เครือข่ายผู้บริโภคทั่วประเทศ ยื่นชะลอประมูลคลื่นความถี่

เครือข่ายผู้บริโภคกว่า 94 องค์กร รวมตัวเคลื่อนไหวทั่วประเทศ ยื่นสำนักงาน กสทช. 8 จังหวัด ขอชะลอประมูลคลื่นความถี่ ส่อผูกขาด ไม่เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม จี้เพิ่มเงื่อนไขคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค พร้อมชง 3 ข้อเสนอ เพิ่มบริการอินเทอร์เน็ตสำหรับกลุ่มเปราะบางและประชาชนทั่วไปในราคาที่เข้าถึงได้ จัดให้มีบริการสาธารณะแจ้งเตือนภัย และคิดค่าบริการตามจริง

หลังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้ออกประกาศเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ในย่านความถี่ 850 MHz, 1500 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz โดยกำหนดจัดการประมูลขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน 2568 ที่จะถึงนี้ และคาดว่าจะมีเอกชนเพียง 2 รายที่เข้าประมูล มีแนวโน้มผูกขาดตลาด และปิดทางเลือกผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคกว่า 94 องค์กร ได้เข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงาน กสทช. เขตพื้นที่ เพื่อเรียกร้องให้ชะลอการประมูล และทบทวนเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ดังกล่าว โดยคำนึงถึงการคุ้มครองผู้บริโภคและการแข่งขันที่เป็นธรรม

กลุ่มผู้บริโภคแสดงความกังวลว่า การประมูลคลื่นความถี่ที่จะเกิดขึ้นอาจไม่ส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรมในตลาดโทรคมนาคม เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย ซึ่งอาจนำไปสู่การผูกขาดหรือขาดแรงจูงใจในการพัฒนาบริการที่มีคุณภาพ อีกทั้งในประกาศดังกล่าวยังไม่มีเงื่อนไขที่เพียงพอต่อการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะการเข้าถึงบริการพื้นฐานในราคาที่เป็นธรรมและการได้รับบริการที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน อาจนำไปสู่การกำหนดราคาค่าบริการและคุณภาพบริการที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค

ทั้งนี้ เครือข่ายผู้บริโภคได้เสนอให้สำนักงาน กสทช. เพิ่มเงื่อนไขที่ชัดเจนด้านสังคมและสิทธิผู้บริโภค ก่อนเปิดการประมูล โดยมีข้อเสนอหลัก 3 ประการ ได้แก่

1. จัดให้มีแพ็กเกจบริการอินเทอร์เน็ตพื้นฐานราคาประหยัดสำหรับกลุ่มเปราะบางและประชาชนทั่วไป โดยที่ผู้ให้บริการต้องเสนอแพ็กเกจที่ให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่จำกัดปริมาณ ความเร็วเฉลี่ย 4 Mbps ในราคาสูงสุดไม่เกิน 75 บาทต่อ 30 วัน สำหรับผู้มีรายได้น้อย คนพิการ นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ และราคาไม่เกิน 200 บาทต่อ 30 วัน สำหรับประชาชนทั่วไป

2. จัดให้มีระบบบริการพื้นฐานเพื่อประโยชน์สาธารณะโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อาทิ ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security), ระบบแจ้งเตือนภัยผ่านสัญญาณโทรศัพท์ (Cell Broadcast) และแอปพลิเคชันที่ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบคุณภาพสัญญาณด้วยตนเอง

3. ให้บริการที่คิดค่าบริการตามการใช้งานจริง โดยไม่มีค่าบริการเหมาจ่ายเป็นพื้นฐาน ผู้บริโภคควรมีสิทธิเลือกใช้บริการตามความต้องการ โดยสามารถเลือกใช้งานบริการเสียง, ข้อมูล หรือข้อความสั้นแยกจากกันได้ และใช้อัตราค่าบริการถ่วงน้ำหนักเฉลี่ยจากราคาที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ เครือข่ายยังเรียกร้องให้ กสทช. พิจารณาการกำหนดเพดานคลื่นความถี่ที่ผู้ให้บริการรายหนึ่ง ๆ สามารถถือครองได้ เพื่อลดโอกาสการผูกขาดและเพิ่มความหลากหลายของผู้เล่นในตลาด รวมถึงขอให้ยึดวัตถุประสงค์ของการจัดสรรคลื่นความถี่ตามที่ระบุไว้ในประกาศ กสทช. ที่เน้นการใช้คลื่นความถี่เพื่อประโยชน์สาธารณะ และการส่งเสริมสิทธิในการติดต่อสื่อสารอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม

อย่างไรก็ตามในหนังสือข้อเสนอที่เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคยื่นถึงสำนักงาน กสทช. เขต ระบุอีกว่า คลื่นความถี่เป็นทรัพยากรสาธารณะ จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น โดยการชะลอประมูลเพื่อเพิ่มเงื่อนไขการคุ้มครองผู้บริโภค ถือเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างการแข่งขันและสิทธิของผู้บริโภค

ขณะนี้สำนักงาน กสทช. เขตทั้ง 8 แห่งได้ตอบรับหนังสือข้อเสนอ และจะส่งต่อไปยังส่วนกลางเพื่อประกอบการพิจารณาทบทวนการจัดสรรคลื่นความถี่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน 2568