Ribbon

ขอรัฐ “อย่านิ่งเฉย” อาคารสูง เข้าข่ายผิดกฏหมาย รถนักเรียนไม่ปลอดภัย

Getting your Trinity Audio player ready...
ขอรัฐ "อย่านิ่งเฉย" อาคารสูง เข้าข่ายผิดกฏหมาย รถนักเรียนไม่ปลอดภัย

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 สภาผู้บริโภคร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา แถลงข่าวใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ 1) ความปลอดภัยของผู้อาศัยใน อาคารสูง พร้อมเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาและดำเนินการกับผู้กระทำผิด เพื่อความถูกต้องและความปลอดภัยของผู้บริโภค  และ 2) ความปลอดภัยของเด็กในรถรับส่งนักเรียน ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนในช่วงเปิดเทอม โดยคณะอนุกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

ขอรัฐ "อย่านิ่งเฉย" อาคารสูง เข้าข่ายผิดกฏหมาย รถนักเรียนไม่ปลอดภัย :  สุนทร พฤกษพิพัฒน์

สุนทร พฤกษพิพัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนักเรียนที่เสียชีวิตจากเหตุรถตู้รับส่งนักเรียนพลิกคว่ำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมแสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของประชาชน โดยเฉพาะ “เด็กนักเรียน” ที่ใช้รถรับส่งนักเรียน พร้อมย้ำว่า “ผู้บริโภคมีสิทธิได้รับความปลอดภัยในการเดินทาง”

ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางถนน มาหารือร่วมกันเพื่อป้องกันอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถรับส่งนักเรียน ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากอุปกรณ์ความปลอดภัยของรถ หรือพฤติกรรมของเด็กนักเรียนที่เป็นผู้โดยสารในเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัย รวมถึงจำนวนผู้โดยสารที่อาจเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

“นอกจากนี้ ผู้ปกครองควรมีบทบาทร่วมตรวจสอบ ตักเตือน พร้อมปลูกฝังให้เด็กคาดเข็มขัดทุกครั้งที่ขึ้นรถ เพื่อป้องกันเหตุสูญเสียซ้ำรอย หากผู้บริโภคมีความตระหนักและกระตือรือร้นเรื่องความปลอดภัย ก็จะสามารถปกป้องสิทธิของตนเองและลดอุบัติเหตุได้” สุนทร กล่าว

ส่วนประเด็นเรื่องอาคารสูงที่เข้าข่ายผิดกฎหมายนั้น นายสุนทร ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้พักอาศัยในอาคารสูง โดยชี้ว่า กฎหมายกำหนดให้อาคารสูงทุกแห่ง ต้องมีถนนรอบอาคารกว้างไม่น้อยกว่า 6 เมตร เพื่อให้รถดับเพลิงสามารถเข้าถึงได้ในกรณีเกิดเพลิงไหม้หรือเหตุฉุกเฉิน แต่ปัจจุบันยังมีอาคารสูงจำนวนมากที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว “บางแห่งไม่มีถนนรอบอาคาร บางแห่งถนนแคบ หรือมีสิ่งก่อสร้างขวางทางรถดับเพลิง ซึ่งจากการตรวจสอบของสภาผู้บริโภค พบว่าอาจมีมากกว่า 50 อาคารที่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งหน่วยงานรัฐควรเร่งดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง

ขอรัฐ "อย่านิ่งเฉย" อาคารสูง เข้าข่ายผิดกฏหมาย รถนักเรียนไม่ปลอดภัย : ก้องศักดิ์ สหศักดิ์มนตรี

ก้องศักดิ์ สหศักดิ์มนตรี อนุกรรมการด้านอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย สภาผู้บริโภค ระบุว่า สำหรับเรื่องอาคารสูงผิดกฎหมาย สภาผู้บริโภค ได้แจ้งประเด็นนี้ต่อหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบ ได้แก่ สำนักการโยธา และหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้วยวาจา การเสวนา และการยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการ แต่จนถึงปัจจุบันระยะเวลาล่วงเลยกว่า 6 เดือนแล้ว เรื่องยังคงเงียบ ไม่มีการตอบกลับหรือการดำเนินการใด ๆ

 “ทุกวันที่หน่วยงานรัฐเพิกเฉยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น คือความเสี่ยงของชีวิตประชาชน เพราะหากเกิดเพลิงไหม้หรือแผ่นดินไหว อาคารที่ไม่มีถนนรอบ 6 เมตรจะ อพยพไม่ได้ รถดับเพลิงเข้าไม่ถึง และอาจเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอย” ก้องศักดิ์ระบุ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของสภาผู้บริโภค พบอาคารสูงการกระทำผิด 3 รูปแบบหลัก ได้แก่ 1. อาคารที่โฆษณาชัดเจนว่าไม่มีถนน 6 เมตร 2. อาคารที่ยื่นขออนุญาตก่อสร้างโดยอ้างว่ามีถนน 6 เมตร แต่ความจริงไม่เป็นไปตามนั้น และ 3. อาคารที่สร้างเสร็จแล้วไม่มีถนน 6 เมตร แม้ระบุไว้ในแบบแปลน ซึ่งการกระทำเหล่านี้ถือเป็น การจงใจละเมิดกฎหมาย และอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลย ซึ่งเป็นเหตุให้ปัญหายืดเยื้อมานาน

ก้องศักดิ์ กล่าวให้คำแนะนำประชาชนที่อยู่อาศัยในอาคารสูงหรือคอนโดมิเนียมให้สังเกตว่ารอบอาคารของตนมีถนนผิวการจราจรกว้างไม่น้อยกว่า 6 เมตรหรือไม่ ถนนต้องเป็นทางที่รถสามารถวิ่งผ่านได้จริง และ ต้องไม่เป็นสระน้ำ บ่อพัก หรือสวนตกแต่ง ซึ่งมักถูกนำมาใช้แทนถนนในหลายโครงการ

หลังจากการแถลงข่าว สภาผู้บริโภคได้ยื่นหนังสิอ ต่อคณะอนุกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ติดตาม ตรวจสอบ และผลักดันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อคุ้มครองสิทธิและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เมืองหลวง

สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 สภาผู้บริโภคได้รวบรวมเรื่องร้องเรียนจากชุมชน 11 แห่ง รวมทั้งลงพื้นที่สำรวจ และได้ทำหนังสือถึง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ สำนักการโยธา กทม. เพื่อให้ตรวจสอบอาคารที่เข้าข่ายก่อสร้างผิดกฎหมาย แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่เห็นผลการดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ต่อมาในเดือนตุลาคม 2568 กลุ่มประชาชนได้ยื่นร้องเรียนเพิ่มเติมถึง 42 โครงการ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ยังไม่มีการตอบกลับจากกรุงเทพมหานครเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ สภาผู้บริโภคได้เสนอให้กรุงเทพมหานครปรับปรุงระบบตรวจสอบและอนุญาตการก่อสร้างให้เข้มงวด โปร่งใส และเปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ เพราะความปลอดภัยของผู้บริโภคคือหัวใจสำคัญที่ต้องมาก่อนผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองหนาแน่นที่มีความเสี่ยงสูงต่อเหตุเพลิงไหม้หรือภัยพิบัติ


ต้องสูญอีกกี่ชีวิต? ยื่นสอบ 50 อาคารสูง หลังเหตุ ไฟไหม้คอนโด

10 ปี คดี ดิเอทัส ร่วมฤดี อาคารสูงผิดกฎหมาย ยังยืนท้าทายคำพิพากษา

อุบัติเหตุ “รถรับส่งนักเรียน” สูญเสียซ้ำซาก ถึงเวลาต้องปฏิรูป