ผู้บริโภคชนะ หลังโดน “อีซี่โฮม” ฟ้องคดีเช่าซื้อ ศาลชี้บริษัทไม่สุจริต

ศาลยกฟ้อง กรณีบริษัทขายบ้าน “อีซี่โฮม” ฟ้องผู้บริโภคผิดสัญญาเช่าซื้อ ชี้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยไม่สุจริต ด้านสภาผู้บริโภคเร่ง สคบ. ออกประกาศควบคุมสัญญาเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์

จากกรณีที่สภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการเช่าซื้อบ้านที่ยังไม่ปิดจำนอง กับบริษัท อีซี่โฮม (ประเทศไทย) จำกัด และมีผู้บริโภคหลายรายที่ถูกบริษัทฯ ฟ้องร้องเป็นคดีความฐานผิดสัญญา (อ่านข่าวได้ที่ : https://www.tcc.or.th/rental-house/) ซึ่งสภาผู้บริโภคได้ให้คำปรึกษา และให้ความช่วยเหลือผู้บริโภคด้านคดีความอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 นั้น

ล่าสุด (วันที่ 22 ธันวาคม 2566) เวียน โพตะกาว ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเป็นทนายความผู้ดูแลคดีดังกล่าว ระบุว่า ได้ให้ความช่วยเหลือผู้บริโภคที่ถูกฟ้องร้องจากการทำสัญญาเช่าซื้อบ้านกับบริษัท อีซี่โฮม (ประเทศไทย) จำกัด จนกระทั่งศาลพิพากษายกฟ้อง โดยปัญหาเริ่มจากการที่ผู้บริโภครายดังกล่าวถูกบริษัทไฟแนนซ์ยึดบ้านและที่ดินยึดไปขายทอดตลาด ซึ่งเป็นบ้านและที่ดินยังติดหนี้จำนองกับธนาคารออมสินจึงค้นหาวิธีแก้ปัญหาบนอินเทอร์เน็ต จนกระทั่งเจอโฆษณาของเพจ ‘J Property’ (https://www.facebook.com/jpropertythailand) บนเฟซบุ๊ก เป็นเพจที่โฆษณาเรื่องการให้สินเชื่อ จึงติดต่อไปเพื่อปรึกษา ท้ายที่สุดจึงตกลงให้เพจดังกล่าว ช่วยประมูลบ้านพร้อมที่ดินและนำมาทำสัญญาเช่าซื้อกับผู้บริโภคอีกครั้งหนึ่ง โดยทำสัญญากับผู้บริโภคในชื่อบริษัท อีซี่โฮม (ประเทศไทย) จำกัด

หลังจากทำสัญญาเช่าซื้อ ผู้บริโภคได้ผ่อนชำระค่างวดกับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 จนถึงเดือนมกราคม 2566 จำนวน 27 งวด คิดเป็นเงิน 4 แสนบาท แต่ในเวลาต่อมาผู้บริโภคกลับถูกธนาคารฟ้องฐานความรับผิดหนี้จำนอง ทำให้ทราบว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ ไม่ได้ชำระหนี้จำนองกับธนาคารออมสิน

เวียน อธิบายต่ออีกว่า สภาผู้บริโภคเข้าช่วยเหลือด้านคดีโดยนำเรื่องร้องเรียนที่สภาผู้บริโภคได้รับไปเป็นหลักฐานในคดี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ศาลจังหวัดพิษณุโลกนัดฟังคำพิพากษา และตัดสินยกฟ้อง และให้บริษัทคืนเงินตามจำนวนที่ผู้บริโภคผ่อนไป โดยวินิจฉัยว่าบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยไม่สุจริต และผู้บริโภคไม่ได้ผิดเงื่อนไขสัญญาเช่าซื้อ เนื่องจากนับตั้งแต่ประมูลซื้อทรัพย์ขายทอดตลาดในราคาประมูล 30,000 และนำมาทำสัญญาเช่าซื้อในราคา 1,400,000 บาท ผู้บริโภคได้ผ่อนชำระหนี้กับบริษัทฯ มาโดยตลอด แต่บริษัทฯ กลับไม่เคยไปไถ่ถอนกับธนาคาร ซึ่งมองได้ว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคมาตลอดตั้งแต่เริ่มทำสัญญา

“คดีที่เกิดขึ้นจึงสามารถใช้เป็นคดีตัวอย่าง และนำแนวของศาลอื่นที่เคยพิจารณาคดีในลักษณะนี้มาเป็นแนวในการนำสืบคดีได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภครายอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาในลักษณะเดียวกันต่อไป” เวียนกล่าวทิ้งท้าย

ทางด้าน ภัทรกร ทีปบุญรัตน์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค กล่าวว่า ที่ผ่านมาสภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคจำนวน 81 ราย เกี่ยวกับปัญหาการทำสัญญาเช่าซื้อบ้านไม่ปิดจำนองกับบริษัท อีซี่โฮม (ประเทศไทย) จำกัด และถูกฟ้องร้องเป็นคดีความฐานผิดสัญญาในฐานะผู้เช่าซื้อ โดยบริษัทฯ ดังกล่าวมีพฤติการณ์คือไปประมูลบ้านที่ติดจำนอง เพื่อนำไปขายให้กับผู้บริโภครายใหม่  

ภัทรกรกล่าวอีกว่า สภาผู้บริโภคเสนอแนะไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2565  ให้ออกประกาศควบคุมสัญญาเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์และให้ตรวจสอบบริษัท อีซี่โฮม (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทอื่นที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจแบบเดียวกัน ในกรณีที่มีการใช้ข้อสัญญาไม่เป็นธรรมในการเอาเปรียบผู้บริโภค แต่ปัจจุบันยังไม่เห็นการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ซึ่งสภาผู้บริโภคจะติดตามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังและไม่หลงเชื่อ ทำธุรกรรม เช่าออม เช่าซื้อ บ้านที่ถูกประมูลแบบติดจำนอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เอาเปรียบผู้บริโภค จนกระทั่งสูญเงิน หรือถูกฟ้องขับไล่ เรียกค่าเสียหาย ดั่งตัวอย่างคดีนี้

#ผู้บริโภค #สภาองค์กรของผู้บริโภค #สภาผู้บริโภค