เตือน! ติดตั้ง โซลาร์เซลล์ แล้วไฟไหม้ แนะ 3 วิธีป้องกันได้

Getting your Trinity Audio player ready...
เตือน! ติดตั้ง โซลาร์เซลล์ แล้วไฟไหม้ แนะ 3 วิธีป้องกันได้

โซลาร์เซลล์กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการลดค่าไฟฟ้าและหันมาใช้พลังงานสะอาด อย่างไรก็ตามแม้พลังงานแสงอาทิตย์จะมอบประโยชน์มหาศาล ทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและต่อกระเป๋าเงินของเจ้าของบ้าน ระบบโซลาร์เซลล์เองก็ไม่ใช่สิ่งที่ “ติดแล้วจบ” โดยเฉพาะเมื่อการติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่มีคุณภาพ ก็อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาที่ร้ายแรงได้

ล่าสุดมีกรณีจากผู้ใช้งานรายหนึ่งที่เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงปัญหาไฟไหม้จากสายไฟที่ละลายหลายจุด ทั้งที่ใช้เชื่อมต่อเพียงเครื่องทำน้ำอุ่นกับเครื่องปรับอากาศเท่านั้น ขณะเดียวกัน บริษัทรับติดตั้งกลับมีเงื่อนไขการรับประกันเพียง 6 เดือน และเมื่อเกิดปัญหาก็ปัดความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง ทิ้งให้ผู้บริโภคต้องแก้ปัญหาและรับภาระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

เมื่อโซลาร์เซลล์ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของ “ความปลอดภัย” และ “สิทธิของผู้บริโภค” บทความนี้จึงขอพาทุกคนไปสำรวจคำแนะนำสำคัญก่อนตัดสินใจติดตั้งโซลาร์เซลล์ในบ้าน เพื่อให้การใช้พลังงานสะอาด เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง และไม่กลายเป็นต้นเหตุของภาระที่ไม่คาดคิดในอนาคต

ปัญหาที่มักเกิดกับระบบ โซลาร์เซลล์

สภาผู้บริโภคชวนพูดคุยกับ รศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาผู้บริโภค ที่ได้อธิบายว่า การติดตั้งโซลาร์เซลล์ในบ้านก็เหมือนกับการเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าไปอีกหนึ่งระบบ จึงต้องให้ความสำคัญเรื่อง “ความปลอดภัย” ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง

สำหรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับระบบโซลาร์เซลล์นั้นมี 2 ประเภทหลัก คือ 1) ปัญหาความปลอดภัยด้านระบบไฟฟ้า พบได้จากการติดตั้งที่ผิดพลาด เช่น การเชื่อมต่อสายไฟไม่แน่น การปอกสายไฟไม่เรียบร้อยจนมีทองแดงโผล่ออกมา สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดไฟฟ้ารั่ว ไฟดูด หรือกระแสไฟฟ้าลัดวงจรได้ 2) ปัญหาความปลอดภัยด้านความร้อน เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดไฟไหม้

รศ.ดร.ชาลี อธิบายเพิ่มเติมว่า ปัญหาความปลอดภัยด้านความร้อนนั้น เกิดได้จากสาเหตุ 2 ประการ คือ ประการที่หนึ่ง การติดตั้งและอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน เช่น การใช้ตัวเชื่อมต่อที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานวิศวกรรม ช่างบางรายใช้เทปพันสายแทนข้อต่อมาตรฐาน MC4 การใช้สายไฟขนาดเล็กเกินไป ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลไม่สะดวกและเกิดความร้อนสะสม  อินเวอร์เตอร์ทำงานผิดพลาดจนเกิดความร้อนสูง ประการที่สอง คือ ความร้อนสะสมบนแผง (Hot Spot) เกิดจากเศษใบไม้ ขี้นก หรือสิ่งสกปรกตกบนแผง ทำให้บางจุดไม่ได้รับแสง ทำให้เกิดความต้านทานในจุดนั้นจนร้อนสะสมและลุกไหม้ได้

ใช้โซลาร์เซลล์อย่างไรให้ปลอดภัย

สำหรับผู้สนใจติดตั้งโซลาร์เซลล์ จะต้องคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัย โดยมีข้อพิจารณาแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่

การเลือกบริษัทติดตั้งและดูแลรักษาระบบ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะจะเกี่ยวข้องกับราคา คุณภาพของอุปกรณ์

  • ต้องพิจารณาผู้ติดตั้งที่มีประสบการณ์: ควรสอบถามจากผู้ที่เคยใช้บริการจากบริษัทนั้นมาก่อน หรือดูจากผลงานที่ผ่านมา รวมถึงขนาดและความน่าเชื่อถือของบริษัท
  • ตรวจสอบสเปกอุปกรณ์ที่ใช้: เช่น รุ่นของอินเวอร์เตอร์ และตรวจสอบคุณสมบัติการตัดไฟอัตโนมัติด้วยตนเองได้
  • ตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันและการดูแลหลังการขาย: การรับประกันหรือการดูแลรักษาระบบเป็นสิ่งสำคัญ บางบริษัทอาจรับประกันเพียง 6 เดือน ซึ่งอาจไม่เพียงพอ ควรสอบถามระยะเวลาการดูแลตั้งแต่แรกซื้อ

การเลือกอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้กับในระบบโซลาร์เซลล์

  • เลือกใช้แผงโซลาร์เซลล์ที่มีฟิวส์ (Fuse) หรืออุปกรณ์จำกัดขนาดกระแสไฟ ซึ่งจะทำหน้าที่ตัดวงจรเมื่อกระแสไฟฟ้าเกินค่าที่กำหนด เพื่อจำกัดหรือป้องกันกระแสไฟเกิน ทั้งนี้ ปกติแล้วจะมีอยู่ที่ด้านหลังของแผงโซลาร์เซลล์ทุกแผงอยู่แล้ว แต่อาจต้องตรวจสอบว่าใช้งานได้หรือไม่
  • เลือกอินเวอร์เตอร์ที่มีระบบตัดไฟ โดยสังเกตคำว่า “Over Voltage Protection” ซึ่งเป็นระบบป้องกันเมื่อแรงดันไฟฟ้าเกินค่าที่กำหนด จะตัดไฟอัตโนมัติ หรือ “Thermal Protection” ซึ่งเป็นระบบป้องกันเมื่ออุณหภูมิเกินค่าที่กำหนด จะตัดการทำงานอัตโนมัติ
  • เลือกใช้สายไฟที่มีขนาดเหมาะสมและใหญ่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นทองแดงหรืออะลูมิเนียม ขนาดของสายไฟต้องสามารถนำกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดตามที่ต้องการ เพื่อลดความเสี่ยงจากความร้อนสะสม
  • ใช้แผงโซลาร์เซลล์มี Bypass Diode ไดโอดนี้จะทำหน้าที่ข้ามแผงที่ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ (เช่น มีขี้นกหรือใบไม้บัง) เพื่อป้องกันการเกิด Hot Spot และลดโอกาสเกิดไฟไหม้บนแผง

การบำรุงรักษา

  • หมั่นตรวจเช็กระบบประจำปี : โดยปกติแล้วควรมีการตรวจสอบสภาพระบบโซลาร์เซลล์ทุกปี เช่น การรั่วไหลของไฟฟ้า การเชื่อมต่อที่หลวม หรือรอยแตกบนแผง เพื่อให้มั่นใจว่าระบบยังทำงานได้ตามปกติ บางบริษัทอาจมีบริการบำรุงรักษาแม้ว่าระบบนั้นจะไม่ได้ติดตั้งโดยบริษัทของตนก็ตาม
  • การแผงโซลาร์เซลล์เป็นประจำ โดยควรล้างอย่างน้อย ปีละ 2 ครั้ง หรือทุก ๆ 6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณฝุ่นในบริเวณที่ติดตั้งด้วย เช่น หากอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองมาก เช่น ใกล้ถนนใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรม ไซต์ก่อสร้าง ควรล้างบ่อยขึ้น อาจจะทุก 1-3 เดือน ซึ่งส่วนมาช่างผู้ติดตั้งจะเป็นผู้ประเมินและแนะนำความถี่ในการล้างให้ผู้บริโภคทราบ
    ทั้งนี้ ควรล้างแผงในช่วงเวลาที่ไม่มีการผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น ตอนเช้าหรือตอนเย็น และควรตัดระบบหรือปิดระบบก่อนขึ้นไปล้างเพื่อป้องกันไฟดูด เพราะขณะที่พื้นเปียกกระแสไฟฟ้าสามารถไหลย้อนกลับมาตามน้ำได้ ทำให้เกิดไฟดูดได้

การติดตั้งโซลาร์เซลล์จะช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องมาพร้อมกับความรู้ ความเข้าใจ และการดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อให้พลังงานแสงอาทิตย์เป็น “ทางเลือกที่ยั่งยืน” และไม่กลายเป็นต้นเหตุของอันตรายในบ้าน