| Getting your Trinity Audio player ready... |

ผู้บริโภคสะท้อนปัญหา “รถไฟฟ้า 40 บาท สายสีแดง – ม่วง” ไม่ครอบคลุมผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ประชาสัมพันธ์ไม่ชัด ระบบซับซ้อน ช่องแตะบัตรไม่เพียงพอ ไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริง
มาตรการ “ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงและสีม่วง 40 บาทตลอดสาย” ที่รัฐบาลประกาศเริ่มใช้เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ถูกคาดหวังว่าจะช่วยลดภาระค่าเดินทางของประชาชนและไม่กระทบผู้ที่ใช้งานเป็นประจำ แต่จากการสำรวจความเห็นบนโลกออนไลน์ พบว่า ผู้ใช้บริการจำนวนมากประสบปัญหาหลายด้าน โดยจากการเก็บรวบรวมข้อมูลของสภาผู้บริโภค ในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก เอ็กซ์ รวมถึงข่าวจากสื่อมวลชนหลายสำนัก สะท้อนว่า อุปสรรคที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้โดยสารจำนวนไม่น้อยไม่สามารถใช้สิทธิ 40 บาทได้จริงตามที่คาดหวัง

หนึ่งในปัญหาที่พบมากที่สุด คือ ผู้ใช้บริการหลายรายเข้าไม่ถึงนโยบายรถไฟฟ้า 40 บาท เนื่องจากมาตรการนี้จำกัดเฉพาะผู้ใช้บัตร EMV ได้แก่ บัตรเครดิต เดบิต หรือบัตรแมงมุม ที่มีสัญลักษณ์ไวไฟ (Wifi)เท่านั้น ทำให้ผู้ที่ใช้บัตรโดยสารแบบเที่ยวเดียวหรือบัตรเติมเงินทั่วไป ไม่สามารถใช้สิทธิค่าโดยสาร 40 บาทได้ ส่งผลให้ประชาชนบางส่วนยังต้องชำระค่าโดยสารในอัตราปกติแทน
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่อง ข้อมูลประชาสัมพันธ์ไม่ชัดเจน โดยประชาชนจำนวนมากไม่ทราบว่ามาตรการ 40 บาทตลอดสาย ต้องใช้บัตร EMV เท่านั้น ผู้โดยสารบางรายจึงเลือกใช้บัตรโดยสารของสายสีแดงหรือกดจากตู้ ทำให้พลาดสิทธิการใช้นโยบาย 40 บาท
ขณะผู้ที่ใช้ EMV ส่วนใหญ่ยังคงสับสนเรื่องการคิดราคาและคืนเงิน เนื่องจากเมื่อใช้บัตร EMV แล้ว ผู้โดยสารรจะถูกคิดค่าโดยสารในราคาเต็มไปก่อนและจะได้รับเงินส่วนต่างคืนในอีก 1 – 3 วันทำการ เช่น นั่งสายสีแดงจากหลักหกไปบางซื่อ เสียค่าโดยสาร 42 บาท นั่งไปกลับต้องสำรองจ่ายค่าโดยสาร 84 บาท หลังจากนั้นระบบจึงจะคืนเงินส่วนต่าง 44 บาท ให้กับผู้บริโภคเมื่อผ่านไป 1-3 วันทำการ ซึ่งการทำระบบในลักษณะดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการ สร้างขั้นตอนที่ยุ่งยาก ทำให้ผู้โดยสารเกิดความสับสนและเป็นอุปสรรคในการใช้งาน
สำหรับผู้ใช้งานบัตรแมงมุม EMV บางรายซื้อบัตรในช่วงที่รัฐบาลชุดก่อนประกาศว่าจะเริ่มนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท จึงเพิ่งเริ่มใช้งานบัตร มีเสียงสะท้อนเรื่อง ระบบลงทะเบียนและผูกบัตรมีขั้นตอนซับซ้อน ทำให้ผู้ใช้ใหม่สับสนตั้งแต่เริ่มใช้บริการ
นอกจากปัญหาเรื่องบัตรแล้ว ยังมีประเด็นเรื่องช่องแตะบัตรเพื่อเข้าสถานีมีจำนวนไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งเป็นปัญหาของรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่มีช่องสำหรับแตะบัตร EMV เพียง 1 ช่อง ทำให้ต้องแถวยาวและต้องใช้เวลานาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน
ในอีกแง่มุมหนึ่ง ก็มีเสียงจากผู้โดยสารที่เดินทางหลายสถานีแต่ใช้บริการเพียงวันละ 1 เที่ยว ที่สะท้อนว่า มาตรการรถไฟฟ้า 40 บาทตลอดวันทำให้ต้องจ่ายค่าโดยสารแพงขึ้น เมื่อเทียบกับนโยบายของรับบาลชุดก่อน
อีกหนึ่งปัญหาที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก คือ มาตรการดังกล่าวยังครอบคลุมเพียง 2 สายเท่านั้น ทำให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าในระบบอื่น เช่น สายสีเขียว (บีทีเอส) สายสีน้ำเงิน ยังไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการลดค่าโดยสารครั้งนี้ ส่งผลให้ภาพรวมค่าเดินทางในกรุงเทพฯ ยังไม่ลดลงเท่าที่ประชาชนคาดหวัง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้สภาผู้บริโภคจะรวบรวมปัญหาและเสียงสะท้อนจากผู้บริโภค เพื่อเป็นข้อมูลและจัดทำข้อเสนอแนะนำส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ เสียงสะท้อนจากผู้บริโภคเป็นข้อมูลสำคัญเพื่อผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปรับปรุงระบบเงื่อนไข วิธีการใช้งาน รวมถึงการประชาสัมพันธ์ และเร่งพัฒนาระบบตั๋วร่วมให้สมบูรณ์ โปร่งใส และครอบคลุมทุกระบบรถไฟฟ้าในอนาคต เพื่อให้เกิด “ระบบขนส่งสาธารณะที่ทุกคนขึ้นได้ทุกวัน” อย่างแท้จริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุน รถไฟฟ้า 40 บาท มุ่งหน้าสู่ตั๋วร่วม ย้ำเดินทางไม่เกิน 10% ของค่าแรง
20 หรือ 40 บาทก็ได้ ขอรัฐบาลใหม่เดินหน้า รถไฟฟ้า ที่ทุกคนขึ้นได้ทุกวัน
“พิพัฒน์” สั่งตรวจสอบด่วน ผู้โดยสารโวยค่ารถไฟฟ้าตลอดสาย จ่ายจริงไม่ใช่ 40 บาท



