เตือนภัยสินค้าปลอมใกล้ตัว อย่าหลงเชื่อเพียงราคาถูก

สำรวจสถานการณ์ของสินค้ากลุ่มเครื่องปรุงรสอยู่ในภาวะเฝ้าระวังและต้องเตือนภัย ภายหลังตำรวจได้เข้าไปตรวจจับสินค้าปลอมกลุ่มเครื่องปรุงรสที่มีราคาถูกวางจำหน่ายในทำเลตลาดนัดทั่วประเทศ ดังนั้นผู้บริโภคจึงต้องให้ความระมัดระวังในการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะการได้รับเครื่องหมาย อย. ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า

ปัญหาเครื่องปรุงรสที่มีการของปลอมเป็นหนึ่งในภัยที่น่ากังวล เนื่องจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคต่างต้องปรับมาเลือกซื้อสินค้าราคาสินค้าถูกเป็นลำดับต้น ๆ จนอาจเลยตรวจสอบสินค้าว่าได้รับมาตรฐานการผลิตอย่างถูกต้องหรือไม่ ทำให้ที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้เข้าไปตรวจสอบพบการผลิตสินค้ากลุ่มซีอิ๊ว น้ำปลา และกาแฟ จากโรงงานในจังหวัดปทุมธานี ที่ได้มีการลอกเลียนแบบสินค้าแบรนด์ดัง และเป็นการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานของโรงงานอุตสาหกรรมและนำไปจำหน่ายตามตลาดนัดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นสินค้าปลอมไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค

แนวทางสำคัญในการตรวจสอบสินค้ากลุ่มซอสปรุงรส น้ำปลา และกาแฟ รวมถึงเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารที่ต้องได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งการตรวจสอบว่าเป็นสินค้าปลอมหรือไม่นั้น ต้องเข้าไปตรวจสอบเลขกรอกเลขที่ใบรับจดแจ้ง เลขสารบบอาหาร 13 หลัก ที่แสดงไว้บนฉลากสินค้าอาหารว่าได้รับอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีขั้นตอนคือ

  • การเข้าไปตรวจสอบผ่าน เว็บไซต์ของ อย. โดยสามารถค้นหาทั้ง “ตัวสินค้า” และ “ช่องทางจำหน่าย”
  • กรอกเลขสารบบอาหาร เลข 13 หลัก ในช่องค้นหา รวมถึงการเข้าไปตรวจสอบผ่านไลน์ (Line) ทางการของ อย. ที่มีชื่อว่า LINE @FDATHAI โดยดำเนินการกดเมนู “ตรวจสอบเลขผลิตภัณฑ์” ในหน้าแชทเพื่อค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ อาหารที่ต้องมีเลขสารบบอาหาร 13 หลักในเครื่องหมาย อย. จึงสามารถตรวจสอบได้อย่างสะดวก

ขณะเดียวกัน ต้องสังเกตฉลากที่ต้องใช้ภาษาไทย พร้อมทั้ง วันผลิต และวันหมดอายุ รวมไปถึงสถานที่ที่ผลิต รวมถึงต้องพิจารณาในเรื่องการนำบรรจุขวดเก่าใช้แล้วและฝาขวดปิดไม่สนิทเนื่องจากฝาไม่ได้มาตรฐาน

ทั้งนี้ สภาผู้บริโภคจึงอยากกระตุ้นผู้บริโภคไม่ควรพิจารณาสินค้าที่มีราคาถูกเท่านั้น เพราะอาจเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ หรือความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่าง ๆ ตามมา โดยหากตรวจพบสินค้าปลอมสามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ผ่านสายด่วน อย. โทร. 1556 หรือสภาผู้บริโภค โทร. 1502

สินค้าของใช้ปลอมผ่านออนไลน์

นอกจากนี้ปัญหาสินค้าปลอมที่อยู่ใกล้ตัวทุกคนแล้ว อีกประเด็นสินค้าปลอมที่สภาผู้บริโภค ตรวจพบจากการร้องเรียนจากผู้บริโภคในเรื่องสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ และบางส่วนเป็นสินค้าปลอมผ่านช่องออนไลน์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งผู้บริโภคได้เข้ามาร้องเรียนของผู้บริโภคกับการเลือกซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มี 8 ด้านหลักแก่ ทั้งของใช้ในบ้าน การเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ บริการรับส่งสินค้าและไปรษณีย์ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานพาหนะและอุปกรณ์ตกแต่งรถ เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย อาหารและยา และเครื่องสำอาง เป็นต้น

สำหรับการได้รับสินค้าปลอมหรือไม่ใช่ของแท้มีทั้งกระเป๋าแบรนด์เนม, โทรศัพท์มือถือ, รองเท้า, ลำโพง, เครื่องสำอาง/สกินแคร์, เสื้อผ้า, และตุ๊กตาแบรนด์ดัง โดยในบางกรณี สินค้าที่ได้รับมีคุณภาพไม่ดี หรือมีกลิ่น/รสชาติไม่เหมือนของแท้ รวมถึงมีการอ้างว่าสินค้าเป็น “ของรวมแท้” แต่ผู้ซื้อเข้าใจผิดว่าเป็นของแท้ทั้งหมด

อีกทั้งสินค้าไม่ตรงปกหรือไม่ตรงตามภาพโฆษณา โดยผู้บริโภคมักได้รับสินค้าที่แตกต่างจากที่โฆษณาไว้อย่างชัดเจน เช่น ได้รับแก้วเก็บความเย็นที่ไม่ใช่ยี่ห้อดัง, การได้รับกางเกงและเสื้อผิดแบบแทน การได้รับนาฬิกาผิดรุ่น หรือสินค้ามีลักษณะไม่เหมือนของจริงที่โฆษณาไว้ รวมถึงในบางครั้งได้รับของแถมไม่ครบตามที่โฆษณา

รวมถึงผู้ขายปฏิเสธความรับผิดชอบ ไม่ตอบกลับ หรือบล็อกการติดต่อ ซึ่งเมื่อผู้บริโภคติดต่อผู้ขายเพื่อขอคืนสินค้า คืนเงิน หรือสอบถามเรื่องสินค้าปลอม ผู้ขายมักจ ไม่ตอบข้อความ ไม่รับผิดชอบ ไม่ยอมคืนเงิน หรือ บล็อกการติดต่อของผู้ซื้อทันที


แนวทางที่เพจขายต่าง ๆ ใช้หลอกลวงและเจตนาโกงมีทั้ง

  • ผู้ขายมักโฆษณาโปรโมชันลดราคาสูงสุด หรือเสนอสินค้าในราคาที่ถูกมาก เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคหลงเชื่อว่าเป็นของแท้
  • มีการใช้เพจปลอม เว็บไซต์ปลอม หรือลิงก์ปลอมที่เลียนแบบแบรนด์หรือร้านค้าจริง เพื่อหลอกขายสินค้า
  • มีการอ้างว่าสินค้ามีประกัน แต่เมื่อเกิดปัญหาพบว่าประกันไม่ครอบคลุมเนื่องจากเป็นของปลอม หรือใช้หมึกปลอม
  • ในบางกรณีผู้ขายจดทะเบียนบริษัทด้วยทุนจดทะเบียนสูง ทำให้ผู้ซื้อเชื่อมั่นว่าเป็นร้านค้าที่น่าเชื่อถือ

ทั้งนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ที่มีราคาถูกเกินควร จึงควรตั้งข้อสังเกตได้ว่าอาจเข้าข่ายเป็นเพจปลอมหรือหลอกลวงได้ ดังนั้นก่อนโอนเงินควรตรวจสอบเลขบัญชีของผู้ขายว่า อยู่ในรายการคนโกงหรือไม่ โดยนำชื่อ-นามสกุลของผู้ขาย หรือเลขบัญชีธนาคาร หรือเบอร์พร้อมเพย์ เข้าไปค้นหาในเว็บไซต์ Blacklistseller

ที่ผ่านมา สภาผู้บริโภคได้ร่วมผลักดัน มาตรการส่งดี (Dee-Delivery) สำหรับผู้บริโภคที่เลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ และเลือกชำระเงินปลายทาง (COD) โดยผู้บริโภคมีสิทธิเปิดดูสินค้า ต่อหน้าพนักงานขนส่ง พร้อมบันทึกหลักฐานเป็นภาพถ่าย วิดีโอ หรืออื่น ๆ แต่หากสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อหรือสินค้าชำรุดบกพร่อง หรือไม่ได้สั่งซื้อสินค้าแต่มีสินค้ามาส่ง ผู้บริโภคมีสิทธิปฏิเสธไม่รับสินค้าและไม่ชำระเงิน แต่หากพบปัญหาจากมาตรการนี้ สามารถร้องเรียนผ่านสายด่วนสภาผู้บริโภค 1502 หรือช่องทางออนไลน์ ที่นี่