พบร้านค้าคิดเงินเกินจริง – ราคาไม่ตรงป้าย เรียกร้องสิทธิในฐานะผู้ซื้อทันที

เมื่อผู้บริโภคจ่ายเงินซื้อสินค้าไม่ว่าจะในห้างสรรพสินค้าหรือว่าร้านค้าทั่วไป สิ่งแรกที่จะต้องตรวจสอบก่อนออกจากร้านค้า คือ ใบเสร็จสินค้า เพราะจะเป็นสิ่งยืนยันว่าเราได้รับสินค้าจำนวนกี่ชิ้นอะไรบ้างและยังเป็นสิ่งที่แสดงรายละเอียดของสินค้าและราคาต่อชิ้นอีกด้วย

แต่ภายหลังหากผู้บริโภคพบว่าราคาสินค้าตามบิลใบเสร็จไม่ตรงกับราคาที่แสดงบนชั้นวางสินค้า ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ซึ่งร้านค้าไม่ตรวจสอบการติดป้ายราคาให้ตรงกับความจริง ร้านค้าจะหาประโยชน์จากราคาที่ไม่ตรงต่อความจริงไม่ได้ ซึ่งผู้บริโภคมีสิทธิได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน สิทธิได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญาและสิทธิได้รับการชดเชยเยียวยา

ดังนั้น เมื่อพบห้างหรือร้านค้าใดมีการเรียกเก็บเงินเกินจริง หรือราคาไม่ตรงป้าย ผู้บริโภคควรรีบแจ้งผู้จัดการหรือพนักงานร้านค้าเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องในฐานะผู้ซื้อได้ ดังนี้

1. แจ้งยกเลิก คืนของ และให้คืนเงินทั้งหมด หรือ แจ้งให้คืนเงินส่วนต่างที่พนักงานคิดผิดพลาด
2. แจ้งขอให้ร้านค้าปรับปรุงเปลี่ยนป้ายราคาให้ถูกต้อง

นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังสามารถเก็บหลักฐานการซื้อสินค้า เช่น ใบเสร็จ หรือภาพป้ายราคาที่ตรงกับสินค้า ร้องเรียนกับสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ การใช้สิทธิของผู้บริโภคนั้น กรมการค้าภายในจะมีรางวัลนำจับให้ถึง 25 เท่าของค่าปรับในข้อหาจำหน่ายสินค้าไม่ตรงกับราคาที่แสดง หากมีการดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ประกอบการที่ถูกแจ้งเบาะแสแล้ว

อย่างไรก็ตาม ห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าที่ขายสินค้าไม่ตรงกับราคาป้ายที่แสดงอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 43 ปี 2559 เรื่องการแสดงสินค้าและบริการ ข้อ 11 การแสดงราคาขายปลีกสินค้าหรือค่าบริการต้องแสดงให้ตรงกับราคาที่จำหน่ายหรือค่าบริการ มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ตามมาตรา 28 พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542          

ทั้งนี้ สภาผู้บริโภคขอให้ผู้บริโภคหมั่นตรวจสอบ รักษาสิทธิของตัวเองโดยการตรวจเช็กราคาบิลใบเสร็จกับป้ายสินค้า อย่ายอมให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อแม้เพียงจำนวนเงินไม่มากก็ตาม แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรสิทธิที่ผู้บริโภคจะเรียกร้องให้ร้านค้าคืนเงินค่าส่วนต่างยังคงมีอยู่ถึง 10 ปี นับจากวันที่ซื้อสินค้านั้น แต่จะต้องเก็บหลักฐานไว้ให้ครบถ้วน

และผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าว สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับสถานีตำรวจทุกท้องที่ หรือร้องเรียนออนไลน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เว็บไซต์ https://www.thaipoliceonline.com หรือร้องเรียนมาที่สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

#สภาองค์กรของผู้บริโภค #สภาผู้บริโภค #ผู้บริโภค