Ribbon

กฎหมายผู้บริโภค 3 ฉบับ จะไปต่ออย่างไรหลังยุบสภา

กฎหมายผู้บริโภค 3 ฉบับ จะไปต่ออย่างไรหลังยุบสภา

การยุบสภาผู้แทนราษฎรแต่ละครั้ง ไม่ได้ส่งผลเฉพาะต่อการเมืองเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อกระบวนการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนจำนวนมาก หนึ่งในคำถามสำคัญที่เกิดขึ้นตามมาคือ กฎหมายที่อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยเฉพาะ กฎหมายผู้บริโภค จะยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่

ในปี 2567 สภาผู้บริโภคได้รวบรวมรายชื่อประชาชนกว่า 7 หมื่นรายชื่อ เพื่อเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคจำนวน 3 ฉบับเข้าสู่รัฐสภา โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับสิทธิผู้บริโภคให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การยุบสภาทำให้สถานะของร่างกฎหมายทั้งสามฉบับแตกต่างกันออกไป

ร่างกฎหมายฉบับแรก คือ ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ฉบับสภาผู้บริโภค กฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายสำคัญในการปรับปรุงกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคเดิมที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2522 ซึ่งไม่สอดคล้องกับรูปแบบการค้าและการบริโภคในปัจจุบัน สภาผู้บริโภคเสนอให้ขยายสิทธิผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากขึ้น ปรับกลไกการคุ้มครองให้ทันสมัย และเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองผู้บริโภคจากการเอาเปรียบทางธุรกิจ ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังอยู่ในกระบวนการและไม่ได้ตกไปจากการยุบสภา จึงยังสามารถผลักดันให้มีการพิจารณาต่อในสภาชุดใหม่ได้

ส่วนร่างกฎหมายฉบับที่สอง คือ ร่างพระราชบัญญัติอาหาร ฉบับสภาผู้บริโภค มุ่งเน้นการคุ้มครองผู้บริโภคด้านความปลอดภัยและคุณภาพอาหาร กฎหมายอาหารที่ใช้ในปัจจุบันถูกมองว่ายังไม่สามารถรับมือกับปัญหาอาหารไม่ปลอดภัย การโฆษณาเกินจริง และรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ สภาผู้บริโภคจึงเสนอให้ปรับปรุงกฎหมายให้สามารถบังคับใช้ได้จริง เพิ่มความชัดเจนในความรับผิดชอบของผู้ประกอบการ และคุ้มครองผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ร่างกฎหมายฉบับนี้เช่นกันยังอยู่ระหว่างกระบวนการและสามารถเดินหน้าต่อได้หลังการยุบสภา

ขณะที่ร่างกฎหมายฉบับที่สามเป็นร่างที่ผู้บริโภคต้องจับตาอย่างต่อเนื่อง คือ ร่างพระราชบัญญัติความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า หรือที่รู้จักกันในชื่อกฎหมายเลมอน ลอว์ (Lemon Law) กฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาการซื้อสินค้าที่มีความชำรุดบกพร่องตั้งแต่ต้น และกำหนดให้ผู้ขายหรือผู้ผลิตต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากร่างกฎหมายเลมอน ลอว์ ยังไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาก่อนการยุบสภา จึงถือว่าตกไปตามกระบวนการทางกฎหมาย หากต้องการผลักดันต่อ จำเป็นต้องเริ่มกระบวนการเสนอร่างใหม่อีกครั้ง

แม้การยุบสภาจะทำให้กระบวนการนิติบัญญัติต้องหยุดชะงัก แต่กฎหมายภาคประชาชนยังมีช่องทางให้เดินหน้าต่อได้ หากมีการยื่นร่างกฎหมายไว้แล้วแต่ยังไม่พิจารณา ผู้เริ่มเสนอสามารถยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ ภายใน 120 วันนับแต่วันเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรก เพื่อขอให้มีการพิจารณาร่างกฎหมายนั้นต่อไป

กรณีของกฎหมายผู้บริโภคทั้งสามฉบับสะท้อนให้เห็นว่า การยุบสภาไม่ได้หมายความว่าสิทธิของผู้บริโภคจะต้องหยุดลงพร้อมกับกระบวนการทางการเมือง กฎหมายบางฉบับยังสามารถเดินหน้าต่อได้ ขณะที่บางฉบับต้องเริ่มต้นใหม่ สิ่งสำคัญคือการติดตามอย่างใกล้ชิดและการส่งเสียงของผู้บริโภค เพื่อให้กฎหมายที่มีเป้าหมายคุ้มครองผู้บริโภคได้รับการพิจารณาอย่างต่อเนื่อง และไม่ถูกละเลยไปในกระแสความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง