
ใครจะคิดว่าของกินเล่นที่สั่งจากแอปจะกลายเป็นเหตุการณ์สุดช็อก เมื่อผู้บริโภครายหนึ่งเปิดถุงหนังไก่ทอด แล้วพบ จิ้งจกทอด มาเป็นตัว ๆ แทนที่จะปล่อยผ่าน เขากลับเลือกลุกขึ้นใช้สิทธิ จนได้รับการเยียวยา
“ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอ จิ้งจกทอด ในขนมที่เรากิน” คือคำพูดของผู้บริโภครายหนึ่ง ที่เจอกับประสบการณ์ไม่คาดฝันจากการสั่งซื้อหนังไก่ทอดกรอบทางแอปพลิเคชันออนไลน์
เรื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อปลายเดือนเมษายน 68 ผู้บริโภครายนี้สั่งซื้อ หนังไก่ทอดกรอบ จากร้านค้าแห่งหนึ่งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์จำนวน 3 ห่อ ราคา 195 บาท รวมค่าส่งสินค้า เมื่อของมาถึง ทุกอย่างภายนอกดูปกติดี
ซองแรก…ไม่มีอะไร
ซองที่สอง…ก็ยังกรอบอร่อยเหมือนเดิม
แต่พอเปิดซองที่สาม ทุกอย่างกลับกลายเป็นฝันร้าย เพราะในถุงหนังไก่ทอดนั้น มี “จิ้งจกทอด ที่เคลือบด้วยผงวิงแซ่บ” อยู่หนึ่งตัว
“เราตกใจมากเนื่องจากถุงหนังไก่ทอดมีการปิดมิดชิด แต่กลับมีจิ้งจกปนอยู่ในนั้นด้วย มีลักษณะของการทอดเกือบไหม้เกรียมและมีผงวิงแซ่บติดอยู่” เธอเล่าด้วยความตกใจและไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เมื่อตั้งสติได้ เธอรีบติดต่อร้านทันที ทางร้านขอให้ส่งสินค้าคืนเพื่อตรวจสอบ เธอจึงได้คืนสินค้าให้ตรวจสอบ และต่อมาผู้บริโภคได้รับเงินคืนจำนวน 237 บาท แต่ความรู้สึกไม่ปลอดภัย ที่ได้รับจากการบริโภคอาหารยังคงอยู่ จึงตัดสินใจร้องเรียนมายังสภาผู้บริโภค
หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน เจ้าหน้าที่ได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้บริโภค และติดต่อไปยังผู้ประกอบการเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ด้านผู้ประกอบการได้ชี้แจงและรับปากที่จะนำสินค้าดังกล่าวไปตรวจ ทั้งนี้ ตัวผู้บริโภคเองได้ดำเนินการลงบันทึกประจำวันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมด้วย เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเล็กที่ควรปล่อยผ่าน
เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนจากผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่จึงส่งหนังสือถึงผู้ประกอบการ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานสาธารณะสุข เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อร้องเรียนเนื่องจากล่วงเลยเวลามานาน
ในที่สุดระยะเวลากว่า 3 เดือน ที่ผู้บริโภครอรับการเยียวยา โดยสภาผู้บริโภคได้จัดการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออนไลน์ ระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ผลสรุปคือ ผู้ประกอบการยอมชดเชยเยียวยาความเสียหายทางจิตใจ จำนวน 10,000 บาท และผู้บริโภคได้ถอนแจ้งความหลังได้รับเงินในวันเดียวกัน
บทเรียนนี้ เป็นการใช้สิทธิของผู้บริโภค ไม่ได้แค่เพื่อ “เรียกร้องการเยียวยา” แต่ยังช่วยให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงความปลอดภัยของอาหารที่ต้องผลิต และป้องกันไม่ให้คนอื่นต้องเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก เพราะนอกจากได้รับอาหารไม่ปลอดภัยแล้ว จิ้งจกในอาหารเป็นฝันร้ายสำหรับใครหลาย ๆ คน
การที่ผู้ประกอบการผลิตอาหารที่ไม่ปลอดภัย ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ. 2522 และต้องรับโทษตามมาตรา 58 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่ถึง 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ที่สำคัญหากไม่สามารถตกลงกันได้ ผู้บริโภคสามารถใช้กระบวนการฟ้องร้องต่อศาลโดยใช้กฎหมายช่วยฟ้องหรือ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 ในการดำเนินการฟ้องได้
ทั้งนี้ หากผู้บริโภคได้รับความเสียหาย พบเจออาหารไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น สินค้าหมดอายุ สินค้ามีรสชาติแปลกไป สิ่งแปลกปลอมในอาหารหรือได้รับความเสียหายจากอาหารที่บริโภคเข้าไป เบื้องต้นให้ผู้บริโภครวบรวมหลักฐานตัวจริงต้นฉบับเก็บไว้กับตนเองเพื่อเป็นหลักฐาน และโทรแจ้งศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ โดยแจ้งความต้องการที่จะให้บริษัทดำเนินการ เช่น ขอให้แก้ไขปัญหา ขอคืนสินค้า ขอเงินคืน หรือขอให้ชดเชยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่หากไม่ได้รับการชดเชยเยียวจากผู้ประกอบการหรือบริษัท ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนมายังสภาผู้บริโภค ผ่านช่องทางออนไลน์ https://www.tcc.or.th/ หรือโทร 1502 ในวันเวลาทำการ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 17.00 น.
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง


