ส่องนโยบายผู้บริโภค ด้านบริการสุขภาพ ประจำเดือนสิงหาคม 2566

ในการประชุมคณะอนุกรรมการด้านบริการสุขภาพ ครั้งที่ 5/2566 โดยมีสุรีรัตน์  ตรีมรรคา กรรมการนโยบายและประธานอนุกรรมการด้านบริการสุขภาพ สภาผู้บริโภค เป็นประธานที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องสำคัญดังนี้

เรื่องแรกคือ การติดตามข้อเสนอนโยบายและมาตรการการคุ้มครองผู้บริโภค กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต (UCEP) โดยสภาผู้บริโภค ทำหนังสือเพื่อติดตามข้อเสนอในเรื่องนี้ไปยังสองหน่วยงาน สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินกลาง (สพฉ.) และคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) โดยขอให้มีการกำกับราคาค่ารักษาพยาบาล กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ (UCEP) และแจ้งเรื่องสภาผู้บริโภคพร้อมให้ความร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในการกำกับดูแลราคาสินค้าและบริการ

เรื่องที่สองคือ การติดตามการจัดทำข้อเสนอการพัฒนาระบบและกลไกการคุ้มครองผู้บริโภคต่อการบริการเสริมความงามต่อกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สภาผู้บริโภค ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อส่งข้อเสนอการพัฒนาระบบและกลไกการคุ้มครองผู้บริโภคต่อการบริการเสริมความงามเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง โดยมีข้อเสนอสำคัญอาทิ ขอให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดำเนินการออกข้อบังคับหรือกฎกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องมีผลบังคับใช้ในทางกฎหมายต่อผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล แพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมด้านการเสริมสวย ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมกับให้มีการควบคุมการขออนุญาตให้มีความเข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งการ ให้ความรู้แก่ผู้บริโภคในด้านการรับเข้าบริการ ทราบขั้นตอนในกระบวนการต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบว่าแพทย์หรือผู้ให้บริการดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องได้มาตรฐานหรือไม่

เรื่องที่สาม คือ การติดตามผลการหารือแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภคด้านบริการสุขภาพ ระหว่างสภา ผู้บริโภคกับเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยคณะอนุกรรมการฯรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการ เรื่องที่ สปช. มติให้การดำเนินการแก้ปัญหาเรื่อง Extra Billing ใน 3 รูปแบบ คือ 1) การคืนเงินให้กับผู้ป่วยที่ถูกเรียกเก็บโดยทันที  2) การแก้ปัญหาในเชิงระบบ โดยมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจกับหน่วยบริการ ทั้งหน่วยบริการของรัฐ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รวมทั้งการจัดทำแนวทางเบิกจ่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์แทนการเรียกเก็บเงิน และการแก้ปัญหาผ่านนโยบายบัญชียาหลัก และ 3) การรับเรื่องร้องเรียน ผ่านโทรศัพท์สายด่วน 1330 รวมทั้งความร่วมมือกับสภาผู้บริโภค

#สภาองค์กรของผู้บริโภค #สภาผู้บริโภค #ผู้บริโภค