เสนอวาระแห่งชาติ ’67
“รถรับส่งนักเรียนต้องปลอดภัย”

สภาผู้บริโภค หารือ รมว.ศึกษาฯ ดันระบบจัดการรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย เสนอบรรจุแผนงานจัดการรถรับส่งนักเรียนให้เป็นหนึ่งในภารกิจหลัก เป็น “วาระแห่งชาติ” ของกระทรวงศึกษาธิการและทุกโรงเรียนหรือสถานศึกษา

จากสถานการณ์ความรุนแรงของอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียนในรอบหลายปีที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิทธิขั้นพื้นฐานด้านความปลอดภัยในการเดินทางไปโรงเรียนของเด็กและเยาวชน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 คณะรัฐมนตรีมีมติให้กำหนดมาตรการเพื่อยกระดับความปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียนนั้น

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 สภาผู้บริโภค ได้หารือร่วมกับ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อสร้างความร่วมมือการคุ้มครองผู้บริโภคในประเด็นการผลักดันให้มีระบบการจัดการรถรับส่งนักเรียน นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค ระบุว่า เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและทำให้รถรับส่งนักเรียนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สภาผู้บริโภคจึงเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ บรรจุแผนงานจัดการรถรับส่งนักเรียนให้เป็นหนึ่งในภารกิจหลัก และกำหนดให้ความปลอดภัยของนักเรียนในการเดินทางด้วยรถรับส่งนักเรียนเป็นวาระของกระทรวงศึกษาธิการและของทุกโรงเรียนหรือสถานศึกษา ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์และแผนงานเรื่องความปลอดภัยการเดินทางของนักเรียน

โดยการกำหนดให้โรงเรียนเป็นจุดจัดการงานรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย มีหน้าที่หลักในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการ บรรจุแผนงานจัดการรถรับส่งนักเรียนเป็นวาระหลักและเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของโรงเรียนหรือสถานศึกษา มีการประเมินและติดตามผล เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องด้านนโยบาย เพิ่มมาตรการกำกับกรณีโรงเรียนหรือสถานศึกษาละเลยหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบฯ อันนำมาซึ่งความไม่ปลอดภัยในการเดินทางของนักเรียน รวมถึงขอให้สนับสนุนการพัฒนาโรงเรียนศูนย์การเรียนรู้การจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย โดยเปิดให้มีการมีส่วนร่วมจากสภาผู้บริโภค กรมการขนส่งทางบก และโรงเรียนหรือสถานศึกษาในพื้นที่เป้าหมาย 20 โรงเรียน

นอกจากนี้ สภาผู้บริโภคยังได้เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการพัฒนาหลักสูตร ชุดความรู้ แนวทางการจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย โดยนำนโยบายระบบการจัดการรถรับส่งนักเรียนขั้นพื้นฐาน 9 ด้านจากการทำงานของเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคร่วมเป็นองค์ประกอบและแนวทางปฏิบัติให้กับโรงเรียนหรือสถานศึกษา บุคคลากรเขตพื้นที่การศึกษา ครู อาจารย์ นักเรียน ผู้ขับรถรับส่งนักเรียน พ่อแม่ผู้ปกครอง และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีองค์ความรู้ หลักวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องในการจัดการความปลอดภัยในการเดินทางของนักเรียนด้วยรถรับส่งนักเรียน  

ทั้งนี้ การผลักดันนโยบายด้านการขนส่งและยานพาหนะเป็นหนึ่งในนโยบาย 8 ด้านที่สภาผู้บริโภคกำลังผลักดันในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันให้ราคาค่าโดยสารสาธารณะมีอัตราไม่เกินร้อยละ 10 ของค่าแรงขั้นต่ำต่อวันหรือการเดินออกจากที่พักเพียง 500 เมตรและพบกับบริการขนส่งสาธารณะ ความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนหรือโครงการสาธารณะต่าง ๆ รวมไปถึงการผลักดันประเด็นความปลอดภัยในการเดินทางด้วยรถรับส่งนักเรียนของเด็กนักเรียนที่ขณะนี้สถานการณ์อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถรับส่งนักเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันสภาผู้บริโภคและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ดำเนินงานภายใต้โครงการแผนงานร่วมทุนสนับสนุนองค์กรผู้บริโภคเพื่อการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นธรรม กำหนดเป้าหมายพัฒนา ‘ต้นแบบโรงเรียนศูนย์เรียนรู้การจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย’ ในโรงเรียน 20 แห่งทั่วประเทศ เพื่อทำให้เกิดมาตรฐานการจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนให้มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ พร้อมสำหรับการเดินทางของนักเรียนทุกคน และสามารถเป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อขยายผลการจัดการรถรับส่งนักเรียนปลอดภัยให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ

ด้าน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เด็กนักเรียนที่เดินทางไปโรงเรียนโดยรถรับส่งนักเรียนจะต้องได้รับความปลอดภัย ซึ่งข้อเสนอที่สภาผู้บริโภคเสนอเข้ามานั้นมีความยินดีที่จะนำไปปรับใช้และพร้อมที่จะทำงานคุ้มครองผู้บริโภคร่วมกัน ทั้งนี้ เห็นด้วยในประเด็นการลงทะเบียนรถรับส่งนักเรียน ซึ่งคนขับรถบางส่วนขึ้นตรงกับโรงเรียนด้วย จึงเป็นสิ่งที่ควรจะสนับสนุนและทำให้รถรับส่งนักเรียนถูกกฎหมายมากยิ่งขึ้นและจะทำให้โรงเรียนและชุมชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเพื่อให้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัยได้

ทั้งนี้ ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ที่จะถึงนี้ สภาผู้บริโภคจะจัดเวทีสร้างความร่วมมือ หัวข้อ สานพลัง ขับเคลื่อน โรงเรียนศูนย์เรียนรู้เพื่อรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย ตั้งแต่เวลา 09.00 – 15.30 น. ที่ห้องประชุมลาเวนเดอร์  1 – 2 ชั้น 3 อาคาร ทีเค. 3 โรงแรม ทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างความเข้าใจ แนวคิด และแนวทางขับเคลื่อนโรงเรียนศูนย์เรียนรู้การจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัยให้กับกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์การจัดการรถรับส่งนักเรียนที่ปลอดภัยระหว่างโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผลักดันข้อเสนอนโยบายและมาตรการที่จะนำไปสู่การพัฒนาการจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัยโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน


*มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ได้กำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียน โดยให้กระทรวงมหาดไทยกำหนดให้เรื่องนี้เป็นอีกประเด็นหนึ่งของนโยบายระดับชาติ กำหนดให้มีแผนยุทธศาสตร์ หรือคณะทำงานด้านความปลอดภัยรถรับส่งนักเรียนในทุกจังหวัด ให้กระทรวงศึกษามอบหมายให้โรงเรียนจัดทำระบบฐานข้อมูล รถรับส่งนักเรียน กำหนดยุทธศาสตร์และแผนงานเรื่องความปลอดภัยการเดินทางของนักเรียน และจัดทำทะเบียนข้อมูลรถรับส่งนักเรียนแต่ละคัน (อ้างอิงข่าว : https://www.thairath.co.th/news/politic/2738846)

#ผู้บริโภค #สภาผู้บริโภค #สภาองค์กรของผู้บริโภค