Ribbon

แนะ เลี่ยงฝากขายรถผ่านอู่ ป้องกันถูกโกง

สภาผู้บริโภคเตือนให้ เลี่ยงฝากขายรถผ่านอู่ หลังพบการหลอกลวงขายรถ พร้อมแนะตรวจสอบใบอนุญาตและสัญญาก่อนทำธุรกรรมรถยนต์

กรณีนักร้องดัง จ๋าย ไททศมิตร เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอู่ซ่อมรถชื่อดังในจังหวัดปทุมธานี หลังนำรถส่วนตัวเข้าซ่อมเพื่อเตรียมขาย แต่อู่กลับไม่ส่งรถคืน แต่อ้างซ้ำ ๆ ว่ามีลูกค้าสนใจและอยู่ระหว่างรอพิจารณาจากบริษัทเช่าซื้อ (ไฟแนนซ์) นานหลายเดือน ต่อมาพบว่ารถถูกขายไปแล้วโดยตนเองไม่ได้รับเงิน พร้อมถูกขอให้ลงนามเป็นเจ้าหนี้ – ลูกหนี้ เพื่อเปลี่ยนประเด็นเป็นคดีแพ่ง จึงตัดสินใจปฏิเสธและแจ้งความเจ้าของอู่ในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งภายหลังได้พบว่ามีผู้เสียหายเริ่มออกมาเปิดเผยว่าถูกอ้างเหตุผลลักษณะเดียวกันแทบทั้งหมดจำนวนไม่ต่ำกว่า 40 ราย

วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2568) สภาผู้บริโภค วิเคราะห์ว่า รูปแบบการหลอกลวงเช่นนี้สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างในธุรกิจอู่ซ่อมรถที่รับฝากขายรถยนต์ ซึ่งยังไม่มีกลไกกำกับดูแลชัดเจนจากภาครัฐ ทั้งนี้ โสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค ระบุว่า การรับฝากขายรถยนต์ในธุรกิจอู่ซ่อมรถเป็นภาคธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากการทำธุรกิจฝากขายไม่มีการควบคุมโดยหน่วยงานของรัฐ ทำให้ผู้ที่ฝากขายไม่ได้รับความคุ้มครองด้านสัญญา หากฝากขายกับอู่ที่ไม่โปร่งใส อาจมีความเสี่ยงที่ผู้ประกอบการถอดอุปกรณ์ติดตามรถหรือแทรกแซงข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถ ส่งผลให้เจ้าของรถติดตามรถคืนได้ยากและอาจเสียสิทธิในการได้เงินคืน

“ผู้ที่นำรถไปขายควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะแม้อู่ที่มีชื่อเสียง ก็ไม่ได้แสดงว่าจะปลอดภัยเสมอไป และมีความเป็นไปได้ที่จะเจอมิจฉาชีพที่แฝงตัวอยู่ในธุรกิจรับฝากขายรถ” โสภณ กล่าว พร้อมระบุว่าผู้ที่ต้องการรับซื้อหรือรับฝากขายรถควรไปจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้การดำเนินธุรกิจอยู่ภายใต้การตรวจสอบของรัฐ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคมากขึ้น

ด้าน ภัทรกร ทีปบุญรัตน์ รองหัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค อธิบายเพิ่มเติมว่า พฤติการณ์ของอู่ซ่อมรถในกรณีนี้อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งครอบคลุมกรณีแสดงข้อความเท็จ ปกปิดความจริง หรือทำให้ผู้เสียหายมอบเอกสารสิทธิให้ โดยโทษสูงสุดคือจำคุกสูงสูดถึง 3 ปี หรือปรับถึง 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีของนักร้องคนดังกล่าวที่ไม่ลงนามรับสภาพเป็นเจ้าหนี้ – ลูกหนี้ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะเอกสารลักษณะนั้นอาจทำให้เรื่องถูกตีความเป็นเพียงข้อพิพาททางแพ่ง และอาจทำให้ผู้เสียหายเสียสิทธิในการดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิดได้

ภัทรกรยังเสนอแนวทางป้องกันว่า ผู้ที่ต้องการขายรถควรเลือกเต็นท์รถที่จดทะเบียนถูกต้อง มีใบอนุญาตค้าของเก่า สัญญาและหลักฐานการรับเงินมีการดำเนินการตามระเบียบของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือสามารถตรวจสอบสถานะผู้ประกอบการผ่านเว็บไซต์สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว รวมถึงควรโอนเล่มทะเบียนต่อหน้าที่กรมการขนส่งฯ เท่านั้น โดยไม่ควรส่งมอบเล่มทะเบียนหรือเซ็นโอนลอยก่อนตรวจสอบความถูกต้องของผู้ซื้อและธุรกรรมทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้บริโภคควรขอสัญญาและหลักฐานการรับเงินเพื่อป้องกันการแอบอ้างหรือเอกสารเท็จ

อย่างไรก็ตาม จากกรณีข้างต้นยังพบปัญหาที่อู่ซ่อมรถใช้อะไหล่ปลอม แต่มาเรียกเก็บเงินในราคาอะไหล่แท้ รวมถึงยังพบกรณีผู้เสียหายหลายรายถูกยกเลิกทะเบียนรถและส่งรถไปขายต่างประเทศโดยไม่ได้รับความยินยอม ขณะที่บางรายถูกเรียกเงินมัดจำซ่อมรถหลายแสนบาทแต่ไม่ดำเนินการใด ๆ และไม่คืนเงิน แม้หลายคนเข้าแจ้งความแล้วแต่คดียังไม่มีความคืบหน้า และไม่สามารถติดต่อผู้ประกอบการได้ ทั้งนี้หากผู้บริโภคได้รับความเสียหาย หรือถูกเอาเปรียบ สามารถร้องเรียนกับสภาผู้บริโภค ผ่านออนไลน์ที่เว็บไซต์สภาผู้บริโภค หรือสามารถร้องเรียนกับ สคบ. ได้เช่นเดียวกัน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง