Getting your Trinity Audio player ready... |

สภาผู้บริโภค ประชุมหารือร่วม สคบ. วางแนวทางผลักดันกฎหมาย และบูรณาการการทำงานเพื่อ ยกระดับงานคุ้มครองผู้บริโภค ครอบคลุมตั้งแต่การแก้ไข พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค ไปจนถึงการจัดการเรื่องร้องเรียนและการทำงานร่วมกับเครือข่ายภูมิภาค
วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค พร้อมทีมผู้บริหารสำนักงานสภาผู้บริโภค ประชุมหารือแนวทางการทำงานร่วมกัน กับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่ห้องประชุม 1 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โดยมีรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และทีมผู้บริหารของ สคบ. ร่วมประชุมด้วย

สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวถึง ประเด็นในการหารือกับ สคบ. เพื่อ ยกระดับงานคุ้มครองผู้บริโภค 4 ประเด็น ได้แก่1) ความร่วมมือในการแก้ไขและผลักดันกฎหมาย 2) การให้มีผู้แทนของสภาผู้บริโภคในคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง 3) ความร่วมมือในการจัดการเรื่องร้องเรียนและการฟ้องคดีแทนผู้บริโภค และ 4) ความร่วมมือในการคุ้มครองผู้บริโภคกับเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคในส่วนภูมิภาค
“สำหรับเรื่องการผลักดันกฎหมายนั้น มีกฎหมาย 2 ฉบับสภาผู้บริโภคกำลังผลักดันและเกี่ยวข้องโดยตรงกับ สคบ. ได้แก่ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และพ.ร.บ.ความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า หรือเลมอน ลอว์ จึงเป็นเรื่องที่ดีหากมีการพัฒนากฎหมายทั้ง 2 ฉบับร่วมกัน” สารี ระบุ

รณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอของสภาผู้บริโภคทั้ง 4 ประเด็น โดยเรื่องการแก้ไข พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค ปัจจุบัน สคบ. กำลังรับฟังความคิดเห็นประกอบการประเมินผลสัมฤทธิ์พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ส่วนการผลักดันกฎหมายเลมอน ลอว์ ปัจจุบัน สคบ.กำลังหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อกำหนดแนวทางของกฎหมายที่เหมาะสม
สำหรับข้อเสนอที่ให้มีผู้แทนของสภาผู้บริโภค อยู่ในคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง นั้น เห็นด้วยกับหลักการว่าควรมีตัวแทนจากภาคประชาชน เข้าไปอยู่ในคณะกรรมการเฉพาะเรื่องทุกคณะ แต่บุคคลนั้นอาจไม่จำเป็นต้องมาจากสภาผู้บริโภค ทั้งนี้ สภาผู้บริโภคสามารถเสนอรายชื่อบุคคลจากภายนอกหรือในองค์กรได้ หรือ สคบ. อาจขอความเห็นในเรื่องหารสรรหาบุคคลที่จะเข้ามาเป็นผู้แทนผู้บริโภคจากสภาผู้บริโภคได้ โดยนอกจากคณะกรรมการเฉพาะเรื่องแล้ว อยากให้มีตัวแทนผู้บริโภคในคณะกรรมการไกล่เกลี่ยด้วย เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคในการดำเนินคดีต่าง ๆ ด้วย
ส่วนประเด็นเรื่องความร่วมมือในการจัดการเรื่องร้องเรียนและการฟ้องคดีแทนผู้บริโภค เลขาธิการ สคบ. เห็นว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นการบูรณาการ เสริมกัน โดยต้องหารือในขั้นตอนการทำงานและสร้างกลไกการเชื่อมโยง จุดเน้นคือการสื่อสารที่สร้างความเข้าใจของขั้นตอน ระเบียบ กฎหมาย ของทั้ง 2 องค์กร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และลดความซ้ำซ้อนในการฟ้องคดี และบริหารจัดการเรื่องร้องเรียน ภายใต้ข้อจำกัดที่มีอยู่
และประเด็นสุดท้ายความร่วมมือในการคุ้มครองผู้บริโภคกับเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคในส่วนภูมิภาคต้องออกแบบความร่วมมือกันในรายละเอียดที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้เห็นแผนและกิจกรรมการทำงานที่เหมาะสมและเป็นไปตามกฎหมาย อำนาจ หน้าที่
“สคบ. พร้อมร่วมมือทำงานกับสภาผู้บริโภค โดยจะมีทั้งส่วนที่ ร่วมกันทำงาน ช่วยกันทำงาน และ แบ่งกันทำงาน กล่าวคืองานที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้ง 2 ฝ่ายก็ร่วมกันทำให้สำเร็จตามเป้าหมาย และส่วนใดที่สามารถแบ่งกันทำได้ ก็จะมีการหารือเพื่อแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจนไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดของทั้ง 2 หน่วยงานด้วย สำหรับ 4 ประเด็นวันนี้ สคบ. นำไปหารือภายใน สคบ. อีกครั้ง” เลขาธิการ สคบ. กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สภาผู้บริโภค ชง สคบ. เร่งขับเคลื่อนนโยบายคุ้มครองดูแลสุขภาพผู้บริโภค