Getting your Trinity Audio player ready... |

นโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาท “ทำได้จริง” โดยไม่เป็นภาระงบประมาณของรัฐ ด้วยต้นทุนค่าจ้างเดินรถเพียง 11 บาทต่อเที่ยว สนับสนุนกทม.รับผิดชอบเดินรถ ใช้รายได้จากภาษีล้อเลื่อนสูงถึงปีละ 1.6 หมื่นล้านบาท แถมยังมีรายได้จากค่าโฆษณา-มูลค่าที่ดินรอบแนวรถไฟฟ้าอีกมหาศาล ขณะที่ต่างจังหวัดเริ่มขับเคลื่อนโมเดลขนส่งสาธารณะเพื่อความเป็นธรรม เช่น ภูเก็ต กาญจนบุรี และลำพูน

สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาผู้บริโภค ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ มิติข่าว 90.5 ว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ไม่ใช่แค่ “เป็นไปได้” แต่ควรเกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะเป็นโอกาสทำให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการขนส่งมวลชนอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน
สภาผู้บริโภคได้เสนอความเห็นมาตั้งแต่รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าบริการรถไฟฟ้าไม่ควรถูกมองเป็น “ทางเลือก” แต่ควรเป็นระบบขนส่งมวลชนหลักที่รัฐต้องดูแล ซึ่งตอนนั้นมีการศึกษาเพดานค่าโดยสารอยู่ที่ 65 บาท ซึ่งสภาฯ ไม่เห็นด้วย และเสนอราคาที่เหมาะสมคือ 25 บาท และจากการวิเคราะห์ข้อมูลของกระทรวงคมนาคมพบว่าหากมีรายได้จากการบริการรถไฟฟ้าเท่าเดิมแต่ลดค่าโดยสารลงครึ่งหนึ่ง รายได้ของกทม.จะยังคงมีกำไรราว 2.3 หมื่นล้านบาท
เมื่อขุดลึกถึงต้นทุนจริง พบว่าค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว หรือปีละ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะหลังปี 2572 ที่ไม่ต้องจ่ายค่าก่อสร้างสายสีเขียวแล้ว ขณะเดียวกันยังไม่ได้รวมรายได้จากค่าโฆษณา หรือมูลค่าที่ดินรอบแนวรถไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันกลับตกเป็นประโยชน์ของเอกชนเป็นส่วนใหญ่
“พรรคเพื่อไทยได้เห็นข้อมูลต้นทุนเหล่านี้ จึงหยิบมาดำเนินการ และเชื่อมั่นว่านโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” สามารถทำได้จริง ซึ่งสภาฯ เองก็สนับสนุนเต็มที่” สารีกล่าว
รถไฟฟ้า 20 บาท : ภาษีมีพอ รายได้เหลือเฝือ
สารี ย้ำว่า ประเทศไทยมีรายได้จากภาษีรวมกว่า 3.3 ล้านล้านบาท และหากรวมกองทุนต่าง ๆ จะมีเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านล้านบาท ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ “ภาษีล้อเลื่อน” ที่กรุงเทพมหานครจัดเก็บได้ปีละ 1.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าต่อปีอยู่ที่ราว 1.2 หมื่นล้านบาท เท่ากับว่าสามารถนำมาจัดบริการรถไฟฟ้า 20 บาทได้โดยไม่ขาดทุน
นอกจากนี้ ยังมีโมเดลที่หลายจังหวัดเริ่มขับเคลื่อนแล้ว เช่น ขอนแก่นที่ร่วมกับ อบจ. ศึกษานำงบ 200 ล้านบาทจากรายได้ภาษี 800 ล้านไปทำรถเมล์ฟรี หรือจังหวัดภูเก็ตที่มีการจัดรถ EV สำหรับนักเรียนและผู้สูงอายุใช้ฟรี ขณะที่ประชาชนทั่วไปจ่ายเพียง 20 บาท
สารี ได้เสนอแนะว่า รัฐบาลควรทบทวนการใช้งบประมาณในโครงการที่ไม่จำเป็น เช่น โครงการทางด่วน 2 ชั้นที่ใช้งบกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากนำมาจัดสรรให้ระบบขนส่งสาธารณะ ก็สามารถสนับสนุนบริการรถไฟฟ้า 20 บาทได้นานถึง 5 ปี
นอกจากนี้ ควรแยกรายได้จากส่วนอื่น ๆ เช่น ค่าโฆษณา หรือประโยชน์เชิงพาณิชย์จากอสังหาริมทรัพย์รอบสถานีรถไฟฟ้า ไม่ควรปล่อยให้ตกอยู่กับเอกชนโดยไม่มีการจัดสรรคืนให้ประชาชน
“เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลข แต่เป็นเรื่องของความเป็นธรรมของประชาชน รัฐต้องทบทวนทั้งต้นทุน โครงสร้างรายได้ และลำดับความสำคัญของงบประมาณ เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะของไทยเท่าเทียมและยั่งยืนในระยะยาว” สารีกล่าวทิ้งท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจาะงบ กระตุ้นเศรษฐกิจ 1.5 แสนล้าน สภาผู้บริโภคขอระบบขนส่งฯ ที่เป็นธรรม
จาก “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” สู่ขนส่งสาธารณะที่เป็นธรรม
ผู้บริโภคเฮ! รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แต่กังวลบางกลุ่มถูกจำกัดสิทธิ
สรุป ‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ คำนวณจากอะไร เอาเงินที่ไหนจ่าย?