| Getting your Trinity Audio player ready... |

ค่า ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ครอบคลุม กทม. 50 เขต และอีก 19 จังหวัด สัญญาณเตือนอันตราย แนะเร่งผลักดันพ.ร.บ.อากาศสะอาด
วันที่ 1 ธันวาคม 2568 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISDA รายงานว่า พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินค่ามาตรฐานและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย สัญญาณเตือนอันตราย สภาผู้บริโภคแนะเร่งผลักดัน พ.ร.บ. อากาศสะอาด
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISDA รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และหลายจังหวัดในประเทศไทยมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน (ค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) โดยในกทม. ทั้ง 50 เขต เป็นพื้นที่ที่มีฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน โดย 10 อันดับแรก ที่มีฝุ่น PM 2.5 สูงสุด ได้แก่ บางนา (43.6) พระโขนง (43.6) คลองเตย (43.4) วัฒนา (43.3) ยานนาวา (43.2) สวนหลวง (43.1) ห้วยขวาง (43.1) สาทร (43.0) วังทองหลาง (42.9) ดินแดง (42.9)
ขณะที่จังหวัดที่มีฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน มี 19 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม ระยอง กรุงเทพฯ ตราด ราชบุรี สุพรรณบุรี นนทบุรี เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม อ่างทอง จันทบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี ประจวบคีรีขันธ์ และพระนครศรีอยุธยา
สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 หลายพื้นที่เข้าขั้นเตือนระดับส้ม–แดง (เกินค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ซึ่งหมายความว่าประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคเรื้อรัง ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและสวมหน้ากากกรองฝุ่นเมื่อต้องออกจากบ้าน
ฝุ่น PM2.5 สามารถแทรกซึมลึกเข้าสู่ปอดและกระแสเลือด ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจและหัวใจ เช่น หอบหืด หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน หัวใจขาดเลือด และมะเร็งปอด นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับการตายก่อนวัยอันควรของประชากรทั่วโลก องค์การอนามัยโลก ประเมินว่า มลพิษทางอากาศภายนอก (ambient air pollution) เป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตหลายล้านคนต่อปีทั่วโลก ซึ่งชี้ให้เห็นภาระสุขภาพที่หนักหน่วงจาก PM2.5 ที่ไม่ควรถูกมองข้าม. และจำเป็นต้องมีมาตรการเชิงโครงสร้างเพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว
สภาผู้บริโภค ร่วมกับกว่า 60 องค์กรเครือข่ายอากาศสะอาด ออกแถลงการณ์และเรียกร้องให้วุฒิสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาและผลักดันร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด (พ.ร.บ.อากาศสะอาด) ให้ผ่านกระบวนการพิจารณาโดยเร็ว เพื่อสร้างกรอบการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษที่ชัดเจนและมีมาตรการคุ้มครองสุขภาพประชาชน และหากไม่รีบดำเนินการ จะเกิดผลกระทบด้านสุขภาพและค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้บริโภคโดยตรง
ข้อเสนอแนะของสภาผู้บริโภค มีดังนี้
- เร่งรัดการพิจารณา พ.ร.บ.อากาศสะอาด ให้มีกรอบหน้าที่ชัดเจนของหน่วยงานควบคุมและบทลงโทษต่อผู้ปล่อยมลพิษ
- มาตรการเชิงป้องกันและลดแหล่งกำเนิด เช่น ควบคุมการเผาในที่โล่ง การจัดการฝุ่นจากไซต์ก่อสร้าง การปรับมาตรฐานไอเสียยานยนต์ และมาตรการควบคุมอุตสาหกรรมผ่านการรายงานและเปิดเผยการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Register หรือ PRTR) (พ.ร.บ. PRTR)
- ระบบเตือนและการป้องกันผู้บริโภค เพิ่มการเข้าถึงข้อมูลคุณภาพอากาศเรียลไทม์ แจกหน้ากากกรองฝุ่นให้กลุ่มเสี่ยง และแนวทางลดการสัมผัสฝุ่นในสถานศึกษาและสถานที่ทำงาน เช่น การประกาศทำงานจากบ้าน (Work from Home: WFH) และการเรียนด้วยตัวเอง/การเรียนออนไลน์ (Self-learning/ E-learning) เพื่อลดการปล่อยฝุ่นจากภาคขนส่งและคมนาคม ในช่วงเวลาที่จะมีการปล่อยฝุ่นสูงสุดตามสถิติ เป็นต้น
- ส่งเสริมการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานชองประชาชน เพื่อลดการปล่อยฝุ่นจากภาคพลังงาน และสนับสนุนการทำงาน/การเรียนที่บ้าน โดยส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ของภาคครัวเรือนด้วยมาตรการจูงใจให้ฝากไฟฟ้าในระบบผ่านการหักลบกลบหน่วยไฟฟ้า (เน็ตมิเตอร์ริ่ง) และมีมาตรการรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจากภาคธุรกิจ (เน็ตบิลลิง) ในสัดส่วนเดียวกันกับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของโรงไฟฟ้าเอกชน
- มาตรการระยะยาวทางสาธารณสุขและการเงิน บูรณาการนโยบายด้านสุขภาพกับมาตรการลดมลพิษ เช่น การลงทุนระบบขนส่งสาธารณะสะอาด และมาตรการสนับสนุนผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบ
สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่เกิดขึ้น ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยยังเผชิญภาระมลพิษทางอากาศที่มีผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภค ทั้งในแง่สุขภาพและค่าใช้จ่ายด้านการรักษา สภาผู้บริโภคร่วมกับเครือข่ายประชาชนจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการผลักดัน พ.ร.บ. อากาศสะอาด เพื่อให้มีเครื่องมือเชิงนโยบายและมาตรการปฏิบัติที่ชัดเจนในการป้องกันและเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทันทีและในระยะยาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
60 องค์กรประชาชน กดดัน สว. ผ่านร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด ก่อนยุบสภาฯ



