่ดินเป็นหลักประกันโดยไม่จดจำนอง ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพมหานคร สภาผู้บริโภคได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566

การประชุมครั้งนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมบังคับคดี เข้าร่วมประชุม ผลการประชุมสรุปได้ 1) ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลธุรกิจสินเชื่อที่มีโฉนดที่ดินเป็นหลักประกันโดยไม่จดจำนองเป็นการเฉพาะ จึงขอให้มีการยกระดับในการพิจารณาว่าปัญหาสินเชื่อที่มีโฉนดที่ดินเป็นหลักประกันโดยไม่จดจำนองเป็นวิกฤตของประเทศ เพื่อให้มีหน่วยงานและหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลกลุ่มธุรกิจดังกล่าวให้ชัดเจน 2) เสนอให้มีการประชุมร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อที่มีโฉนดที่ดินเป็นหลักประกันโดยไม่จดจำนอง เพื่อรับฟังปัญหาและร่วมกันกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในการประกอบธุรกิจ และ 3) เสนอให้สภาผู้บริโภคศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจดังกล่าว รวมถึงข้อมูลร้องเรียนของผู้บริโภคทั้ง 73 ราย เพื่อจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมให้ชัดเจนถึงปัญหาอุปสรรคในการรับเรื่องร้องเรียน การแก้ไขปัญหา เพิ่มเติม และสื่อสารให้เกิดการรับรู้และระมัดระวังในการเข้าใช้บริการต่อสาธารณะต่อไป

ที่ประชุมอนุกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า สภาผู้บริโภคควรทำงานเชิงรุกโดยดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจที่ละเมิดสิทธิผู้บริโภค และประเด็นการคิดดอกเบี้ยเกินอัตรา เห็นว่ากระทรวงการคลังควรเป็นเจ้าภาพในการกำกับดูแลธุรกิจให้กู้ยืมเงินโดยใช้เอกสารโฉนดที่ดินเป็นประกัน เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีอำนาจกำกับดูแลเฉพาะผู้บริโภคตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 แต่กรณีนี้ผู้ประสบปัญหากว้างกว่าความเป็นผู้บริโภคตามคำนิยามของพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค

สำหรับเรื่องร้องเรียนกรณีศรีสวัสดิ์ พบว่า มีการปลอมแปลงเอกสาร โดยปลอมลายมือชื่อผู้กู้ในเอกสารสัญญา ทั้งนี้ผู้ร้องเรียนได้ส่งเอกสารไปพิสูจน์ยังกองพิสูจน์หลักฐานแล้ว ผลปรากฏว่า เป็นเอกสารปลอมแปลง ควรให้มีการดำเนินคดีทางอาญา เห็นควรส่งเรื่องการปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ที่เป็นตั๋วเงิน ให้อนุกรรมการกลั่นกรองคดี สภาผู้บริโภค พิจารณาดำเนินคดีในนามสภาผู้บริโภคต่อไป

#สภาองค์กรของผู้บริโภค #สภาผู้บริโภค #ผู้บริโภค