
กรณี “ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์” ประธาน กสทช. ถูกตั้งข้อสังเกตว่าขาดคุณสมบัติ ไม่ได้เป็นเพียงประเด็นภายในองค์กร แต่ยังอาจกระทบต่อความชอบธรรมของการตัดสินใจในเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของผู้บริโภคทั้งประเทศ กสทช. เป็นองค์กรกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม สื่อ และการกระจายเสียง ที่มีบทบาทต่อการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ และข้อมูลข่าวสารของคนไทยกว่า 60 ล้านคน ดังนั้น การดำรงตำแหน่งของบุคคลที่มีข้อกังขาด้านคุณสมบัติ จึงเป็นเรื่องที่สังคมต้องให้ความสนใจและติดตามใกล้ชิด
กรณีของ ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 ที่ประชุมวุฒิสภามีมติคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งกรรมการ กสทช. รวมถึง นพ.สรณ ให้เป็น กสทช.ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ต่อมาในเดือนมกราคม 2565 นพ.สรณ ได้ลาออกจากตำแหน่งรองอธิการบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นตำแหน่งลูกจ้างของรัฐ ก่อนจะถูกที่ประชุมกรรมการ กสทช. เลือกให้ดำรงตำแหน่งประธาน และได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการโดยสำนักนายกรัฐมนตรีในเดือนเมษายนปีเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 สภาผู้บริโภคและภาคีเครือข่าย ได้เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดเผยหลักฐานสถานะการจ้างของ นพ.สรณ พร้อมยื่นให้คณะกรรมาธิการตรวจสอบคุณสมบัติ ผลการพิจารณาของ กมธ.เทคโนโลยีฯ วุฒิสภา ระบุว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนว่า นพ.สรณ เข้าข่ายมีคุณสมบัติต้องห้ามจริง และเสนอให้ประธานวุฒิสภาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
ในปี 2568 เสียงเรียกร้องให้ปลด นพ.สรณ ออกจากตำแหน่งยังคงต่อเนื่อง ทั้งจากการยื่นหนังสือของสภาผู้บริโภคและแรงกดดันสาธารณะ ล่าสุด ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งเรื่องให้สำนักงานกฤษฎีกาพิจารณา เพื่อให้ความเห็นในประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับขั้นตอนการพ้นจากตำแหน่งของประธาน กสทช.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดรายงาน กมธ. ไอซีที นพ.สรณ มีคุณสมบัติต้องห้ามจริง
- ฟันธง! ว่าตามตัวบท กม. หมอสรณ ขาดคุณสมบัติ กสทช. แล้ว
- ยื่น กมธ. ไอซีที เปิดผลสอบคุณสมบัติ ‘นพ.สรณ’
ทำไมผู้บริโภคต้องเป็นกังวลในประเด็นนี้
กสทช. เป็นองค์กรกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม วิทยุ และโทรทัศน์ ที่มีผลต่อการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ของคนไทยกว่า 60 ล้านคน การตัดสินใจของ กสทช. ส่งผลโดยตรงต่อสิทธิผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองจากโฆษณาและ SMS หลอกลวง หรือการกำหนดมาตรฐานค่าบริการ หากมีมติใด ๆ ที่ออกโดยกรรมการซึ่งขาดคุณสมบัติ มตินั้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และสร้างปัญหาในการบังคับใช้ในอนาคต
ยิ่งไปกว่านั้น ตำแหน่งประธาน กสทช. จำเป็นต้องได้มาผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง โปร่งใส และเป็นไปตามกฎหมาย เพื่อรักษาความเชื่อมั่นในองค์กรกำกับดูแลนี้ หากปล่อยให้ผู้ที่ขาดคุณสมบัติอยู่ในตำแหน่ง ย่อมกระทบต่อความน่าเชื่อถือของระบบการคุ้มครองผู้บริโภคทั้งประเทศ
