องค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ ยื่นหนังสือถึงรัฐบาล ชะลอเข้าร่วม ‘CPTPP’ หวั่นส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน

เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ 30 จังหวัด นัดยื่นหนังสือถึงรัฐบาล ชะลอเข้าร่วม ‘CPTPP’ หวั่นส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน

จากการที่รัฐบาลไทย พยายามจะนำประเทศไทยเข้าร่วม ‘ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก’ หรือ The Comprehensive and Progressive Agreement for Trans – Pacific Partnership (CPTPP) โดยอ้างว่าจากข้อตกลงดังกล่าว ประเทศไทยจะได้ผลประโยชน์มากกว่าเสียผลประโยชน์นั้น

21 มิถุนายน 2564 เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศจำนวน 30 จังหวัด ได้แก่จังหวัด พะเยา ลำพูน เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย แพร่ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด นครราชสีมา สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา ตราด สระแก้ว สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สุพรรณบุรี สตูล ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ ภูเก็ต สงขลา ปัตตานี นราธิวาส พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี และกรุงเทพมหานคร นัดกันยื่นจดหมายต่อ ส.ส. ส.ว. ผู้ว่าราชการจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรม เพื่อเสนอต่อรัฐบาลให้ชะลอเข้าร่วม ‘CPTPP’

ทั้งนี้ เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ เห็นว่า การเข้าร่วม CPTPP ยังไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะช่วยให้ไทยได้รับเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เนื่องจากเห็นว่ามีผลกระทบมากกว่าผลบวกดังนี้

ผลกระทบด้านลบต่องบประมาณ หรือค่าใช้จ่ายของประเทศนั้น จากข้อเสนอของสภาเภสัชกรรมต่อคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) พบว่า จะเกิดผลกระทบไม่น้อยกว่า 420,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 30 ปี รวมทั้งมูลค่าของอุตสาหกรรมผลิตยาในประเทศลดลงสูงสุดถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายด้านยาที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่องบประมาณของรัฐในการจัดบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านยาในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

จากการคาดการณ์ผลกระทบของ CPTPP ในระยะเวลาประมาณ 30 ปี (2562 – 2590) ประเทศไทยจะมีภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นมาจากการพึ่งพิงการนำเข้ายาที่สูงมาก ซึ่งส่งผลต่อค่าใช้จ่ายด้านยาที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงด้านยาของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นอกจากนี้ ผลกระทบของ CPTPP ต่อความมั่นคงด้านอาหารทั้งระบบตั้งแต่กระบวนการผลิตเกษตรกรรมจนถึงอาหารที่ผู้บริโภครับประทานดังนี้

1. เมล็ดพันธุ์แพงขึ้น เพราะเกิดการผูกขาดด้านเมล็ดพันธุ์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้า ทำให้เกษตรกรไม่สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์นำไปปลูกต่อได้ ส่งผลให้เมล็ดพันธุ์จะไม่หลากหลาย เนื่องจากเกษตรกรไม่สามารถพัฒนาสายพันธุ์เองได้

2. เกิดการผูกขาดอุตสาหกรรมอาหารไม่กี่เจ้า ทำให้ต้นทุนในการผลิตอาหารแพงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภครับประทานอาหารที่แพงมากขึ้น

3. อาหารที่ผู้บริโภครับประทานจะไม่มีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากจะมีหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงจากแคนาดาทะลักเข้ามาในประเทศไทย โดยไม่มีการควบคุมมากขึ้น

4. มาตรฐานความปลอดภัยสินค้า GMOs ต่ำกว่ามาตรฐานระหว่างประเทศ เนื่องจากความตกลงนี้อ้างอิงการประเมินความเสี่ยงบนฐานทางวิทยาศาสตร์ตามกรอบขององค์การการค้าโลก (WTO) เท่านั้น ซึ่งไม่ได้ใช้หลักการป้องกันเอาไว้ก่อน และไม่มีการคำนึงถึงผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจสังคม

จากเหตุผลข้างต้น เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศจำนวน 30 จังหวัด จึงเห็นด้วยกับแนวทางข้อเสนอของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่เสนอให้คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความตกลง CPTPP ขอให้ตระหนักในผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนไทยทั้งประเทศ หากมีการเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการเจรจาเข้าร่วมความตกลง CPTPP ผ่านการพิจารณาด้วยความรอบคอบและมองประโยชน์ของประชาชนที่เป็นผู้บริโภคส่วนใหญ่ มากกว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจของกลุ่มคนส่วนน้อยของประเทศ ดังนั้นเครือข่ายองค์กรของผู้บริโภคทั่วประเทศขอให้ชะลอการส่งหนังสือแสดงเจตจำนงเข้าร่วม CPTPP จนกว่าที่จะมีการศึกษาผลกระทบที่แน่ชัดแล้วว่าคนไทยจะไม่ได้รับผลกระทบในด้านต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดผลเสียในอนาคต

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคยื่นข้อเสนอผ่าน ส.ส. ส.ว. ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมในพื้นที่ไปแล้ว 2 จังหวัด ดังนี้

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 ทางคณะทำงานชมรมคุ้มครองผู้บริโภคเขตคันนายาว กรุงเทพมหานครยื่นจดหมายต่อ ดร.พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.พื้นที่เขตคันนายาว บึงกุ่ม ใน 2 ประเด็น คือ

1. เรื่องขอเชิญร่วมคัดค้านการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว และการขึ้นราคาที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค

2. เรื่อง ข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการนโยบาย เศรษฐกิจระหว่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) เพื่อชะลอการส่งหนังสือ แสดงเจตจำนงเข้าร่วม CPTPP

วันที่ 19 มิถุนายน 2564 นายกสมาคมคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดปัตตานี ยื่นจดหมายข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) เพื่อชะลอการส่งหนังสือ แสดงเจตจำนงเข้าร่วม CPTPP ผ่านอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล สมาชิกวุฒิสภา ณ โรงแรมซีเอส ปัตตานี

และวันที่ 20 มิถุนายน 2564 นายกสมาคมคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดปัตตานี ยื่นจดหมายข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) เพื่อชะลอการส่งหนังสือแสดงเจตจำนงเข้าร่วม CPTPP ผ่านแพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย และในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ทางนายกสมาคมคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดปัตตานีก็จะนำจดหมายคัดค้านให้คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ผ่านช่องทางศูนย์ดำรงธรรมอีกครั้งหนึ่ง

#สภาองค์กรของผู้บริโภค #ผู้บริโภค