เทรนด์ ชาไทยไม่ใส่สีกำลังมาแรง 4 แบรนด์เปิดตัวรับกระแสใส่ใจสุขภาพ สร้างความคึกคัก และทางเลือกให้กับตลาดบริโภคชาไทยเป็นอย่างมาก พร้อมตอกย้ำสิทธิของผู้บริโภคในการเลือกรับสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง
จากกรณีล่าสุด แบรนด์เครื่องดื่มอย่าง คาเฟ่ อเมซอน ได้เปิดตัว ชาไทยไม่ใส่สี ตามมาด้วย ชาตรามือ ที่ประกาศจะวางจำหน่าย ชาไทยไม่มีสี และ ชาไทยสีธรรมชาติรวมทั้ง โคอิเตะ และ แบร์เฮาส์ ก็ได้วาง เมนูชาไทยที่ไม่ใส่สีผสมอาหาร
“ชาไทยไม่ใส่สี” เทรนด์นี้ ไม่ใช่แค่ความแปลกใหม่ทางการตลาด แต่ก็ได้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงทีละก้าว ๆ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ สภาผู้บริโภค ร่วมกับ นิตยสารฉลาดซื้อ และ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยผลทดสอบ “สีในชาผงสำเร็จรูปและชาปรุงสำเร็จ” เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่า 85% ของตัวอย่างชาผงสำเร็จรูปและชาปรุงสำเร็จจำนวน 20 ยี่ห้อ มีการใช้สีสังเคราะห์มากกว่า 1 ชนิด และ 50% ระบุฉลากไม่ครบถ้วน เป็นข้อมูลผลทดสอบที่ชวนให้ผู้บริโภคต้องตื่นตัว
ที่ผ่านมา ผู้บริโภคจำนวนมากอาจกำลังดื่มชาไทยที่มีการใช้สีสังเคราะห์โดยไม่รู้ตัว ทั้งที่ตามกฎหมาย ผู้บริโภคมีสิทธิได้รับข้อมูลที่ ครบถ้วน ชัดเจน การไม่แสดงข้อมูลหรือใช้ภาษาที่ยากต่อการเข้าใจ เป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภคที่ควรมีโอกาส รู้ก่อนเลือก และ เลือกอย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ ดร. แก้ว กังสดาลอำไพ ที่ปรึกษานิตยสารฉลาดซื้อ ได้กล่าวถึงอันตรายของวัตถุเจือปนอาหาร สีสังเคราะห์ในการงานแถลงข่าวเผยผลทดสอบว่า การประเมินผลของวัตถุเจือปนอาหารในสัตว์ทดลองก่อนมีการใช้จริง แม้จะมีการประเมินว่าให้ใช้ได้ แต่นั่นคือการที่ผู้บริโภคยอมรับความเสี่ยงว่า ปริมาณที่ใส่ในอาหารนั้นมีความเสี่ยงต่ำที่สุดด้วยการคำนวณตัวเลข
อย่างไรก็ตามผลกระทบก็ขึ้นกับการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคลด้วย ดังนั้นสิ่งที่ผู้บริโภคควรคำนึงคือ “ไม่มีคำว่าปลอดภัยในเอกสารทางพิษวิทยาของสารเคมีที่เข้าสู่ร่างกายมนุษย์” แต่มีคำว่า ความเสี่ยงและประโยชน์ที่ได้ (risk and benefit) เท่านั้น
แม้สีสังเคราะห์จะได้รับอนุญาตให้ใช้ในอาหารภายใต้ปริมาณที่กำหนด แต่หากบริโภคบ่อยหรือสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม สภาผู้บริโภคสนับสนุนผู้ประกอบการที่ใส่ใจความปลอดภัยของผู้บริโภค พร้อมเรียกร้องให้แบรนด์อื่น ๆ ปรับตัว โดยใช้วัตถุดิบที่ปลอดภัย และยึดถือสุขภาพของผู้บริโภคเป็นหัวใจสำคัญ อีกทั้ง ผู้บริโภคมีสิทธิในการเลือกบริโภคอย่างปลอดภัย และเป็นสิทธิที่ผู้บริโภคทุกคนควรได้รับ
สามารถติดตามผลทดสอบชาไทยฉบับเต็มได้ที่ สภาผู้บริโภค เผยผลทดสอบชาผงสำเร็จรูป พบกว่าครึ่งแสดงฉลากไม่ครบถ้วน
