ผู้เสียหายเข้าร้องเรียนสภาผู้บริโภคถูก “อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง” ขายคอร์สสอนทำ ชอปปี้ ไลฟ์ แอปฟีลิเอด ไม่เป็นไปตามคำเชิญชวน อ้างรายได้หลักมากกว่าหมื่นบาทในหนึ่งสัปดาห์ แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นจริง คิดบริการแฝงถูกปฏิเสธคืนเงิน สภาผู้บริโภคแนะผู้เสียหายรวมกลุ่มร้องเรียนเพื่อเจรจาและไกล่เกลี่ย
สภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่เข้ามาซื้อคอร์สออนไลน์จากอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ซึ่งโฆษณาสอนเกี่ยวกับการทำ ชอปปี้ ไลฟ์ แอปฟีลิเอด (Shopee Live Affiliate) โดยเป็นโปรแกรมที่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปสร้างรายได้จากการไลฟ์สดขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม ชอปปี้ (Shopee) โดยไม่ต้องลงทุนซื้อสินค้ามาสต็อกเอง แต่เมื่อสมัครเป็นพาร์ทเนอร์และนำสินค้ามาใส่ตะกร้าในไลฟ์สด ต่อมาเมื่อมีลูกค้าซื้อสินค้าผ่านตะกร้าในไลฟ์จึงได้รับค่าคอมมิชชันตามที่ร้านค้ากำหนด โดยอินฟลูเอนเซอร์คนดังกล่าวได้กำหนดค่าลงทะเบียนเรียนคอร์ส ชอปปี้ ไลฟ์ แอปฟีลิเอด สูงกว่า 50,000 บาท พร้อมข้อความเชิญชวนว่าสามารถสร้างส่วนแบ่งรายได้ หรือค่าคอมมิชชัน ในหลักหมื่นบาทภายในสัปดาห์เดียว ทำให้ผู้บริโภคหลายรายสนใจสมัครเรียน
ทั้งนี้ภายหลังจากเรียนไปแล้ว ผู้เสียหายพบว่า เนื้อหาคอร์สที่สอนไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ของแพลตฟอร์มชอปปี้ (Shopee) ในหลายด้าน และไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่โฆษณาไว้ที่ระบุว่าหากทำไม่ได้จริงจะคืนเงินให้ อีกทั้งยังมีค่าบริการแฝงเพิ่มเติมระหว่างเรียน เช่น ค่าบริการเสริมที่ต้องจ่ายรายเดือน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเกินกว่าที่โฆษณาไว้
ขณะเดียวกันผู้เสียหายระบุว่าเมื่อพยายามขอคืนเงิน อินฟลูเอนเซอร์กลับปฏิเสธ โดยอ้างว่าผู้เรียนได้ลงทะเบียนและเข้าร่วมคอร์สแล้ว จึงไม่สามารถคืนเงินได้ พร้อมข่มขู่ว่าหากมีการโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อออนไลน์จะดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท รวมถึงมีทนายที่พร้อมดำเนินการในเรื่องนี้
สำหรับการตรวจสอบของสภาผู้บริโภค มีผู้เสียหายจำนวนหลายสิบรายที่ลงเรียนคอร์ส ชอปปี้ ไลฟ์ แอปฟีลิเอด กับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง โดยบางคนใช้เงินเก็บหรือลาออกจากงานเพื่อมาลงเรียนตาม เนื่องจากอินฟลูเอนเซอร์รายนี้มีผู้ติดตามมากกว่าล้านคน และเคยได้รับรางวัลจากแพลตฟอร์ม ชอปปี้จึงได้รับความเชื่อถือตามมา โดยประเมินว่ามูลค่าความเสียหายรวมของผู้บริโภคจะสูงถึงระดับหลักล้านบาท รวมถึงในปัจจุบันยังมีผู้ลงทะเบียนเรียนต่อเนื่องจนถึงเดือนเมษายน 2569 ซึ่งอาจทำให้จำนวนผู้เสียหายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้สภาผู้บริโภคขอแนะนำผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อคอร์สออนไลน์ หรือถูกโฆษณาเกินจริงในลักษณะเดียวกัน เข้ามาร้องเรียนเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมข้อมูลร่วมกันเพื่อเชิญอินฟลูเอนเซอร์ มาร่วมเจรจา ไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหาย
อย่างไรก็ตาม คำแนะนำของผู้เสียหายรายอื่นๆ ควรมีการรวบรวมหลักฐาน ทั้งใบเสร็จ เอกสารโฆษณา ข้อความเชิญชวนต่างๆ รวมถึงพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อคอร์สออนไลน์ ที่ต้องตรวจสอบข้อมูลของผู้สอน คำเชิญชวนโฆษณาและเงื่อนไขการคืนเงิน รวมถึงควรหลีกเลี่ยงคอร์สที่รับรองผลตอบแทนในรูปแบบที่ให้ผลตอบแทนสูงแบบเกินจริงโดยไม่มีหลักฐานน่าเชื่อถือ
