Getting your Trinity Audio player ready... |

‘ เนต้า ’ ‘อีวี ฟาสต์’ และ ‘อีวี เพเซอร์’ ส่งหนังสือถึงสภาผู้บริโภคแจงแนวทางแก้ปัญหา ยืนยันส่งป้ายขาว – รีสต็อกอะไหล่ครบ ภายใน ก.ค. นี้ พร้อมขยายระยะประกัน 4-6 เดือน ด้านสภาผู้บริโภค ขีดเส้นตาย 20 มิ.ย. หากไร้ความคืบหน้า เตรียมฟ้องคดีแบบกลุ่มทันที
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ที่กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเนต้า ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาผู้บริโภค หลังประสบปัญหารถเสียไร้อะไหล่ซ่อม ศูนย์บริการปิดตัวหรือปฏิเสธเคลม จดทะเบียนป้ายขาวไม่ได้ นั้น
ล่าสุด อิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 สภาผู้บริโภคได้รับหนังสือจาก บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด และบริษัทดีลเลอร์ 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท อีวี ฟาสต์ จำกัด และบริษัท อีวี เพเซอร์ ชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้รถยนต์
เนต้า ยัน รีสต็อกอะไหล่ครบ ใน ก.ค. พร้อมยืดประกัน
หนังสือชี้แจงจาก บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ระบุว่า บริษัทฯ ได้รับทราบถึงข้อร้องเรียนของผู้บริโภคที่ได้รับความไม่สะดวกจากการซื้อรถยนต์และการใช้บริการหลังการขาย อันเกิดจากปัญหาหลายประการ ได้แก่ ความล่าช้าในการจัดหาอะไหล่ ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคบางรายไม่สามารถใช้งานรถยนต์ได้ในช่วงระหว่างการซ่อมแซม และได้กำหนดแนวทางการดูแลผู้บริโภคในปัญหาเรื่องอะไหล่ช้า แบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ
1. ปัญหาการเคลมตามสัญญารับประกันคุณภาพสินค้า (วารันตี) 5 หรือ 150,0000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน เนื่องจากบริษัท เนต้า สำนักงานใหญ่ (ประเทศจีน) ประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินส่งผลทำให้ไม่สามารถจัดหาและส่งมอบอะไหล่ตามที่บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัดสั่งอะไหล่ได้อย่างครบถ้วน โดยอะไหล่หลักที่เป็นปัญหาของการแจ้งเคลมงานรับประกันคุณภาพคือ ชุดชาร์จแบตเตอรี(CDU)
ปัจจุบันคงค้างอะไหล่ในระบบประกันคุณภาพซึ่งแจ้งเคลมโดยผู้จำหน่ายที่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจำนวน 74 รายการ ปัจจุบันบริษัท เนต้า ออโต(ไทยแลนด์) ได้รับมอบอะไหล่ CDU และพร้อมกระจายสู่ผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ (ดีลเลอร์) ได้ทันทีจำนวน 32 รายการ โดยจะส่งมอบอะไหล่ดังกล่าวตามลำดับการแจ้งเคลมวารันตี ส่วนที่คงค้างอีก 42 รายการ จะสามารถส่งมอบได้ครบถ้วนภายในเดือนกรกฎาคม 2568
ส่วนในอนาคตบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) มีแผนการสั่งนำเข้าอะไหล่ CDU อย่างน้อย 50 รายการทุกเดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแนวโน้มความต้องการในการเคลมอะไหล่
2. ปัญหาการเคลมจากอุบัติเหตุตามสัญญาประกันภัย มีอะไหล่เพียงพอสำหรับเคลมประกันภัยที่ใช้บริการกับดีลเลอร์หรือผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ สำหรับแนวทางการดูแลผู้บริโภคเพิ่มเติมนั้น บริษัทฯ จะเพิ่มระยะเวลารับประกับคุณภาพสินค้า (วารันตี) กับผู้บริโภค ใน 2 กรณี คือ
1. กรณีศูนย์รถหรือผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการซ่อมไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2-4 เดือน บริษัทฯ จะเพิ่มระยะเวลาตามสัญญารับประกับคุณภาพสินค้า (วารันตี) ให้อีก 4 เดือน หรือ 7,000 กิโลเมตร จากเดิมรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน รวมเป็นระยะเวลารับประกันเป็น 5 ปี 4 เดือน หรือ 157,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน และให้บริการบำรุงรักษา (เช็กระยะ) ฟรี 1 ครั้ง ภายใต้เงื่อนไขเช็กระยะทุก 1 ปี หรือ 10,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
2. กรณีศูนย์รถหรือผู้จำหน่ายที่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการซ่อมไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 5-7 เดือน บริษัทฯ จะเพิ่มระยะเวลาตามสัญญารับประกันคุณภาพสินค้า (วารันตี) อีก 6 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร คือเพิ่มระยะเวลารับประกัน เป็น 5 ปี 6 เดือน หรือ 160,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน และให้บริการบำรุงรักษา (เช็กระยะ) ฟรี 2 ครั้ง ภายใต้เขื่อนไขเช็กระยะทุก 1 ปี หรือ 10,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
ส่วนปัญหาประเด็นอื่นๆ ได้แก่ กรณีผู้บริโภคไม่ได้รับเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟพักสำหรับติดตั้งที่บ้าน หรือวอลล์บ็อกซ์ (Wall Box) พร้อม ฟรีค่าบริการติดตั้งนั้น บริษัทฯ ยืนยันว่าได้ส่งมอบและติดตั้งวอลล์บ็อกซ์ครบถ้วนตามจำนวนที่ผู้หน่ายที่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแจ้งแล้ว ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้บริโภคที่ยังไม่ได้รับการติดตั้งวอลล์บ็อกซ์ สามารถติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัทฯ โดยตรงที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 023 9968 ตลอดเวลา
ดีลเลอร์รับ มอบป้ายขาว ไม่เกิน 15 ก.ค.
ขณะที่เนื้อหาในหนังสือชี้แจงจากบริษัท อีวี ฟาสต์ จำกัด และบริษัท อีวี เพเซอร์ จำกัด ระบุถึงเรื่องการจดทะเบียนป้ายขาว และการคืนมัดจำป้ายแดงของทั้งสองบริษัทว่า จากสถานการณ์การเงินของบริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีเงินคงค้างกับบริษัท อีวี ฟาสต์ จำกัด และบริษัท อีวี เพเซอร์ จำกัดและทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบในการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเนต้า
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทฯ จำหน่ายรถยนต์และจดทะเบียนแล้วประมาณ 5,000 คัน และในเดือนมิถุนายน 2568 มีการจดทะเบียนและส่งมอบทะเบียนรถยนต์ที่ค้างให้แก่ลูกค้าอีกประมาณ 300 คัน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือนมิถุนายน 2568 ตกหล่นล่าช้าที่สุดไม่เกิน 15 กรกฎาคม 2568
ส่วนประเด็นเรื่องการคืนเงินมัดจำป้ายแดง บริษัท อีวี ฟาสต์ จำกัด และบริษัท อีวี เพเซอร์ จำกัด มีกำหนดการคืนเงินมัดจำป้ายแดงให้แก่ลูกค้าเก่าคงค้างทั้งหมดภายในเดือนมิถุนายน และในส่วนของลูกค้ารายใหม่มีกำหนดการคืนภายใน 14 วันทำการ หลังจากลูกค้านำส่งป้ายแดงและคู่มือคืนให้แก่บริษัทฯ
เร่ง เนต้า – ดีลเลอร์ แก้ปัญหาผู้บริโภค

อิฐบูรณ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ข้อมูลวันที่ 13 มิถุนายน 2568 มีผู้เสียหายจากการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเนต้าร้องเรียนเข้ามาที่สภาผู้บริโภคจำนวนทั้งสิ้น 167 รายโดยมีผู้ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาจำนวน 151 ราย แบ่งลักษณะปัญหาได้ 2 กรณี คือ
1) กรณีซื้อรถยนต์เนต้าแต่ไม่ได้รับการยื่นจดทำเบียนป้ายขาวและไม่ได้รับเงินมัดจำป้ายแดงคืน จำนวน 64 ราย ซึ่งในจำนวนนี้แยกย่อยได้เป็น กลุ่มผู้ซื้อรถที่ยังไม่ได้รับทะเบียนป้ายขาว จำนวน 56 ราย และกลุ่มที่ได้รับป้ายขาวคืนป้ายแดงแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงินมัดจำคืน จำนวน 8 ราย
2) กลุ่มผู้ซื้อรถที่ประสบปัญหาบริการหลังการขาย รถชำรุดบกพร่อง นำเข้าศูนย์ต้องใช้เวลาในการรออะไหล่นานโดยไม่สามารถระบุช่วงเวลาได้ชัดเจน จำนวนทั้งสิ้น 87 ราย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้ โดยปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าเนต้า มียอดจำหน่ายในประเทศไทยรวมทั้งหมด 26,934 คัน
ทั้งนี้ สภาผู้บริโภคจะส่งข้อมูลของผู้เสียหายให้กับบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด และบริษัทดีลเลอร์ 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท อีวี ฟาสต์ จำกัด และบริษัท อีวี เพเซอร์ เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้บริโภคต่อไปอิฐบูรณ์ กล่าวอีกว่า จากคำชี้แจงของเนต้าที่ยอมรับว่าอะไหล่หลักที่เป็นปัญหาของการแจ้งเคลมงานรับประกันคุณภาพคือ ชุดชาร์จแบตเตอรี (CDU) จนต้องมีแผนการสั่งนำเข้าอะไหล่ CDU อย่างน้อย 50 รายการทุกเดือนนั้น แสดงให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้าเนต้ามีปัญหาในความชำรุดบกพร่องทั้งที่อยู่ในระยะประกันจริง
แม้บริษัทฯ จะแสดงความรับผิดชอบโดยการขยายเวลารับประกันเพิ่มเติม ก็ปัจจุบันก็ยังไม่มีความชัดเจนในสถานะการเงินของบริษัทฯ ทำให้ไม่มีความแน่นอนว่าปัญหาของผู้บริโภคจะได้รับการแก้ไขภายในช่วงเวลาที่กำหนดหรือไม่ ทั้งนี้สภาผู้บริโภคมองว่ามาตรการดังกล่าวเป็นไปในลักษณะของการซื้อเวลา ไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภค
“การปล่อยให้ผู้บริโภคต้องรอการซ่อมนานตั้งแต่ 2 – 7 เดือนย่อมทำให้ผู้บริโภคขาดโอกาสในการใช้รถยนต์และหากมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยการหารถอื่นมาใช้แทนประมาณวันละ 1,000 บาทก็จะมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อรายแล้ว จึงเห็นว่าบริษัทควรเร่งแผนดำเนินการซ่อมรถที่แจ้งเคลมให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ และควรพิจารณาเยียวยาค่าขาดประโยชน์ในการใช้รถที่เป็นตัวเงินด้วย” อิฐบูรณ์กล่าว
รักษาการเลขาธิการสภาผู้บริโภค ย้ำว่า หากไร้คำแถลงที่ชัดเจนจากเนต้าเพิ่มเติม ภายในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ สภาผู้บริโภคจะดำเนินการฟ้องคดีแบบกลุ่ม เพื่อให้ผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายและยังไม่ได้การแก้ไขเยียวยาความเสียหายที่เหมาะสมต่อไป
สำหรับกรณีปัญหาป้ายขาวสภาผู้บริโภคจะเร่งติดตามบริษัท อีวี ฟาสต์ จำกัด และบริษัท อีวี เพเซอร์ จำกัดต่อไป ซึ่งอาจมีการเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมในกรณีที่ผู้บริโภคถูกเรียกค่าปรับจากการใช้ป้ายแดงและค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถหลังเวลาห้ามใช้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สคบ. ประสานเสียงสภาผู้บริโภค คลี่ปมรถยนต์ไฟฟ้า ‘เนต้า’
ผู้ใช้รถไฟฟ้า “เนต้า” ร้องสภาผู้บริโภค เหตุไม่ได้ป้ายขาว – อะไหล่ขาด – ศูนย์ปิด