Getting your Trinity Audio player ready... |

บอร์ด PDP 2025 มีแต่รายชื่อข้าราชการ หน่วยงานรัฐ ตัวแทนภาคเอกชน และนักวิชาการ ทำให้เกิดคำถามว่า ผู้บริโภคทั่วประเทศจะต้องเป็นผู้แบกภาระค่าพลังงานที่เป็นผลพวงของการตัดสินใจของบอร์ดนี้ใช่หรือไม่ แต่ทำไมจึงไม่มีสัดส่วนภาคประชาชนแม้แต่ชื่อเดียว
สภาผู้บริโภคชวนจับตาการจัดแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ หรือแผน PDP 2025 (Power Development Plan 2025) ถือเป็น “เข็มทิศพลังงาน” ของไทยที่จะกำหนดอนาคตเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยตรง ทั้งค่าไฟฟ้า และการใช้พลังงานสะอาด ไปเป็นระยะเวลา 15-20 ปี ขณะนี้อยู่ในมือบอร์ดชุดใหม่ที่แต่งตั้งโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่มีข้อกังขาเรื่องความโปร่งใส ความหลากหลาย และการมีส่วนร่วมของประชาชน
แผน PDP 2025 ไม่เพียงสะท้อนโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า แต่ยังเป็นตัวกำหนดต้นทุนค่าไฟ ความสามารถในการแข่งขัน และการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดของประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ในมือบอร์ดชุดใหม่ที่แต่งตั้งโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่แล้ว เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 แต่รายชื่อบอร์ดมีแต่ข้าราชการ อดีตข้าราชการ ผู้แทนภาคเอกชน และนักวิชาการ แต่ขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน แม้ในความจริง ผู้บริโภคทั่วประเทศคือผู้แบกภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานส่วนใหญ่ของประเทศ
สภาผู้บริโภคจึงยื่นหนังสือเรียกร้องต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในรัฐบาลชุดใหม่ เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อให้ทบทวนโครงสร้างบอร์ด PDP ที่ยังขาดตัวแทนจากผู้บริโภค ซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้า ทั้งที่กลุ่มนี้คือผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงที่สุด
แผน PDP 2025 ชี้อนาคตผู้บริโภค
แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า หรือ PDP ถือว่ามีความสำคัญในการกำหนดอนาคตของประเทศ ซึ่งแต่ละฉบับมีผลผูกพันยาวนาน 15 – 20 ปี การตัดสินใจจัดทำแผนในวันนี้ จึงสะท้อนถึงค่าไฟที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงความมั่นคงทางพลังงาน และความสามารถของไทยในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมื่อโลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้
หากการจัดทำแผน PDP 2025 เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมจริง เราคาดหวังผลลัพธ์ที่จะเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวได้ว่า “ผู้ใช้ไฟฟ้า” จะเปลี่ยนจากผู้แบกรับภาระ มาเป็นผู้กำหนดอนาคตพลังงานร่วมกับรัฐ ทั้งในด้าน
- ค่าไฟที่เป็นธรรมขึ้น จากการตรวจสอบต้นทุนและสัญญาโรงไฟฟ้า จะลดการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุน
- พลังงานสะอาดเข้าถึงได้ การมีส่วนร่วมของประชาชนจะช่วยผลักดันให้แผน PDP หันไปลงทุนกับพลังงานแสงอาทิตย์ ลม และระบบกักเก็บพลังงาน มากกว่าฟอสซิล
- ประชาชนเป็นโปรซูเมอร์ ประชาชนเปลี่ยนจากผู้ใช้ไฟฟ้า เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าใช้เอง เช่น โซลาร์รูฟท็อป ซึ่งช่วยลดค่าไฟฟ้าในครัวเรือนและเพิ่มอำนาจต่อรองกับบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้า
- ความมั่นคงระยะยาว เมื่อโครงสร้างพลังงานกระจายในแหล่งพลังงานที่หลากหลาย ไม่ผูกติดกับเชื้อเพลิงชนิดเดียว ไทยจะสามารถรับมือกับวิกฤตที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ดีกว่า
บทเรียนจากอดีตสู่อนาคต
แผน PDP ฉบับที่ผ่านมา ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ที่เกิดจากการจัดทำโดยคนไม่กี่กลุ่ม กลับสร้างผูกพันระยะยาว ที่ส่งผลกระทบต่อคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้บริโภค ซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าจนถึงทุกวันนี้ ตลอดจนสร้างผลกระทบในภาพรวมของประเทศ ในด้านต่าง ๆ เช่น
- ด้านเศรษฐกิจ การพึ่งพาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่มีราคาสูง ทำให้ต้นทุนค่าผลิตไฟฟ้าแพงขึ้น จนไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันดึงดูดการลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้พลังงานสูง เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ อุตสาหกรรมสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่
- ด้านสิ่งแวดล้อม โลกกำลังก้าวสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) แต่การเลือกพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลต่อไป จะทำให้ไทย “ตกขบวน” การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดที่มีต้นทุนถูกกว่าพลังงานฟอสซิล และทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้
- ด้านสังคม ผลพวงจากค่าไฟฟ้าที่สูงส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกครัวเรือน ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของไทยอยู่ที่ 15% ของค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ขณะที่ประเทศอื่นอยู่ที่ 8% สะท้อนถึงภาระและหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นและความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงพลังงานสะอาดที่ไม่เท่าเทียม จากการที่ประชาชนไม่ได้รับการสนับสนุนติดตั้งโซลาร์ภาคประชาชน
จากบทเรียนที่ผ่านมาแผน PDP 2025 จึงไม่ใช่เพียง “แผนเทคนิค” ของกระทรวงพลังงาน แต่คือ “สัญญาสังคม” ที่จะชี้ชะตาผู้บริโภคทั้งประเทศในอนาคต การจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ จึงสำคัญมากที่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายจะเข้าไปมีส่วนร่วม เพื่อให้แผนพลังงานของชาติมีความเป็นธรรมและโปร่งใส
เริ่มตั้งบอร์ดทำแผนก็ไม่โปร่งใส
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่เริ่มจัดตั้งคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทําแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ 2025 (บอร์ด PDP 2025) กลับมีเสียงวิจารณ์ถึงความไม่โปร่งใส โดยเฉพาะสัดส่วนที่มาของคณะกรรมการที่ไม่ครอบคลุมและไม่มีความหลากหลาย ที่สำคัญไม่มีสัดส่วนตัวแทนผู้บริโภคเข้าไปร่วมเป็นคณะกรรมการ ซึ่งสภาผู้บริโภค เห็นว่าโครงสร้างของคณะกรรมการชุดนี้ มีข้อกังวลหลายประการ
- องค์ประกอบไม่หลากหลาย มีแต่ข้าราชการและอดีตข้าราชการระดับสูง ขาดตัวแทนผู้บริโภค ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
- ผลประโยชน์ทับซ้อน ประธานบอร์ดเคยเป็นกรรมการบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ ทำให้ถูกตั้งคำถามว่า การตัดสินใจเรื่องการเปลี่ยนผ่านพลังงานจะมีความเป็นกลางเพียงใด
- ขาดกระบวนการมีส่วนร่วม แม้จะมีข้อกำหนดให้สามารถเชิญหน่วยงานมาให้ข้อมูล แต่ไม่ใช่การเปิดพื้นที่อย่างแท้จริงให้ประชาชนร่วมกำหนดอนาคต
นี่จึงอาจสะท้อนว่า PDP 2025 อาจซ้ำรอยเดิม คือถูกขับเคลื่อนโดยกลุ่มทุนและหน่วยงานราชการ ขณะที่ประชาชนซึ่งเป็นผู้จ่ายค่าไฟกลับถูกกันออกจากโต๊ะเจรจา
โมเดลคณะกรรมการที่ประชาชนคาดหวัง
สภาผู้บริโภคได้ยื่นข้อเสนอหลักการออกแบบบอร์ด PDP ต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช.ชุดใหม่ ภายใต้รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยควรยึด 4 หลักการที่สำคัญ ดังนี้
- ความเชี่ยวชาญหลากหลาย ไม่จำกัดเฉพาะวิศวกรพลังงาน แต่ต้องรวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อม และผู้แทนภาคประชาสังคม
- อิสระและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อป้องกันการบิดเบือนการตัดสินใจ
- โปร่งใสและตรวจสอบได้ เปิดเผยข้อมูลการประชุมทุกครั้ง และรับฟังความเห็นทุกภูมิภาค
- การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม และผู้บริโภค
รวมถึงควรมี คณะอนุกรรมการเฉพาะด้าน เช่น เทคโนโลยีและความมั่นคง, เศรษฐศาสตร์และการเงิน, การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้การวิเคราะห์รอบด้าน
แผน PDP 2025 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปพลังงานไทยในอนาคต จึงสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดให้ประชาชนและมีผู้ส่วนได้เสียมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เพื่อ ลดอำนาจผูกขาดของกลุ่มทุน และเปิดให้ผู้ผลิตรายเล็กและชุมชนเข้ามามีบทบาทมากขึ้น รวมทั้งต้องปรับปรุงกฎหมายพลังงาน โดยเฉพาะพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 (พ.ร.บ.กกพ.) เพื่อสร้างองค์กรกำกับที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดแผนพลังงานของชาติ ที่จะชี้ชะตาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของคนไทยทุกคน
โครงสร้างคณะกรรมการจัดทำแผน PDP 2025
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานกรรมการ
คณะกรรมการ คนอื่นๆ ประกอบด้วย
- เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
- เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
- เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
- ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
- รองศาสตราจารย์ ขวัญชัย ลีเผ่าพันธ์
- รองศาสตราจารย์ อนุสรณ์ ธรรมใจ
- รองศาสตราจารย์ แนบบุญ หุนเจริญ
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปิติ เอี่ยมจำรูญลาภ
- นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน
- นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม
- นายวิภู พิวัฒน์ รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า กฟผ.
- นายอธิปัตย์ บํารุง อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน
- นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน
- นางสาวอารีพร อัศวินพงศ์พันธ์ นักวิชาการจากทีดีอาร์ไอ
- นายพงษ์ดิฐ พจนา อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
- นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)
- ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนพลังาน เป็นกรรมการและเลขานุการ
- ผู้อำนวยการกองนโยบายไฟฟ้า สํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
- นายศุภกร คงสมจิตต์ คณะทำงานรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จี้ กพช.ชุดใหม่ทบทวน บอร์ด PDP
กพช. ตั้ง “สุเทพ” นั่งประธานคณะกรรมการจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ ชูบทบาท กฟผ. รักษาความมั่นคงไฟฟ้า