Getting your Trinity Audio player ready... |

สภาผู้บริโภคเผยผลหารือร่วมกับแกนนำผู้เสียหาย กรณีปัญหารถยนต์ไฟฟ้าเนต้า พบคำชี้แจงของบริษัทยังแก้ไขปัญหาไม่ได้จริงหลายประเด็น ทั้งการเคลมอะไหล่ การใช้ประกันภัย หรือการติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จ เสนอให้เรียกคืนรถหากเยียวยาไม่ครบ ย้ำต้องชัดเจนภายใน 20 มิ.ย.นี้ ก่อนเดินหน้าฟ้องคดีแบบกลุ่ม
จากการที่สภาผู้บริโภคได้รับหนังสือชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจากบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด และดีลเลอร์ 2 ราย ได้แก่ บริษัท อีวี ฟาสต์ จำกัด และบริษัท อีวี เพเซอร์ จำกัด ซึ่งยืนยันว่าจะสามารถส่งมอบทะเบียนรถ (ป้ายขาว) และอะไหล่ทั้งหมดได้ครบภายในเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมเสนอขยายระยะเวลารับประกันสินค้าเพิ่มอีก 4 – 6 เดือน ให้กับรถที่ประสบปัญหาการซ่อมล่าช้านั้น
ล่าสุด (18 มิถุนายน 2568) โสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับแกนนำผู้เสียหาย พบว่า คำชี้แจงจากบริษัทเนต้ายังไม่สามารถตอบโจทย์ปัญหาได้จริงในเชิงปฏิบัติ และในหลายประเด็นยังขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ผู้บริโภคพบเจอ ทั้งในส่วนของอะไหล่ ที่แม้บริษัทจะชี้แจงว่ามีรายการอะไหล่ที่อยู่ระหว่างการเคลมภายใต้ระบบวารันตีจำนวน 74 รายการ โดยส่งมอบแล้ว 32 รายการ และจะทยอยส่งอีก 42 รายการภายในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ผู้เสียหายจำนวนหนึ่งชี้ว่า ปัจจุบันยังไม่ได้รับการเคลมตามที่บริษัทกล่าวอ้าง และพบข้อมูลว่าดีลเลอร์บางรายยังไม่ได้ส่งข้อมูลการเคลมอะไหล่เข้าสู่ระบบ ทำให้ยอดเคลมและจำนวนผู้เสียหายที่บริษัทเนต้ารับรู้อาจต่ำกว่าความเป็นจริง
ด้านการเคลมประกันภัย ที่บริษัทอ้างว่ามีอะไหล่พร้อมสำหรับซ่อมรถที่ทำประกันกับดีลเลอร์ที่ได้รับแต่งตั้ง ผู้เสียหาย ระบุว่า มีหลายกรณีที่ไม่สามารถเคลมได้ โดยเฉพาะรถที่ได้รับประกันฟรีจากโปรโมชัน ซึ่งขาดเอกสารรับรอง หรือไม่ได้รับการลงทะเบียนจากดีลเลอร์อย่างเป็นทางการ ส่งผลให้บริษัทประกันปฏิเสธความคุ้มครอง บางรายต้องสำรองจ่ายค่าซ่อมด้วยตนเอง และบางรายต้องร้องเรียนผ่านสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ก่อนจึงได้รับการชดเชย
สำหรับปัญหาเครื่องชาร์จไฟบ้าน (Wall Box) เป็นอีกประเด็นที่ยังพบความไม่ชัดเจน แม้บริษัทจะระบุว่าได้ส่งมอบครบตามที่ดีลเลอร์แจ้ง และให้ผู้บริโภคติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์หากยังไม่ได้รับ แต่หลายกรณีกลับพบว่า ไม่สามารถติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ได้จริง หรือฝ่ายได้รับข้อมูลที่ไม่ตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันบางรายที่ติดตั้งแล้วก็พบว่า ระบบไฟบ้านไม่สามารถรองรับการใช้งานได้ และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าท่อสายไฟ วงจรไฟฟ้า หรือการอัปเกรดระบบ ซึ่งไม่เคยมีการแจ้งล่วงหน้า และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นหลักหมื่นบาท
นอกจากนี้ สภาผู้บริโภคยังพบว่าอุปกรณ์สำคัญอย่าง CDU (Control and Display Unit) ซึ่งเป็นหัวใจในการควบคุมระบบรถ มีความบกพร่องในหลายกรณี แม้กระทั่งในรถที่เพิ่งส่งมอบใหม่ ข้อมูลในเว็บไซต์บริษัทระบุว่า CDU ผลิตในประเทศไทย แต่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นอุปกรณ์หลายอย่างนำเข้าจากจีน ซึ่งสภาผู้บริโภคเห็นว่าอาจเข้าข่ายโฆษณาไม่เป็นไปตามที่ระบุ และเตรียมส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ในการหารือดังกล่าว กลุ่มผู้เสียหายยังได้เสนอว่า การขยายวารันตีไม่สามารถชดเชยความเสียหายที่แท้จริงได้ เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากยังไม่สามารถใช้งานรถได้ตามปกติ และต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการใช้รถทางเลือก เช่น แท็กซี่หรือรถเช่า ดังนั้น สภาผู้บริโภคจึงมีสิทธิเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถมากกว่าการขยายเวลารับประกันตามที่บริษัทเสนอ
โสภณ แสดงความกังวลต่อสถานะการเงินของบริษัท หลังกลุ่มผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เนต้าทั่วประเทศได้รวมตัวยื่นหนังสือต่อกรมสรรพสามิต เพื่อขอคำชี้แจงกรณีบริษัทค้างชำระเงินกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงส่วนแบ่งกำไร ค่าก่อสร้างโชว์รูม และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ยังไม่ชำระ โดยสภาผู้บริโภคเห็นว่าประเด็นนี้อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถของบริษัทในการจัดการปัญหาและเยียวยาผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถแสดงแผนดำเนินงานที่ชัดเจนและดำเนินการได้จริงภายในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ สภาผู้บริโภคจะเดินหน้าฟ้องคดีแบบกลุ่ม (Class Action) เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมอย่างเหมาะสม พร้อมเรียกร้องให้บริษัทเนต้าพิจารณาให้รับผิดชอบ ทั้งในรูปแบบการคืนรถ ชดเชยค่าเสียหาย และค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ขณะนี้สภาผู้บริโภคอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลผู้เสียหายและจัดกลุ่มตามประเภทปัญหา โดยมีการติดตามความคืบหน้าของแผนเยียวยาอย่างใกล้ชิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง