สินค้าเถื่อนทะลักชายแดน หวั่นกระทบผู้บริโภค

สินค้าเถื่อนทะลักชายแดน หวั่นกระทบผู้บริโภค

ท่ามกลางปัญหาชายแดนที่ร้อนระอุ ช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีความยาวกว่า 5,000 กิโลเมตร กลายเป็นช่องทางในการขนส่งสินค้าเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ไทย ซึ่งมีทั้งสินค้าเกษตร อาหาร สินค้าอุปโภค-บริโภค ยาและเครื่องสำอาง ที่นอกจากจะมีราคาต่ำกว่าไทย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานและคุณภาพสินค้าเสี่ยงส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค

ในปี 2567 ที่ผ่านมา มูลค่าการค้าชายแดนสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยูที่ 1.8 ล้านล้านบาท ขณะที่มีสินค้าเถื่อนที่ลักลอบนำเข้าสู่ประเทศไทย คาดว่าจะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท และยังมีการลักลอบนำเข้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการจับกุมกระเทียมลักลอบนำเข้ากว่า 8,000 กิโลกรัม ที่จังหวัดศรีสะเกษ รวมถึงการจับกุมหมูเถื่อนผสมสารกันบูด ที่เข้ามาวางจำหน่ายในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งขบวนการลักลอบหมูเถื่อนส่วนใหญ่จะใช้ประเทศเพื่อนบ้านเป็นช่องทางนำเข้าสู่ประเทศไทย

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 – พฤษภาคม 2568 มีการลักลอบนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐานผ่านช่องทางต่าง ๆ และมีการดำเนินคดีแล้ว 57,739 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท โดยเฉพาะมีการนำสินค้าไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้มาจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจพบสินค้าผิดกฎหมายเหล่านี้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ รวม 38,473 รายการ/เว็บไซต์ (ข้อมูลจาก :: https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/97335) ปัจจุบันพื้นที่เสี่ยงในการจำหน่ายสินค้าเถื่อน ได้แก่ พื้นที่ชายแดนที่มีการค้าข้ามแดนอย่างหนาแน่น เช่น จันทบุรี สระแก้ว ตราด พื้นที่ที่มีตลาดการค้าหรือแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เช่น ภูเก็ต รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์

สำหรับสินค้าที่ลักลอบนำเข้าตามแนวชายแดนส่วนใหญ่ จะเป็นสินค้าสุรา บุหรี่ สินค้าเกษตร อาหารสด เครื่องสำอางและอาหารเสริม ยาและเวชภัณฑ์ สินค้าเหล่านี้ส่วนหนึ่งนำมาวางจำหน่ายในท้องถิ่น บางสินค้าอย่างเช่นหมูเถื่อนมีการกระจายไปทั่วประเทศ รวมถึงมีการใช้ช่องทางเพลตฟอร์มออนไลน์เป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าสู่ผู้บริโภคในวงกว้าง

ปรกชล อู๋ทรัพย์ อนุกรรมการด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ สภาผู้บริโภค กล่าวว่า ปัญหาลักลอบนำเข้าสินค้าตามแนวชายแดน รวมถึงการสวมสิทธิสินค้าไทยเข้ามาจำหน่ายในประเทศเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อมีแพลตฟอร์มออนไลน์ ขณะที่กฎหมายยังเอื้อมไปไม่ถึง อย่างกรณีหมูเถื่อน ที่มีปัญหาอย่างต่อเนื่อง จับไม่หมด ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค รวมไปถึงการปล่อยมลพิษข้ามพรมแดน การตรวพบสารพิษในแม่น้ำที่ยังไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

“ปัญหาชายแดนมีหลายมิติ นอกจากมีการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อน ซึ่งยังสงสัยว่ามีด่านศุลกากรคอยตรวจสอบ แต่ยังมีสินค้าเถื่อนหลุดรอดออกมาได้อย่างไร สินค้าเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของผู้บริโภคโดยตรงนอกจากนี้ ยังมีปัญหามลพิษข้ามพรมแดน การปล่อยสารพิษในแม่น้ำ ที่เรายังไม่ได้พูดถึงอย่างจริงจัง ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนไทย สภาผู้บริโภค ที่มีเครือข่ายพันธมิตรในประเทศเพื่อนบ้าน ควรจะจัดเวทีเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง” ปรกชลกล่าว

ท่ามกลางปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน การลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอีกหลายปัญหาที่ยังไม่ได้แก้ไข อย่างมลพิษข้ามพรมแดน เป็นโอกาสที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและทำลายเศรษฐกิจของประเทศ

หากพบสินค้าเถื่อนที่ไม่มีเลขทะเบียนอย. สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ผ่านสายด่วน อย. โทร. 1556 หากพบสินค้าไม่มีมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) หรือมีข้อมูลไม่ครบถ้วน สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ที่ https://service.tisi.go.th หรือสภาผู้บริโภค โทร. 1502 รวมถึงร้องเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://complaint.tcc.or.th/complaint