Ribbon

คืนรถแล้ว…ทำไมหนี้ไม่จบ? สรุปเคสถูกฟ้อง ‘ค่าขาดราคา’ ที่พะเยา หลักแสน!

Getting your Trinity Audio player ready...

กรณีศึกษาจากจังหวัดพะเยาเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนปัญหาดังกล่าวอย่างชัดเจน ผู้ร้องเรียน นายนพ (นามสมมติ) ได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์หรู BMW รุ่น X3 กับธนาคารเอกชนรายหนึ่ง โดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาผ่อนชำระตรงเวลามาโดยตลอด จนกระทั่งปี พ.ศ. 2562 สถานการณ์ทางการเงินเริ่มตึงตัว ทำให้ต้องตัดสินใจคืนรถเพื่อยุติภาระหนี้สินที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต

จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานอย่างละเอียด ทีมงานพบประเด็นสำคัญหลายอย่าง ดังนี้

  • หลักฐานชิ้นสำคัญ  ใบยืนยันการรับรถยนต์คืน เอกสารลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 ที่ระบุข้อความชัดเจนว่า ไม่เรียกร้องค่าส่วนต่างหรือค่าขาดประโยชน์ใด ๆ นี่คือสัญญาที่แสดงเจตนาว่าหนี้ได้ระงับสิ้นไปแล้ว และเป็นหลักฐานสำคัญที่สุดที่ผูกมัดคู่สัญญาเดิม
  • ข้อพิรุธในคำฟ้อง ทีมทนายพบว่าคำฟ้องของโจทก์มีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงหลายจุด เช่น วันที่รับรถคืน และที่สำคัญคือการกล่าวอ้างถึงพยานบุคคลที่เป็นผู้ค้ำประกัน ทั้งที่ในสัญญาจริงนายนพไม่ได้มีผู้ค้ำประกันใด ๆ
  • โจทก์ไม่ใช่คู่สัญญาเดิม โจทก์เป็นเพียงบริษัทที่ประมูลหนี้มา ไม่ใช่ธนาคารผู้ให้เช่าซื้อโดยตรง ทำให้สถานะทางกฎหมายและความชอบธรรมในการเรียกร้องต้องถูกตรวจสอบ

เมื่อถึงวันนัดพิจารณาคดี วันที่ 28 ตุลาคม 2568 ณ ศาลจังหวัดพะเยา ทีมทนายความจากศูนย์คุ้มครองสิทธิฯ ได้ยื่นคำให้การต่อสู้พร้อมพยานหลักฐาน ผลปรากฏว่า ภายหลังการไกล่เกลี่ยและพิจารณาหลักฐาน ฝ่ายโจทก์จำนนต่อหลักฐานและข้อเท็จจริง จึงยื่นคำร้องขอ “ถอนฟ้อง” ศาลจังหวัดพะเยาจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องและจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ทำให้นายนพ ไม่ต้องรับผิดชำระเงินจำนวนกว่า 300,000 บาท (ยอดฟ้องสุทธิหลังไกล่เกลี่ย)

คดีนี้ไม่ใช่เพียงชัยชนะของนายนพเพียงคนเดียว แต่เป็นชัยชนะของมาตรฐานการคุ้มครองผู้บริโภคไทย และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเข้มแข็งของ ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดพะเยา ที่ทำงานเชิงรุก ใส่ใจในรายละเอียด และไม่เพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของผู้บริโภค ทำให้เห็นว่า “ความยุติธรรม” สามารถเข้าถึงได้ หากเรามีข้อมูลที่ถูกต้องและมีหน่วยงานที่พร้อมยืนเคียงข้าง

3 ข้อที่ผู้บริโภคต้องรู้ก่อนคืนรถเช่าซื้อ

1. คืนรถต้องมีหลักฐาน
การคืนรถต้องทำเป็นเอกสารที่ชัดเจน โดยควรระบุเงื่อนไขเกี่ยวกับการเรียกหรือไม่เรียกค่าส่วนต่างหลังการขายทอดตลาดให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และเป็นหลักฐานยืนยันถึงการส่งมอบรถอย่างสมบูรณ์

2. เก็บเอกสารไว้อย่างดี
สำเนาเอกสารการคืนรถ สัญญาเช่าซื้อ และใบเสร็จค่างวดสุดท้ายเป็นหลักฐานสำคัญ ควรเก็บไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี เพราะหากเกิดข้อพิพาทหรือมีการฟ้องร้อง เอกสารเหล่านี้จะเป็นหลักฐานที่ช่วยปกป้องสิทธิของผู้บริโภคได้อย่างมาก

3. อย่ากลัวหมายศาล
หากได้รับหมายศาล ห้ามเพิกเฉยหรือหลีกเลี่ยงการเข้าพบศาลเด็ดขาด ให้รีบนำเอกสารที่มีไปปรึกษาศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคประจำจังหวัด หรือสภาองค์กรของผู้บริโภคทันที เพื่อรับคำแนะนำและเตรียมตัวเข้าสู้คดีอย่างถูกต้อง

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเรื่องรถยนต์ :

แนะ เลี่ยงฝากขายรถผ่านอู่ ป้องกันถูกโกง

“เนต้า” ไม่ส่งตัวแทน คดีกลุ่ม ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ พิจารณาใหม่ 15 ธ.ค.