
“ติดตั้งเน็ตบ้าน อย่าชะล่าใจ” สภาผู้บริโภคเตือนประชาชนตรวจสอบให้รอบคอบ หลังพบมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ทรูบุกถึงบ้าน หลอกติดตั้งอินเทอร์เน็ตและเปลี่ยนอุปกรณ์ ทำให้ชาวบ้านในหลายพื้นที่ภาคอีสานเสียหายจำนวนมาก
ภัยใกล้ตัวของผู้บริโภคที่ต้องเฝ้าระวังจากการมีมิจฉาชีพเข้าหลอกลวงปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทต่าง ๆ เกิดขึ้นมาโดยตลอด เพื่อปลอมแปลงข้อมูลให้ประชาชนหลงเชื่อโอนเงิน มาจนถึงปัจจุบันที่มีภัยรูปแบบใหม่ คือการหลอกติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้าน โดยแอบอ้างเป็นบริษัทมือถือรายใหญ่ ดังนั้นประชาชนควรตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน และเข้าไปตรวจสอบผ่านคอลเซ็นเตอร์ของบริษัทมือถือต่างๆ ก่อนที่จะตกลงโอนเงิน
วิทยา บุญฉวี ประธานเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคจำนวนมาก เนื่องจากมีบุคคลแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ บริษัท ทรู ครอเปอร์เรชั่น จำกัดมาแนะนำการติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้าน และอ้างว่าจะสนับสนุนอุปกรณ์ เช่น กันสาด เต็นท์ ผ้าปูโต๊ะ ของทรู รวมถึงเสนอจะเปลี่ยนเราเตอร์อินเทอร์เน็ตให้ใหม่ในหลายพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้มีผู้เสียหายจำนวนมาก
ทั้งนี้ เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคผู้เสียหาย จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของบริษัท ทรู ครอเปอร์เรชั่น ซึ่งทางบริษัทได้ทำหนังสือตอบกลับมาว่า บุคคลดังกล่าวไม่ใช่พนักงานของบริษัท และให้ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีเอง จึงถือว่าการกระทำดังกล่าวจึงสร้างความเสียหายต่อผู้บริโภคในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

“แนวทางหลอกหลวงของมิจฉาชีพจะใช้แนวทางนำเสนอโปรโมชั่นราคาอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่ราคาถูก ตั้งแต่ 299 บาท 599 บาท ไปจนถึงราคา 799 บาท พร้อมได้รับของรางวัลพิเศษผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อกับโปรโมชั่น โดยจากการได้สอบถามประชาชนในพื้นที่อุบลราชธานีได้รับความเสียหายจำนวนกว่า 50 ราย โดยผู้เสียหายบางคนได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า”
ขณะเดียวกันสภาผู้บริโภคตรวจสอบพบว่ามิจฉาชีพรายนี้ยังไปหลอกหลวงในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ จึงต้องแจ้งเตือนให้แก่ประชาชนเฝ้าระวังข้อมูล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีการถูกหลอกลวงตามมา หรืออาจใช้แนวทางว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทอื่นๆ ไปหลอกต่อเนื่องได้อีก
สำหรับคำแนะนำต่อผู้บริโภคที่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ในเรื่องติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้าน
- หากมีเจ้าหน้าที่มาติดต่อถึงบ้าน ควรตรวจสอบชื่อและรหัสพนักงานก่อนทุกครั้ง
- ควรมีการติดต่อกับ คอลเซ็นเตอร์ (Call Center) ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่เปิดใช้งาน
- รวมถึงไม่ควรรีบเซ็นสัญญาหรือชำระเงิน หากยังไม่ได้ตรวจสอบกับบริษัทโดยตรง
ทั้งนี้ประชาชนที่กำลังประสบปัญหานี้ ควรดำเนินการแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th และสามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสเข้ามายังสภาผู้บริโภคได้ที่ สายด่วน 1502 หรือช่องทางออนไลน์ https://complaint.tcc.or.th/complaint
ทางด้านช่องทางตรวจสอบ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ดำเนินการได้ผ่านทางค่ายมือถือที่ใช้บริการ ดังนี้
- เครือข่ายทรู หมายเลข 1242
- เครือข่ายเอไอเอส หมายเลข 1175
- เครือข่ายดีแทค หมายเลข 1678