สภาผู้บริโภคเชิญผู้ว่าฯ กทม. แจงปมถมดินฆ่าต้นไม้พุทธมณฑล

จากกรณีสภาผู้บริโภค เผยถึงสถานการณ์การทำลายพื้นที่สีเขียวริมถนนสาย ค. พุทธมณฑล ซึ่งส่งผลให้ต้นไม้กว่า 195,000 ต้นถูกโค่นถางหรือยืนต้นตายจากการถมดินสูงผิดมาตรฐาน กระทบคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคพร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่เสียหายนั้น

วันนี้ (16 กรกฎาคม 2568) รสนา โตสิตระกูล ประธานคณะอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาผู้บริโภค ระบุว่า เตรียมเชิญผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้แทน พร้อมผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ ผู้อำนวยการพุทธมณฑล และผู้แทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีการถมดินในพื้นที่พุทธมณฑล ซึ่งถูกระบุว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้นไม้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยกำหนดจัดประชุมในวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ที่จะถึงนี้ รวมทั้งการร่วมหารือเพื่อวางแนวทางฟื้นฟูพื้นที่พุทธมณฑลให้กลับมาเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับประชาชนและผู้บริโภคโดยเร็วที่สุด

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากคณะอนุกรรมการฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พบว่ามีการแผ้วถางพื้นที่สีเขียวกว่า 30.5 ไร่ (48,800 ตารางเมตร) เพื่อรองรับการนำดินจากโครงการขุดอุโมงค์ระบายน้ำมาถมในพื้นที่พุทธมณฑล ถนนสาย ค. โดยมีการขุดหลุมลึกเพื่อรองรับดินและถมสูงถึง 1.5 – 2 เมตรในหลายจุด ส่งผลให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่บางส่วนยืนต้นตาย ขณะที่ต้นไม้ขนาดเล็กและกลางในพื้นที่ที่ถูกถากถางกว่า 195,000 ต้น ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพดิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กเพจทางการว่า ได้ตรวจสอบแล้วพบต้นไม้ยืนต้นตายเพียงประมาณ 60 ต้น พร้อมยืนยันว่าได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนฟื้นฟูโดยการปรับลดหน้าดิน เปิดร่องระบายน้ำรอบโคนต้นไม้ และจัดหากล้าไม้มาปลูกทดแทน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2568

สำหรับประเด็นดังกล่าว สภาผู้บริโภคตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน ภาพพื้นที่ที่ต้นไม้ยืนต้นตายจากการถมดินยังคงปรากฏ และไม่พบสัญญาณว่ามีการลดระดับดินตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังพบว่ามีการถมดินเพิ่มในบางจุด โดยเฉพาะพื้นที่ใหม่ที่ต้นไม้ใบยังเขียวขจี ซึ่งอาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนว่าต้นไม้รอดได้ ทั้งที่เป็นการสะสมความเสียหายในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม สภาผู้บริโภคยืนยันตัวเลขต้นไม้ที่ได้รับผลกระทบจากการแผ้วถางพื้นที่ว่าอาจสูงถึง 195,200 ต้น โดยเป็นการคำนวณจากจำนวนต้นไม้ขนาดเล็กและกลางที่เคยมีในพื้นที่ก่อนถูกรื้อถอนถางออก ทั้งนี้ ยังไม่สามารถประเมินจำนวนต้นไม้ใหญ่ที่ตายจากการถมดินสูงได้อย่างชัดเจน

ขณะที่การฟื้นฟูพื้นที่กว่า 30 ไร่ สภาผู้บริโภคมองว่าไม่อาจแล้วเสร็จภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ และต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงดินและฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างจริงจัง ล่าสุด ได้ประสานไปยังพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ประธานมูลนิธิปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะ เพื่อเตรียมระดมอาสาสมัครมาร่วมฟื้นฟูพื้นที่ เมื่อสภาพดินและพื้นที่พร้อมต่อการปลูกต้นไม้ใหม่ในอนาคต