จับได้แล้ว! เจ้าของ เพจ ต๋อ ขายปลีก ราคาส่ง – ราคาหน้าโกดัง

สภาผู้บริโภคประสาน บช.สอท. จับกุมเจ้าของ  เพจ ต๋อ ขายปลีก ราคาส่ง – ราคาหน้าโกดัง หลอกลวงผู้บริโภค เบี้ยวส่งสินค้า ดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน

จากกรณีเมื่อประมาณกลางปี 2565 ทางศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ (One-stop Service) สภาผู้บริโภค ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคกรณีซื้อของออนไลน์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ต๋อ ขายปลีก ราคาส่ง – ราคาหน้าโกดัง” แต่ไม่ได้รับสินค้าและไม่ได้รับเงินคืน โดยมีจำนวนผู้เสียหายมากกว่า 100 ราย ซึ่งสภาผู้บริโภคได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และได้ประสานเรื่องไปยังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 นั้น

ล่าสุด (9 พฤษภาคม 2566) บช.สอท. ได้เข้าดำเนินการจับกุมฤทธิรงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี เจ้าของเพจดังกล่าว ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน”[1]

สำหรับผู้บริโภคท่านใดได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวแล้วยังไม่ได้แจ้งความ สามารถแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีถึงที่สุดได้ทางเว็บไซต์ https://www.thaipoliceonline.com/ หรือสถานีตำรวจใกล้บ้านหรือสามารถแจ้งร้องเรียนยังสภาผู้บริโภคได้ตามช่องทางต่อไปนี้เพื่อแจ้งดำเนินคดีต่อไป อีเมล [email protected] โทรศัพท์ 02 239 1839 เฟซบุ๊กอินบ็อกซ์ สภาองค์กรของผู้บริโภค Line Official @tccthailand ลิงก์ https://lin.ee/uhDyO1U      

#สภาองค์กรของผู้บริโภค #สภาผู้บริโภค #ผู้บริโภค


[1] “ไซเบอร์” รวบอดีตพิธีกรรายการดัง ผันตัวเป็นพ่อค้าออนไลน์ ก่อนเบี้ยวส่งสินค้า สูญนับแสนบาท  แหล่งที่มา : https://mgronline.com/crime/detail/9660000042573 ค้นหาข้อมูลเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566

จุดเริ่มต้น และเส้นทางสู่การจับกุม

เมื่อประมาณกลางปี 2565 ทางศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ (One-stop Service) สภาผู้บริโภค ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคกรณีซื้อของออนไลน์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ต๋อ ขายปลีก ราคาส่ง – ราคาหน้าโกดัง” แต่ไม่ได้รับสินค้าและไม่มีการคืนเงินผู้บริโภค สภาผู้บริโภคจึงได้ทำหนังสือถึงเจ้าของเพจดังกล่าวแต่ไม่มีผู้รับหนังสือ จึงได้ลงข่าวแจ้งเตือนภัยประชาสัมพันธ์แก่ผู้บริโภค เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้บริโภคหลงเชื่อเพิ่มเติมเนื่องจากในขณะนั้นทางเพจยังคงมีการถ่ายทอดสดขายสินค้าอยู่อย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็ได้มีผู้บริโภคร้องเรียนเข้ามายังสภาผู้บริโภคเพิ่มอีกกว่า 50 รายชื่อ แต่ละรายมียอดความเสียหายตั้งแต่ 4,000 – 10,000 บาทและทางเจ้าหน้าที่ได้ทราบว่ามีการรวมกลุ่มผู้เสียหายจากการซื้อของจากเพจดังกล่าว ซึ่งมีจำนวนผู้เสียหายกว่า 100 ราย จนเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 เพจก็มีการเคลื่อนไหวชี้แจงปัญหาและยืนยันที่จะคืนเงินให้กับผู้เสียหาย

อย่างไรก็ตามแม้ทางเพจจะคืนเงินแก่ผู้บริโภคบางส่วนแต่ก็ยังมีอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับเงินคืน
สภาผู้บริโภคจึงยังคงติดตามสถานการณ์อยู่อย่างต่อเนื่องและช่วงเดือนตุลาคม 2565 พบว่าเพจถูกปิดและไม่มีช่องทางที่สามารถติดต่อกับเพจได้ สภาผู้บริโภคจึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคที่ยังไม่ได้รับเงินคืนให้ดำเนินการแจ้งความออนไลน์ผ่านทาง https://www.thaipoliceonline.com/ เพื่อดำเนินคดีอาญาให้ถึงที่สุด

เนื่องด้วยพฤติการณ์ค้าขายดังกล่าวเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค อาจเข้าข่ายกระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดเกี่ยวกับการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ สภาผู้บริโภคจึงได้ประสานเรื่องไปยังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550