ลดไว แต่เสี่ยงวูบ เตือนภัย ยาลดน้ำหนัก ปนไซบูทรามีน อันตรายถึงชีวิต

ลดไว แต่เสี่ยงวูบเตือนภัย ยาลดน้ำหนักปนไซบูทรามีน อันตรายถึงชีวิต

“ตอนนั้น เกือบตายเหมือนกัน เลยตัดสินใจหยุดกินยาทันที”

คือประโยคแรกจากปากของ “มิ้นท์” ผู้บริโภคที่เคยลองยาลดน้ำหนักที่สั่งซื้อมาจากโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ แล้วเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงถึงขั้นหมดสติ เมื่อทานไปได้เพียง 4 เม็ด

เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าประสบการณ์ของมิ้นท์ เธอเล่าว่า ได้เจอโฆษณายาลดน้ำหนักยี่ห้อหนึ่ง บนแพลตฟอร์มติ๊กต่อก และตอนนั้นเธอต้องการควบคุมน้ำหนักอยู่พอดี เมื่อเห็นโฆษณาจึงตัดสินใจลองซื้อผลิตภัณฑ์ตัวดังกล่าวมาทานเพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก

เธอเผยว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทานยาลดน้ำหนัก ก่อนหน้านี้เคยทานยี่ห้ออื่นมาแล้ว แต่หยุดไปนานหลายปีเนื่องจากเกิดผลข้างเคียงหลังหยุดยา คือ มีอาการ ใจสั่น มือสั่นเล็กน้อย คล้ายอาการขาดยา และเกิด โยโย่เอฟเฟกต์ (Yoyo Effect) คือทานอาหารมากขึ้นและน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าเดิม

จนกระทั่งน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากอีกครั้งและรู้สึกว่าลดน้ำหนักได้ยาก จึงตัดสินใจลองทานยาลดน้ำหนักอีกครั้ง และมาพบกับ ยาลดน้ำหนักตัวล่าสุด ที่ทำให้เกิดอาการรุนแรงกว่าเดิม

“เม็ดแรกกินเข้าไป ก็เริ่มรู้สึกเวียนหัวนิด ๆ แต่ตอนนั้นยังไม่คิดว่าเป็นผลมาจากยา คิดแค่ว่าคงหิวข้าวเฉย ๆ พอถึงเม็ดที่สอง อาการเวียนหัวเริ่มแรงขึ้น แต่ก็ยังฝืน พอเม็ดที่สามเท่านั้นแหละ อาการหนักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มือสั่น ใจสั่น แล้วพอถึงเม็ดที่สี่ มีอาการรุนแรงที่สุด เวียนหัวหนักขึ้น หน้ามืด คลื่นไส้ ใจสั่น เหมือนจะเป็นลม และวูบไป ตอนนั้นคือรู้เลยว่าไม่ไหวแล้ว เกือบเอาชีวิตไม่รอดจริง ๆ สุดท้ายเลยหยุดกินทันที” มิ้นท์บรรยายถึงความรู้สึกที่ได้หลังจากทานยาเข้าไป

หลังจากหยุดทานยาลดน้ำหนัก อาการผิดปกติต่าง ๆ ก็หายไป ทำให้แน่ใจว่าเป็นผลมาจากยาลดน้ำหนักตัวนั้น จากประสบการณ์ทั้งหมดนี้ ทำให้เธอรู้สึกกลัวและไม่กล้าทานยาลดน้ำหนักอีกต่อไป และไม่แนะนำให้ผู้อื่นทานเช่นกัน เพราะไม่สามารถทราบได้เลยว่ามีส่วนผสมอะไรที่เป็นอันตรายอยู่บ้าง

ความน่ากังวลของยาลดน้ำหนัก คือไม่อาจรู้ได้เลยว่า ภายในเม็ดเล็ก ๆ เหล่านั้นมีส่วนผสมใดแอบแฝงอยู่บ้าง บางสารอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย หรืออาจก่อให้เกิดอาการแพ้โดยไม่ทันตั้งตัว ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมา เป็นของแท้จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้จริง หรือเป็นของปลอมที่แอบอ้างชื่อยี่ห้อ ซึ่งอาจปนเปื้อนสารที่เป็นอันตรายร้ายแรงยิ่งกว่า

“ไม่มียาลดน้ำหนักชนิดใดที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างถาวร”

เธอกล่าวจากประสบการณ์ตรง หลังเคยลองทานยาลดน้ำหนัก แม้จะเห็นผลในช่วงแรก แต่เมื่อหยุดทานกลับเกิดอาการโยโย่เอฟเฟกต์ อย่างชัดเจน น้ำหนักดีดกลับเร็วและมากกว่าก่อนเริ่มทานเสียอีก

เธอจึงอยากเตือนให้คนที่กำลังมองหาทางลัดในการลดน้ำหนัก หลีกเลี่ยงการใช้ยาลดน้ำหนัก และหันมาใส่ใจสุขภาพด้วยวิธีที่ปลอดภัยและยั่งยืนมากกว่า เช่น การควบคุมอาหารควบคู่กับการออกกำลังกาย ซึ่งแม้จะใช้เวลานานกว่า แต่ได้ผลจริงและไม่ทำร้ายร่างกาย

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่า ผลข้างเคียงจากไซบูทรามีนมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปากแห้ง คลื่นไส้ ท้องผูก สับสน อ่อนแรง เหงื่อออก ปวดหัว ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ วิตกกังวล การรับรู้รสเปลี่ยนไป หลอดเลือดขยาย ความดันโลหิตสูง เสี่ยงต่อกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง

หากยาลดน้ำหนัก ที่ซื้อมาทำให้เกิดอาการเหล่านี้ แสดงว่าอาจมีสารต้องห้ามหรือสารอันตรายในอาหารเสริมอย่างไซบูทรามีนเป็นส่วนผสม นอกจากนี้ ยังมีสารอันตรายอื่น ๆ ในยาลดความอ้วนที่ต้องระวัง อย่างออริสแตท หากทานยาลดความอ้วน หรือยาลดน้ำหนัก แล้วมีอาการข้างต้น ควรหยุดยาและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยด่วน

ไซบูทรามีน คืออะไร?

ข้อมูลจาก อ. พญ.ประพิมพ์พร ฉัตรานุกูลชัย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ยาลดน้ำหนัก” นั้นมีอยู่จริงและถูกใช้ในทางการแพทย์ แต่ต้องควบคุมการใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะถือเป็นยาที่ “มีผลข้างเคียงอันตราย” รวมถึงต้องเลือกคนไข้ที่จะใช้ยาเหล่านี้ให้ถูกต้องด้วย พร้อมอธิบายว่า “ไซบูทรามีน” จัดเป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น มีฤทธิ์ในการลดความอยากอาหาร ซึ่งถูกเพิกถอนออกไปแล้ว เนื่องจากมีการวิจัยชัดเจนว่า เมื่อใช้ยาตัวนี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคเส้นเลือดสมองเพิ่มมากขึ้น

สภาผู้บริโภคขอเตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณว่าสามารถลดน้ำหนักได้ เช่น กินแล้วลดน้ำหนัก เห็นผลไว เห็นผลจริง การันตีไม่มีผลข้างเคียง เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างเหล่านี้ส่วนใหญ่มักพบลักลอบผสมสารไซบูทรามีน

ทั้งนี้ หากต้องการลดน้ำหนัก ควรเริ่มจากปรับพฤติกรรม รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกาย อย. ได้แนะนำยึดหลัก 2 อ. คือ 1. ควบคุมอาหารโดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ลดอาหารหวาน มัน เค็ม 2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ส่วนกรณีที่ลดน้ำหนักมาหลายวิธียังไม่เห็นผล แนะนำปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุ และวางแผนในการลดน้ำหนักที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิต

สำหรับ ผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือพบผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายวางขาย แจ้งเบาะแส ร้องเรียนไปที่สายด่วน อย. 1556 หรือ สภาผู้บริโภค ที่เบอร์ 1502 ในวันและเวลาทำการ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 17.00 น. หรือเว็บไซต์ tcc.or.th

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ยิ่งโต ยิ่งอันตราย ‘ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร’ สินค้าที่ กม.ตามไม่ทัน

เตือนภัย อาหารเสริมบำรุงสายตา โฆษณาเกินจริง ระบาดออนไลน์