
ความคืบหน้าคดีฟ้องกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า เนต้า (NETA) ยังไม่มาชี้แจงที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ กำหนดวันพิจารณาอีกครั้ง 15 ธ.ค. ผู้บริโภคสุดผิดหวังบริษัทไม่ชี้แจง ทางด้านสภาผู้บริโภคเสนอภาครัฐเข้ามากำกับดูแลฐานะผู้สนับสนุนโครงการภาษี
สืบเนื่องจากการที่สภาผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภคที่ใช้งานรถยนต์เนต้าและประสบปัญหาเรื่องอะไหล่และการซ่อมแซม ทำให้สภาผู้บริโภคและผู้บริโภคได้ดำเนินการฟ้องร้องคดีแบบกลุ่ม และยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุดวันที่ 10 พ.ย. ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้ดำเนินการพิจารณาไต่สวนเป็นครั้งแรก แต่บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ในฐานะผู้นำเข้ารถยนต์ยี่ห้อเนต้า ยังไม่เข้ามาชี้แจง และบริษัท บางชันเยนเนอรัลเอเซมบลี จำกัด ในฐานะผู้ประกอบและจำหน่ายรถยนต์ดังกล่าวในประเทศ ได้ขอให้เลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน
ว่าที่ร้อยตรีสมชาย อามีน ทนายความผู้รับผิดชอบคดี เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 พ.ย. 2568 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้เริ่มพิจารณาคดีที่สภาผู้บริโภคและผู้บริโภคยื่นฟ้องร้องคดีแบบกลุ่มกับ บริษัท เนต้า เพื่อคุ้มครองสิทธิและเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการซื้อรถยนต์เนต้า แต่พบว่า บริษัท เนต้า ซึ่งเป็นจำเลยหลักไม่มาศาลและไม่ส่งตัวแทน ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีและสะท้อนถึงการไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา
สำหรับการเดินหน้าฟ้องร้องคดีในแบบกลุ่มครั้งนี้ เพื่อร่วมคุ้มครองสิทธิและเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อรถยนต์เนต้า โดยมีเหตุผลหลัก 3 ประการ ได้แก่ ความชำรุดบกพร่องของเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้าในรถยนต์ ส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยและไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ประการต่อมาการขาดแคลนอะไหล่และการบริการหลังการขายที่ไม่เพียงพอ ทำให้ผู้บริโภคต้องจอดรถไว้โดยไม่สามารถซ่อมแซมได้เป็นเวลานาน และการโฆษณาและจำหน่ายโดยไม่เปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคุณภาพสินค้า ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้บริโภคทั้งทางเศรษฐกิจและจิตใจ
ว่าที่ร้อยตรีสมชาย กล่าวต่อว่า การฟ้องร้องในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคและบริษัทเอกชนเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลได้ส่งเสริมการลงทุนในโครงการรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ของประเทศไทย โดยให้เงินอุดหนุนภาษีแก่ผู้ประกอบการรถยนต์ไฟฟ้า ถึงคันละ 100,000 บาท เพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์อีวีในประเทศ โดยจากข้อมูลปัจจุบันมีรถยนต์เนต้า จดทะเบียนแล้วกว่า 20,000 คัน จึงควรมีการตรวจสอบในเรื่องนี้และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่ภาครัฐต้องจ่ายเงินอุดหนุนในเรื่องภาษีที่เกี่ยวข้องกับประชาชนทุกคน
ทั้งนี้ ในวันที่ 15 ธันวาคม 2568 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ จะมีขั้นตอนพิจารณาว่าจะรับคดีนี้เป็น “คดีแบบกลุ่ม” หรือไม่ โดยหากศาลมีคำสั่งเป็นคดีกลุ่ม ผลของคำพิพากษาจะครอบคลุมผู้บริโภคทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากรถยนต์เนต้า แม้จะไม่ได้เข้าร่วมฟ้องตั้งแต่ต้น
ตัวแทนผู้เสียหายที่เลือกซื้อรถยนต์เนต้า กล่าวว่า มีความรู้สึกที่ค่อนข้างผิดหวังที่เนต้า ไม่ได้มาเจรจาที่ศาลแพ่งกรุงเทพในครั้งนี้ เนื่องจากการใช้งานรถยนต์ล่าสุดแล้วเกิดปัญหา จึงไม่สามารถติดต่อศูนย์บริการมาซ่อมแซมได้ จึงต้องดำเนินการซ่อมแซมเองและเป็นผลกระทบของผู้บริโภค จึงอยากให้เนต้าเข้ามาร่วมเจรจาและไกล่เกลี่ยในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการของสภาผู้บริโภค ที่ได้ดำเนินการคดีผู้บริโภคเรื่อง รถยนต์ไฟฟ้าเนต้า มาจากตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2568 ที่กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเนต้า ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาผู้บริโภค หลังประสบปัญหารถเสียไม่มีอะไหล่ซ่อม ศูนย์บริการปิดตัวหรือปฏิเสธเคลม จดทะเบียนป้ายขาวไม่ได้ โดยบริษัทยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้บริโภคอย่างทันท่วงที และยังมีกรณีที่บริษัทแม่ของเนต้า ที่ประเทศจีน ประสบปัญหาในเรื่องการเงินและการล้มละลาย จึงประสบปัญหาในเรื่องอะไหล่ของสินค้าที่ส่งมอบให้แก่ลูกค้ามีความล่าช้า ดังนั้นผู้บริโภคบางส่วนที่ซื้อรถยนต์ไปแล้วจึงไม่สามารถใช้งานได้และบางส่วนที่ซื้อรถยนต์ผ่านบริษัทเช่าซื้อ (ลีสซิ่ง) ที่ต้องผ่อนชำระค่ารถยนต์ต่อไป ทั้งที่รถมีปัญหาในการใช้งาน
สำหรับผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากรถยนต์ไฟฟ้าเนต้า สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของสภาผู้บริโภค https://complaint.tcc.or.th/complaint หรือ ได้ที่ สายด่วนผู้บริโภค 1502
ข่าวที่เกี่ยวข้อง



