เตือนภัยผู้บริโภคหลงซื้อบ้านไม่ปิดจำนอง

ข่าว | เตือนภัยผู้บริโภค หลงเช่าซื้อบ้านไม่ปิดจำนอง เสียหายกว่า 32 ล้านบาท

วันนี้ (25 พฤศจิกายน 2564) อิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) กล่าวว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ศูนย์บริการผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ (One-stop Service) สอบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคที่หลงเชื่อและเช่าซื้อบ้านที่ยังไม่ปิดจำนอง ซึ่งหมายถึงบ้านที่ซื้อมาจากบริษัทที่ประมูลบ้านได้ แต่บริษัทไม่ไปชำระหนี้จำนอง จนทำให้ผู้บริโภคต้องจ่ายหนี้นั้นแทน

อิฐบูรณ์ เล่าถึงเหตุการณ์ของผู้ร้องเรียนว่า ผู้ร้องไปกู้ยืมเงินจากธนาคารออมสินและผิดนัดชำระหนี้ จนถูกธนาคารฟ้องให้ชำระหนี้และถูกสำนักงานบังคับคดียึดบ้านไปขายทอดตลาดเพื่อนำมาชำระหนี้ให้กับธนาคารออมสินเมื่อ 20 สิงหาคม 2561 อีกทั้งบ้านดังกล่าวยังติดจำนองกับกรมสวัสดิการทหารบกอยู่อีกด้วย กระทั่ง 20 ธันวาคม 2561 บริษัท อีซี่โฮม (ประเทศไทย) จำกัด ได้ซื้อบ้านหลังนั้นต่อจากการขายทอดตลาดในราคาหลักหมื่น เนื่องจากเป็นทรัพย์ที่ติดจำนอง

จากนั้นบริษัทฯ ได้นำบ้านหลังดังกล่าวที่ประมูลซื้อได้ในราคาถูกมาเสนอให้ผู้ร้องรายนี้เช่าซื้อบ้านของตัวเอง แต่ผู้ร้องปฎิเสธ บริษัทฯ จึงได้นำบ้านไปทำสัญญากับบุคคลภายนอกแทน แต่ผู้ร้องยังถูกกรมสวัสดิการทหารบกหักยอดหนี้จากบัญชีอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ทราบว่าบริษัทฯ ไม่เคยชำระหนี้ใด ๆ ที่ผูกพันกับบ้านเลย นอกจากนี้ ในส่วนของบุคคลภายนอกที่เช่าซื้อบ้านจากบริษัทอีซี่โฮมยังต้องจ่ายหนี้ให้กับบริษัทฯ รวมถึงอาจต้องเสียบ้านหลังดังกล่าวที่เช่าซื้อมาอีกด้วย

รองเลขาธิการ สอบ. กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ดังกล่าวมีพฤติการณ์ในการนำบ้านติดภาระจำนองที่ประมูลซื้อได้จากการขายทอดตลาดในราคาถูกไปทำสัญญาเช่าซื้อ ซื้อขาย หรือทำสัญญาเช่ากับผู้บริโภครายอื่น ๆ และบริษัทฯ ไม่ชำระหนี้จำนองให้กับผู้บริโภคหลายราย จนทำให้ผู้บริโภคที่เข้าทำสัญญาใหม่ถูกหมายแจ้งยึดทรัพย์จากสถาบันการเงิน และผู้ที่เป็นลูกหนี้เดิมก็ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น โดยแบ่งผู้เสียหายได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่หนึ่ง เจ้าของบ้านเดิมที่ถูกติดต่อให้ทำสัญญาเช่าซื้อบ้านตนเอง และกลุ่มที่สอง เจ้าของบ้านรายใหม่ที่เข้าทำสัญญากับบริษัทอีซี่โฮม

พฤติการณ์ของบริษัทฯ ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมากที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน บางกลุ่มได้ร้องเรียนมาที่ สอบ. ส่วนบางกลุ่มได้แจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามในคดีฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา รวมทั้งหมด 47 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 32,407,709.22 บาท

“ขณะนี้ผู้บริโภคทั้งสองกลุ่มต้องเผชิญปัญหาสูญเสียที่อยู่อาศัย และต้องแบกรับภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น สอบ. จึงขอแจ้งเตือนผู้บริโภคให้ระมัดระวังพฤติกรรมการเชิญชวนให้ซื้อทรัพย์ที่ได้มาจากการขายทอดตลาดที่ติดจำนอง และก่อนทำสัญญาใด ๆ ควรตรวจสอบก่อนว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทฯ คู่สัญญา หรือได้มีการปิดยอดหนี้จำนองเรียบร้อยแล้วหรือไม่” รองเลขาธิการ สอบ. กล่าว